วันศุกร์, มิถุนายน 23, 2566

‘ณัฐวุฒิ’ ยอมขัดใจมิตรหลายคน ปม ‘ประธานสภา’ ย้ำเพื่อไทย ‘อย่าเสียเก้าอี้ในหัวใจ ปชช.’ เร่งหาข้อยุติก่อนวันเลือกจริง แต่ละก้าวเต็มไปด้วยกับดัก



‘ณัฐวุฒิ’ บอกตรงๆ แต่ละก้าวกับดักเพียบ ย้ำ พท. แพ้ให้คม ‘อย่าเสียเก้าอี้ในหัวใจ ปชช.’

22 มิถุนายน 2566
มติชนออนไลน์

‘ณัฐวุฒิ’ บอกตรงๆ ยอมขัดใจมิตรหลายคน ปม ‘ประธานสภา’ แต่ละก้าวเต็มไปด้วยกับดัก ย้ำเพื่อไทย ‘อย่าเสียเก้าอี้ในหัวใจ ปชช.’ เร่งหาข้อยุติก่อนวันเลือกจริง

เรียกว่าไม่มีใครยอมใคร สำหรับปมร้อนอย่าง ‘เก้าอี้ประธานสภาผู้แทนราษฎร’ หลังผ่านพ้นคืนวันที่ 21 มิถุนายน คืนซึ่งบรรดาว่าที่ ส.ส.พรรคเพื่อไทย (พท.) กว่า 90 เปอร์เซ็นต์ จาก 141 คน ต่างเห็นแย้งกลางวงสัมมนาของพรรค ไม่ยินยอมให้ก้าวไกล (ก.ก.) ที่ชนะ ได้มากกว่าแค่ 10 เสียง คว้าที่นั่งสำคัญไปต่อหน้าต่อตา แม้ว่าจะโยนทีมเจรจาเคลียร์ปมร้าวที่เกิดขึ้นเพื่อหาตรงกลาง ยุติการฟาดฟันในเรื่องนี้มาสักพัก (27 พ.ค.) แล้วมุ่งหน้าจัดตั้งรัฐบาล สกัดการสืบทอดอำนาจก็ตาม

ทว่า ด้วยความที่เป็นตำแหน่งสำคัญ มีผลต่ออำนาจในการกำหนดวาระ หรือแม้แต่เลือกญัตติที่จะเข้าสู่สภาแก้ปัญหาสังคมไทยในมุมต่างๆ ภาพในวันนี้จึงเห็น นายอดิศร เพียงเกษ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย (พท.) ออกมาให้ความเห็นย้ำอีกครั้ง หลังเข้ารายงานตัวต่อสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนฯ ในขณะที่นักวิชาการด้านรัฐศาสตร์ และผู้คนแวดวงการเมือง ก็ไม่รีรอออกมาปรามพรรคเพื่อไทยให้นึกถึงหลักการ ให้เกียรติพรรคอันดับ 1

เช่นเดียวกับ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย ที่ออกมาโพสต์ข้อความผ่านทางเฟซบุ๊กถึงกรณีตำแหน่งประธานสภา หลังจากมีสื่อมวลชนหลายสำนักติดต่อเพื่อขอความเห็นในประเด็นดังกล่าว โดยระบุว่า สื่อมวลชนถามมาทุกทิศทาง ขอตอบตรงนี้

เรื่องประธานสภา ผมเห็นด้วยกับหลักการของทีมเจรจาพรรรคเพื่อไทย คือประธานเป็นของพรรคอันดับ 1 หลักคิดคือ คะแนนน้อยกว่า แต่ใจไม่ได้เล็กกว่า แพ้ให้คม แล้วสร้างชัยชนะขึ้นใหม่

แต่จะให้วิพากษ์วิจารณ์พรรคเพื่อไทย หรือพี่น้องในพรรคที่เห็นต่าง ผมไม่ทำ เพราะเราเพิ่งผ่านศึกสำคัญ บาดเจ็บมาด้วยกัน และผมเป็นคนหนึ่งในทัพใหญ่ ย่อมต้องมีส่วนรับผิดชอบต่อผลการเลือกตั้งที่ผ่านมา

เป้าหมายใหญ่อยู่ที่การตั้งรัฐบาลประชาธิปไตย และจะตั้งได้ 2 พรรคหลักต้องจับมือกัน จะด้วยเหตุใดก็ตามหากนำมาสู่การแตกหักแยกทางถือว่าผิด ซึ่งประชาชนจะตัดสินในที่สุด

คณะเจรจา 2 พรรคต้องหาข้อยุติกันให้ได้ก่อนวันเลือกประธานสภา ถ้าฟรีโหวตฝ่ายรัฐบาลเดิมจะแทรกเข้ามา แต่ละก้าวเต็มไปด้วยกับดัก ฝ่ายประชาธิปไตยชนะเลือกตั้งถล่มทลาย แต่ถ้าแพ้ทางการเมือง โดยเพื่อไทย ก้าวไกลไม่ได้ตั้งรัฐบาล หรือ 2 พรรคแตกกัน ชัยชนะของประชาชนจะลับหาย

ผมคงขัดตา ขัดใจเพื่อนมิตรหลายคนในเรื่องนี้ แต่ด้วยความปรารถนาดี เราอยู่ด้วยกันตั้งแต่วันรุ่งเรือง ทุกครั้งพรรคมีเรื่องผมก็ไม่เคยถอยหนี

เพื่อไทยอาจได้หรือไม่ได้เก้าอี้ตัวใด แต่ต้องไม่สูญเสียเก้าอี้ในหัวใจประชาชน

(https://www.matichon.co.th/politics/news_4043073)