.jpg)
หัวหน้าพรรคก้าวไกลให้สัมภาษณ์ล่าสุด เรื่องแนวนโยบายแก้ไขกฎหมายอาญามาตรา ๑๑๒ ว่าจะเป็นทางออกของความขัดแย้งรุนแรงทางอุดมการณ์เกี่ยวกับสถาบันกษัตริย์ ชี้ให้เห็น (เป็นครั้งที่ ๕๐๕ ด้วยเหมือนกัน) ว่า “แก้ไข ไม่ใช่ล้มล้าง”
ท่ามกลางแรงโหมจากฟากขวาสุดกู่ ที่เวลานี้ทำทุกวิถีทาง พูดใส่ความทุกซอกมุม โดยเฉพาะในการยื่นฟ้องศาลรัฐธรรมนูญให้สั่งการว่า การเสนอร่าง “เพื่อยกเลิก” ม.๑๑๒ ของพรรคก้าวไกล เป็นการ ‘ล้มล้าง’ การปกครอง ปชต.อันมีกษัตริย์ หรือไม่
ซึ่งการฟ้องของนายธีรยุทธ์ สุวรรณเกษร ผู้ร้องครั้งนี้ยื่นไว้กับอัยการสูงสุดแล้วตั้งแต่ ๓๑ พฤษภา แต่อัยการฯ ไม่ได้ดำเนินการส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญภายใน ๑๕ วัน (ตามมาตรา ๔๙ วรรค ๓) จึงมาฟ้องศาล รธน. ศาลฯ เด้งรับทันควัน
“ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาแล้ว มีมติให้สอบถามอัยการสูงสุด ว่ามีคำสั่งรับหรือไม่รับดำเนินการตามที่ร้องขอ ดำเนินการแล้วอย่างไร และผลการดำเนินการเป็นอย่างไร” ให้เวลา ๑๕ วันอัยการฯ แจ้งกลับ ซึ่งในรูปการณ์แบบนี้ Atukkit Sawangsuk ชี้ว่า
“ศาลทำได้นะ แค่ใจหนาๆ หน่อย” เท่านั้น ซ้ำยังมีนิติบริกรของรัฐบาล ‘ประยุทธ์’ พยายามชี้โพลงให้กะรอก วิษณุ เครืองาม บอกถ้าศาล รธน.ตัดสินว่าการหาเสียง ชูนโยบายแก้ไข ม.๑๑๒ เป็นความผิดละก็จะเป็น “ชี้สารตั้งต้นร้อง ‘ยุบก้าวไกล’ ได้
แน่ละ ถ้าหนาจริงย่อมทำได้ และก็มีตัวอย่างมาแล้วว่าหนาพอจึงได้ทำ จนได้รับฉายาไม่ทางการว่า “รัดทำนวย” แต่การวินิจฉัยเช่นนั้นของศาลอย่างเลี่ยงบาลี ย่อมเป็นการ ‘ข่มเขาโค’ ต่อเจตนารมณ์ของประชาชน ดังเลขาฯ ก้าวไกล ชัยธวัช ตุลาธน ชี้แจง
กรณีมีข่าวเสนอแนะพรรคก้าวไกล ‘ลดเพดาน’ ข้อเรียกร้องแก้ไข ม.๑๑๒ ลงไป ว่า “นโยบายและความเหมาะสมของแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของแต่ละพรรค ประชาชนได้แสดงออกและตัดสินใจใช้วิจารณญาณของตนเองไปแล้วผ่านการเลือกตั้ง”
(https://twitter.com/weeranan/status/1673535678657994754, https://www.matichon.co.th/politics/news_4049720#google_vignette และ https://www.facebook.com/photo/?fbid=6423640177717757&set=a.1744875672260921)
