วันศุกร์, มกราคม 27, 2566

หยิบปากกาขึ้นมาให้พร้อม #ปล่อยเพื่อนเรา แล้วเดินหน้าไปเลือกตั้งครับ - ยิ่งชีพ (เป๋า)



Yingcheep Atchanont
7h
เป็นครั้งแรกในชีวิตที่ผมไปขออาสาขึ้นปราศรัยเอง หลังเมื่อวานนั่งประชุมกับไผ่ และคนอื่นๆ เพื่อเตรียมแผนจัดการอาสาสมัครสังเกตการณ์เลือกตั้งแสนคน พอจบประชุมไผ่ก็ถามว่า เมื่อยืนครบ 112 ชั่วโมงแล้วต้องทำยังไงต่อ ทุกคนในที่นั้นก็ช่วยระดมไอเดียมา ว่าเราต้องอธิบายถึงสถานการณ์เหตุผลที่กดดันให้ตะวันต้องเรียกร้องแบบนี้ และชวนกันให้สร้างทางออก สร้างความเป็นไปได้ที่จะไปให้ถึงข้อเรียกร้องตามกระบวนการที่มีอยู่
พอเห็นด้วยกันหมดแล้วก็มองซ้ายมองขวาว่าจะทำยังไงล่ะ ผมที่เหนื่อยมากแล้ว ก็ยังดันอาสาไปว่า "เดี๋ยวพรุ่งนี้เย็นกูไปอ่ะ" ทั้งที่ก็มีนัดอื่นๆ รายล้อมไปหมด
เมื่อแพนแว้นมอไซค์มาให้จนถึงแล้ว ก็เห็นปูนอยู่บนเวที ไผ่ไปดีดพิณ แล้วก็เดินมากระซิบว่า พี่พูดหน่อยนะ คนอื่นติดเงื่อนไขกันหมดแล้ว... ผมเตรียมมาแล้ว ... หลังพูดจบพบว่า ไมค์ อานนท์ รวมทั้งไผ่เองก็ขึ้นไปพูด ทั้งที่ทุกคนติดเงื่อนไขห้ามจัดการชุมนุม แอมมี่ มาย ปูน พี่บอย บุ้ง คนที่มาพูดใส่ EM กันหมด มีผมคนเดียวที่ตัวโล่งๆ พัวพันอยู่ 13 คดีแต่ไม่มี EM ก็นับถือหัวใจคนอื่นที่ไม่กล้าปล่อยให้ตะวันตาย วันนี้เมื่อทุกคนออกตัวกันมาขนาดนี้แล้ว ผมยังไม่อาสามาพูดเอง คงอับอายถ้า #ตะวันแบม เป็นอะไร
อยากให้ทั้งสองคนได้มาเห็น ได้มายืนอยู่ด้วยกันในวันนี้ครับ และวันเลือกตั้งด้วย
ข้างล่าง คือ สคริปในมือที่ทำถึงตีสาม
ภาพจาก กันต์ แสงทอง
.
ดีใจมากที่ได้เจอทุกคนครับ
ผมอยากเห็นแบมและตะวัน มายืนอยู่ตรงนี้ และได้เห็นภาพที่มีทุกคนอยู่ตรงนี้ด้วยกันครับ
ในฐานะคนที่อายุมากกว่าทำงานมานานกว่า ผมเสียใจครับที่ต้องส่งต่อสังคมที่ทำให้คนรุ่นใหม่รู้สึกหมดหวัง รู้สึกว่าระบบที่เป็นอยู่มันพึ่งพาอะไรไม่ได้ จนพวกเขาต้องเลือกวิธีการเอาชีวิตเข้าแลก เรารู้สึกว่ามีส่วนต้องรับผิดชอบกับสถานการณ์วันนี้ด้วย การที่เราไม่สามารถบอกเขาได้ว่า ให้เลือกสู้ทางอื่นก็ยังมีหวังไม่ต้องเอาชีวิตเข้าแลก เรารู้สึกว่ามีส่วนต้องรับผิดชอบด้วย การที่เราเกิดก่อนแต่เราปล่อยให้มีรัฐธรรมนูญ2560 มีการสืบทอดอำนาจของคสช. มีกฎหมายใช้ปิดปากคุมขังคนมากมาย เรารู้สึกว่ามีส่วนต้องรับผิดชอบด้วย
อย่างน้อยที่สุด พวกเขาทำให้เรามายืนอยู่ตรงนี้ได้
และสิ่งที่อยากให้เขารับรู้มากๆ คือ ให้รับรู้ว่าพวกเรามาอยู่ตรงนี้แล้ว
ให้รับรู้ว่าพวกเขาไม่ได้สู้อยู่ลำพัง
(ขอเสียงปรบมือยาวๆ ดังๆ ให้ตะวันและแบมได้ยิน)
.
