วันอาทิตย์, มกราคม 29, 2566

บันทึกเยี่ยมเก็ท ‘จากแดน 2 สู่ แดน 4’


โมกหลวงริมน้ำ
10h ·

บันทึกเยี่ยมเก็ท ‘จากแดน 2 สู่ แดน 4’
ทนายเข้าไปเยี่ยมเก็ท เก็ทก็ยังร่าเริงอยู่เสมอ เมื่อได้เข้าไปเยี่ยมเก็ท เนื่องจากวันนี้สิทธิโชคก็ถูกเบิกตัวมาพร้อมกัน ทำให้ทนายต้องคุยกับทั้งคู่ แล้วเก็ท และสิทธิโชคเห็นภาพที่ทนายต้องยกหูโทรศัพท์เยี่ยมทั้งสอง 2 แบบนี้แล้ว ขำออกกมาทั้งคู่ พร้อมกับได้กล่าวออกมาว่า ‘ถ้ามีโทรศัพท์ผมก็อยากจะถ่ายภาพนี้เก็บไว้เลย’ พร้อมเสียงหัวเราะอย่างร่าเริง
เก็ทได้บอกว่าก่อนหน้านี้โดนผู้คุมข่มขู่ คุกคาม ด้วยคำพูดดูหมิ่นลดทอนศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ เช่น
มีผู้คุมได้พูดว่า
-คนอย่างคุณจะตายอย่างไร้ค่า
-เป็นแค่ฝุ่น ไม่สามารถเปลี่ยแปลงสังคมได้หรอก
-คุณคิดจะพลิกฟ้าด้วยฝ่ามือหรือ เป็นไปไม่ได้หรอก
ตอนนี้เก็ทพึ่งย้ายมาแดน 4 ได้ วัน สองวันแล้ว แดน 4 ต่างกับแดน 2 มาก คึกคักเจี๊ยวจ๊าวสุดๆ ต้อมกับเก่งทะลุแก๊สดูแลเก็ทดีมาก แต่เก็ทรู้สึกว่าทั้งสองคนทำเป็นเข้มแข็งอยู่ตลอด ทำตัวตลกไปงั้นแหละ เก็ทเคยพูดกับเก่งว่า ‘ให้ร้องไห้บ้างก็ได้ ไม่โอเคบ้างก็ได้’ แต่เก่งมักตอบกลับมาว่า จะโอเคหรือไม่ ยังไงผมก็ต้องอยู่ในนี้อยู่ดี นักเคลื่อนไหวในเรือนจำมักตั้งคำถามว่าทำพวกเขาต้องโดนขังอยู่ในนี้ ทำไมพวกเขาต้องมาอยู่ที่นี่นะ
เก็ทเล่าว่าเมื่อไม่นานมานี่ เก่งโดนตวาดเรื่องเงินๆทองๆ ต่อหน้าคนหมู่มากในเรือนจำ หรือบางครั้งมีผู้ป่วยจิตเวชหนีออกกำลังกายตอนเช้า เก่งก็โดนผู้ช่วยผู้คุมตบหัวเสียงดังลั่นแดนเลย ในตอนเช้าจะโดนสั่งหมอบคลานลุกนั่ง ไม่รู้พวกเขาทำไปทำไม พวกเขาไม่มีสิทธิ์มาใช้กำลังบังคับพวกเราด้วยซ้ำ ในบางครั้งผู้คุมจะบอกว่าผู้ต้องขังทางการเมืองเดินออกไปได้ แต่ตัวเก็ทก็คิดว่า แล้วคนอื่นที่ออกมาไม่ได้หล่ะ จะเป็นยังไงต่อไป
เรื่องภรรยาของตู่ห่าวที่ไม่ได้ถอนประกัน ตัวเก็ทมองว่ามาตรฐานมันไม่มีเลย เป็นพวกมากลากไป ใครประนีประณอมได้มากกว่าก็ได้ออกก่อนหรือ?
เก็ทนึกถึงตะวัน และแบมตลอด พูดเสมอว่า ‘ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับผม มันไม่แย่เท่าตะวันและแบมหรอก’ เก็ทรู้สึกแย่และรู้สึกเศร้าเมื่อรู้ว่าอาการแบม และตะวันไม่ดีเลย เก็ทได้กล่าวว่า ‘พวกเขาตายได้ทุกเมื่อเลยนะ’
