น่าจะเพราะ “มีรถบัส รถแวน นับร้อยคันในการขนคนมาร่วมงาน เฉพาะจากจังหวัดชลบุรี น่าจะมีรถบัสไม่ต่ำกว่า ๖๐ คัน” ตามที่ สมชัย ศรีสุทธิยากร ชี้ “เข้าข่ายทำผิดกฎหมายเลือกตั้งกี่มาตรานี่” เฉพาะข้อนี้เหมือน “ขนคนมาฟังปราศรัย”
สมชัยว่าเข้าข่าย “พ.ร.ป.เลือกตั้ง ส.ส. มาตรา ๗๓(๔)” จะมีการจัดเลี้ยงอาหารบนรถด้วยหรือไม่ ไม่เป็นไร แต่ในงานเลี้ยงทั้งอาหารและน้ำ ห้ามผู้เข้าร่วมพกพาเข้าไป ส่วนการแสดงดนตรี ‘หรั่ง ร็อคเคสตร้า’ นั้นผิดมาตรา ๗๓(๓) ได้
อีกประเด็น “นักการเมืองประยุทธ์ ลากิจจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เพื่อไปสมัครเป็นสมาชิกพรรคตั้งแต่บ่ายโมง ใช้รถส่วนตัว ไม่มีตำรวจนำ ดูเป็นการพยายามทำตามคำแนะนำไม่ให้ผิดกฎหมาย” แต่ว่าลากิจต้องล่วงหน้า ๓ วัน ไม่ใช่ปุ๊บปั๊บกระทันหัน
“ทั้งหมดนี้ คือสิ่งที่ กกต.ต้องตอบคำถาม เพราะ กกต.ได้ส่งเจ้าหน้าที่ไปสังเกตการณ์การจัดประชุมแล้ว จะต้องรายงานต่อที่ประชุม กกต.ในต้นสัปดาห์หน้า ไม่มีคำตอบ ไม่ทำอะไร ก็เตรียมใจบางอย่างได้ครับ” พูดอย่างนี้เผือกไปร้อนที่ กกต.
มาถึงความอล่างฉ่างของพรรคในสังกัด ประยุทธ์ จัน ที่รู้จักกันทั่วไปว่า สว.ตู่ตั้ง ๒๕๐ คน ซึ่งเป็นข้อได้เปรียบที่คณะรัฐประหารออกแบบมา เพื่อให้ประยุทธ์ชนะทุกครั้งในการโหวตลงมติสำคัญ รับประกันให้ประยุทธ์ได้เป็นนายกรัฐมนตรี
ครั้นเมื่อ อาร์ท เอกรัฐ สัมภาษณ์ สว.เสรี สุวรรณภานนท์ ว่าถ้าพรรคฝ่ายค้านรวมกันได้เสียงเกิน ๒๕๐ เตรียมจัดตั้งรัฐบาล “ถึงวันโหวตนายกรัฐมนตรี จะโหวตให้อย่างไร” เสรีตอบว่าก็ต้องเป็นไปตามต้นทางน้ำ มาจากทางไหนก็ไหลไปทางนั้น
“นี่ฝืนมติประชาชนนะ” อาร์ทว่า เสรีตอบหน้าตาย “ไม่ได้ฝืนอะไรเลย” แล้วอธิบายว่า คะแนนเสียงที่ประชาชนเลือกนั้น “ถามว่าแล้วได้เกินกว่ากึ่งหนึ่งของรัฐสภาไหม” อ้างเงื่อนไของค์ประกอบตามรัฐธรรมนูญ (ที่ คสช.สั่งออกแบบ)
เสียแต่ว่าคราวหน้านี้ ไม่ได้ไหลไปต้นทางที่ประยุทธ์คนเดียว ยังมีอีกสาย ‘บ้านป่ารอยต่อ’ ของพี่ใหญ่ ๓ ป.นั่นไง
(https://twitter.com/EakaratTkn/status/1612507969639575553 และ https://mgronline.com/uptodate/detail/9660000002541)