ช่วงเวลาหลายเดือนที่ผ่านมามันหดหู่และเงียบงันเกินไปครับ
มันเหี่ยวเฉา แต่ก็มีเรื่องราวต่างๆ มากมายเกิดขึ้น
ซึ่งเข้าใจได้ไม่ยากว่า เมื่อเจอเรื่องเหล่านี้ในสถานการณ์เช่นนี้ ก็เลยเป็นเหตุให้สองคนต้องเลือกทางนั้น ซึ่งจะขอเล่าสักสามเรื่องละกันครับ
(1)
เรารู้กันไหมครับว่านี่เป็นยุคที่มาตรา112 ถูกใช้อย่างกว้างขวางมากที่สุด สองร้อยกว่าคดีเข้าไปแล้ว
วันนี้มีคนอยู่ในเรือนจำด้วยมาตรา 112 แล้ว 8 คน
สองคน คือ ป้าอัญชัญ กับพลทหารเมธิน คดีถึงที่สุดแล้ว
สามคน คือ พี่สมบัติทองย้อย, ก้อง ทะลุราม และสิทธิโชค ฟู้ดแพนด้า ศาลชั้นต้นให้ติดคุก พวกเขามีสิทธิอุทธรณ์แต่ไม่ได้ประกันตัว
“เอก” ใบปอ เก็ท ยังไม่มีคำพิพากษาก็ไม่ได้ประกันตัวแล้ว
วันนี้บาสก็เพิ่งถูกพิพากษาไปแล้ว 28 ปี
และยังมีน้องๆ ทะลุแก๊สอีกมากที่อยู่มายาวนาน ศาลก็ไม่มีเหตุเปลี่ยนแปลงคำสั่งเสียที
เดือนนี้มีนัดฟังคำพิพากษา คดี 112 ห้าคดีครับ จนถึงมีนาคมมีนัดแล้ว 12 คดี
ไม่รู้ว่าจะมีคนเดินเข้าเรือนจำอีกเท่าไร และไม่รู้ว่าจะได้ออกมากันเมื่อไร
ซึ่งบรรยากาศหลายเดือนที่ผ่านมาคนแทบไม่รับรู้ ไม่รับรู้ว่ามีคดีอะไรบ้าง ไม่รับรู้ว่าตัดสินกันยังไงบ้าง และไม่รับรู้ว่าใครอยู่ในคุกบ้าง
จนกระทั่ง ตะวันและแบม ออกมาบอกให้เราสนใจ
(2)
เรารู้กันไหมครับว่า กระบวนการของคดีมาตรา 112 ที่ผ่านมามันแปลกขนาดไหน
ตะวัน และเก็ท ถูกเรียกไปถอนประกัน โดยที่ตำรวจเจ้าของคดีกับอัยการที่เป็นโจทก์ก็ไม่รู้เรื่อง
ศาลดูข่าวแล้วศาลตั้งเรื่องขอถอนประกันเองก็ได้
ผู้พิพากษาที่ขึ้นบัลลังก์มาไต่สวนก็ยอมรับเองว่า แค่มาทำกระบวนการ แต่ไม่มีอำนาจตัดสินใจ
ใช่ครับ มีคนอยู่หลังบัลลังก์ที่ผู้พิพากษาต้องเดินไปปรึกษาก่อนเสมอ
แล้วคนที่ตัดสินใจแทนผู้พิพากษาทุกคน ก็เป็นคนอยู่ไม่กี่คนที่ไม่ได้เรียนจบแค่นิติศาสตร์มา แต่ยังไปเรียนวปอ. หลักสูตรทหารมาด้วย ส่วนผู้พิพากษาที่คิดได้ รู้ว่าควรจะต้องเป็นยังไง ก็ต้องอับอายและไม่กล้าทำอะไรไปกันหมด
สถานการณ์แบบนี้จะให้คนท่ีตกเป็นจำเลยรู้สึกยังไง??