เมื่อเก็ททราบว่าพรรคฝ่ายค้านแถลงการณ์สนับสนุนการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม เก็ทได้กล่าวว่า ‘นี่ก็เป็นอีกก้าวที่มีความคืบหน้า’
“อย่างน้อยที่สุด พรรคการเมืองที่เป็นตัวแทนของประชาชน แค่นี้ทำไม่ได้เหรอ คุณถูกพรากอำนาจไป 8 ปีแล้วนะ ประชาชนที่สนับสนุนคุณเค้าโดนคดี สมาชิกพรรคเพื่อไทยบางคนยังมีคดีคาอยู่เลย มันเป็นการประเมินคุณภาพของขั้วอำนาจอธิปไตย ผมใจไม่ค่อยดี เพราะผมรู้ว่าน้องกับเพื่อนผมพร้อมตายได้จริง พวกคุณไม่สงสัยกันบ้างเหรอว่าทำไมมันยังมีการอดอาหารประท้วงในเรือนจำไม่จบไม่สิ้น ฝากถึงผู้มีอำนาจ ที่ยังมีคนทำแบบนี้ เพราะเขารู้ว่าเขาไม่ผิดไง เขาควรจะได้สิทธิประกันตัวออกไปข้างนอกเหมือนคนอื่น ทุกคืนที่เขามองลูกกรง เขารู้สึกแบบนั้น ตะวันกับแบมก็เหมือนกัน”
ทุกวันนี้ เก็ทเดินรอบตึก 112 รอบ ถ้าอยู่ในห้องก็จะวิ่งรอบห้อง 112 รอบ ตอนเรือนจำเปิดเพลงสรรเสริญก็นั่งลง บางคนก็นอนไปเลย การประท้วงจะมีเรื่อยๆ
“อย่างตอนกินข้าว เค้าจะให้ท่องว่า เรากินเพื่ออยู่ และมีท่อนที่บอกว่า ข้าพเจ้ามีโทษทำความผิดมา จึงต้องมาอยู่ในเรือนจำ ท่อนนี้ผู้ต้องขังทางการเมืองจะเงียบกันหมดเลย”
ตะวันชอบพูดว่า ถ้าผู้มีอำนาจมีความเป็นมนุษย์สักนิด เขาจะไม่ทำแบบนี้กับพวกเรา เรียกว่ามีสามัญสำนึกดีกว่า ถ้าเรื่องมันเกิดขึ้นกับคนที่คุณรัก เกิดขึ้นกับลูก กับพ่อแม่คุณ ถ้าเขาต้องมาเจอความไม่เป็นธรรมแบบนี้ คุณจะรู้สึกยังไง พวกเราเองก็เป็นลูกของพ่อแม่ มีคนที่รักและรออยู่เหมือนกัน
ข้อเรียกร้องทั้ง 3 ข้อ อย่างน้อยบอกว่า รับข้อเรียกร้องแล้วจะไปประชุมกับคณะกรรมการอะไรก็ว่าไป แค่ออกมา response แค่นี้ ทำไม่ได้เลยเหรอ
“ก่อนที่จะเป็นผู้พิพากษา ตอนคุณเรียนนิติศาสตร์ คุณเคยมีอุดมการณ์อะไร จำได้รึเปล่า คุณต้องการคนแบบนวมทอง ไพรวัลย์ อีกกี่คน”
ผมก็พร้อมจะเทคแอคชั่นในเรือนจำ แม้ว่าผมจะโดนล่ามตรวน หรือถูกขังเดี่ยวในห้องมืดก็ตาม
28/01/2023
บันทึกจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร