เรื่องแว่บไปเจอะ ‘ทักษิณ’ ที่ลอนดอน ก็พอทำเนา เพราะสัญญานยุบสภามาแน่ แต่พอใกล้ยุบสภาหุนหันย้าย ผอ.โรงพยาบาลจะนะไปไว้ปลายนานี่สิ เหมือนปัดกวาดพื้นที่ไว้สำหรับปูเสื่อเพื่อจะได้ ‘นอนมา’ แบบ คสช.เคยทำ
อนุทิน ชาญวีรกูล ปฏิเสธหน้าตายว่า “ไม่ได้เจอ” กับทักษิณ ชินวัตร ระหว่างที่วกไปประเทศอังกฤษหลังจากเสร็จประชุมเวิร์ลด์ เอคอนอมิค ฟอรัม ในดาวอส สวิตเซอร์แลนด์ ตามที่มีข่าวลือในแวดวงการเมืองว่าไปเจรจาดีลกัน
ข่าวกรุงเทพธุรกิจระบุช่วงเวลาดังกล่าวมีรัฐมนตรีขาดประชุมหลายคน นอกเหนือจากอนุทิน ไม่ว่าจะเป็นประวิตร วงษ์สุวรรณ อาคม เติมพิทยาไพสิฐ ดอน ปรมัตถ์วินัย และตรีนุช เทียนทอง แต่ข่าวเจาะจงอนุทิน ทำไมต้องโฉบไปลันดั้น
น่าจะภาษากายบอกใบ้ เหมือนกับการสั่งย้ายนายแพทย์สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ ไปเป็น ผอ.โรงพยาบาลสะบ้าย้อย สุดขอบจังหวัดสงขลา “ห่างจากตัวอำเภอประมาณ ๑๐๐ กิโลเมตร” เป็นโรงพยาบาลที่ ‘หมอจุ๊ก’ ถูกส่งไปประจำเมื่อจบแพทย์ใหม่ๆ
มันมีเบื้องลึกลับลมคมใน “พบว่ามีความพยายามจะย้ายผมมาช่วงหนึ่งแล้ว แต่ท่านปลัดกระทรวงไม่ยอมเซ็น แต่ให้ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุขเป็นคนเซ็น” ผู้ตรวจการคนนั้นก็ไม่กล้าเซ็น เลยโดนย้ายไปก่อน ผู้ตรวจการคนใหม่เข้ามาเซ็นทันที
มีการจัดฉากกันอย่างรอบคอบ สองวันก่อนหน้าคำสั่งย้ายหมอสุภัทรจะออก มีหนังสือของปลัดกระทรวงประกาศหลักเกณฑ์ใหม่ ให้อำนาจผู้ตรวจราชการสาธารณสุขย้ายผู้อำนวยการโรงพยาบาลชุมชนได้ หมอจุ๊กบอกว่าเรื่องนี้ถึงศาลปกครองแน่
มิหนำซ้ำจะมาพร้อมกับการฟ้องร้องทางอาญา (มาตรา ๑๕๗) “คำสั่งย้ายผมหลุดออกมาทางสื่อ โดยที่ผมไม่ได้เห็นก่อน จะย้าย ผอ.รพ.บ้านนอกสักคน ต้องทำพิรุธเป็นขั้นเป็นตอนเพียงนี้เชียวหรือ” หมอสุภัทรไม่ถึงกับชี้หน้า แต่ว่าชูกำปั้น
๒๗ มกรา “คำสั่งย้ายที่เป็นทางการยังมาไม่ถึงผม” หมอสุภัทรตั้งแง่ว่า “๒๖ มกราคม ๒๕๖๖ คำสั่งย้ายผมหลุดออกมาทางสื่อ...ตำแหน่งผมเป็นตำแหน่งวิชาการระดับเชี่ยวชาญ ไม่มีเกณฑ์ที่ต้องถูกย้ายตามวาระ เหตุความผิดที่ต้องถูกย้ายก็ไม่มี”
พูดง่ายๆ ย้ายการเมือง “เนื่องจากตลอดเวลาที่ผ่านมา ‘หมอสุภัทร’ ถือเป็นตัวตั้งตัวตีในการตรวจสอบนโยบายของรัฐบาลและกระทรวงสารณสุข” ทั้งด้านการรับมือโควิด-๑๙ นโยบายจัดหาวัคซีน จัดซื้อชุดตรวจเอทีเค โดยเฉพาะนโยบายกัญชาเสรี
(https://www.voicetv.co.th/read/K_vK1mFsh และ https://today.line.me/th/v2/article/Vxgkx1J)