แล้วสิ่งที่เกิดขึ้นในห้องพิจารณาคดีมีใครรับรู้บ้าง
จนกระทั่ง ตะวันและแบม ออกมาบอกให้เราสนใจ
(3)
เรารู้กันไหมครับว่า ตอนนี้ไม่มีพรรคการเมืองไหนเสนอ “ยกเลิก112”
ก็มีอยู่สองแบบครับ คือ พรรคที่ไม่เห็นด้วย และพรรคที่ไม่กล้า
แต่มีคนพยายามเสนอและพูดเรื่องนี้อย่างมากตลอดที่ผ่านมา มีข้อเสนอเข้าสภาแล้วประธานสภาก็ไม่ยอมให้เข้าสู่การพิจารณา มีการรวบรวมรายชื่อแล้วก็ถูกกระทรวงดีอีบล็อกเว็บไซต์ มีคนออกมารณรงค์บนถนนแล้วก็ถูกจับ ถูกคดี ถูกใส่กำไลอีเอ็ม
ซึ่งก็คือตะวันและแบม
ถ้ากระบวนการของรัฐสภามันทำงาน เราคงใช้งานช่องทางนั้น
ถ้าการแสดงออกของประชาชนมันทำได้ เราก็คงเลือกยืนพูดไปเรื่อยๆ
แต่เมื่อมันไม่ใช่ หลายคนอาจเลือกว่า งั้นก็ไม่พูด
มันเลวร้าย แล้วมันก็เงียบงันเกินไป ในช่วงเวลาที่ผ่านมา
เราหลายคนอาจจะเลือกขอพักหน่อย หรือขอไปทำอย่างอื่นบ้าง
อันนี้่เข้าใจได้
แต่ตะวันและแบม เลือกที่จะเรียกร้องให้ทุกคนยังคงพูดอยู่
แล้วคนอยากพูดที่ถูกเงื่อนไขไม่ให้ออกจากบ้าน เขาจะต่อสู้ด้วยวิธีไหน?
เมื่อมองซ้ายมองขวา ก็ไม่ได้เห็นใครกำลังทำอะไร เห็นแต่ตัวเอง มันจึงเข้าใจได้ว่าทำไมเขาถึงเลือกวิธีการต่อสู้วิธีนี้
แต่ในวันนี้ ไม่ใช่!
และเราอยากบอกให้ได้ตะวันรู้ใช่ไหมครับ ว่าเรายังอยู่ตรงนี้
เราอยากให้แบมได้ยินใช่ไหมครับ ว่าเรายังคงสู้อยู่ เราไม่ไ้ด้หยุด
ถ้าเขาได้ออกมา ได้ยืนอยู่ตรงนี้ เราจะยังคงตะโกนแล้วชูสามนิ้วด้วยกัน พร้อมกัน
สามนิ้ว พร้อมกัน “ยกเลิก112”
.
สิ่งที่ตะวันและแบมกำลังบอก เราได้ยินแล้ว ใช่ไหมครับ?
แต่เราไม่รู้ว่า ทั้งสองคนกำลังรู้หรือไม่ว่า สิ่งที่พวกเขาทำ มันได้ผลแล้ว มันได้ผลบ้าง .....
วันอังคาร ยาใจทะลุฟ้า มีนัดไต่สวนถอนประกัน เมื่อไปถึงศาลยกคำร้องเลยครับ
เมื่อวานนี้ มีคดี ม.112 ที่ศาลจังหวัดสมุทรปราการ ศาลยกฟ้องนะครับ
มีคดีพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ ที่ศาลจังหวัดพัทยา ศาลยกฟ้องนะครับ
เมื่อวานนี้ ครูใหญ่อรรถพล ไปรายงานตัวคดีใหม่ ตำรวจให้กลับบ้านเลยไม่ต้องไปศาลนะครับ
ยังมีความหวังหลงเหลืออยู่ และโอกาสของอิสรภาพยังมีอยู่
บางอย่างอาจจะได้ช้า ได้เร็ว แต่เราอยากให้น้องทั้งสองคนได้ยิน
.
อาจจะมีบางสิ่งครับ ที่ไม่ได้เปลี่ยนได้ในเร็ว 7-8 วัน แต่มันจะเปลี่ยนได้
ถ้ามีโอกาสเขียนรัฐธรรมนูญใหม่ เราออกแบบโครงสร้างอำนาจตุลาการ และปฏิรูปกระบวนการยุติธรรมใหม่ได้
ถ้าเรามีรัฐสภา และส.ส.ใหม่ เราออกกฎหมายยกเลิกความผิด ให้ยุติคดีความได้
ถ้าเรามีรัฐบาลใหม่ เราสร้างนโยบายใหม่ เราปฏิรูปพระราชอำนาจของสถาบันพระมหากษัตริย์ได้
เราสร้างความเปลี่ยนแปลงในการเลือกตั้งได้ (ใครเห็นด้วยหยิบปากกาขึ้นมา ใครไม่มีปากกาชูนิ้วหนึ่งนิ้วครับ)
การเลือกตั้งอาจจะถูกควบคุม ไม่บริสุทธิ์ ไม่โปร่งใส
แต่ถ้าเราช่วยกันจับตาและเรียกร้อง มันอาจจะไม่แย่เกินไปได้
ส.ว. ยังมีอำนาจเลือกนายกฯ อยู่
แต่ถ้าเราช่วยกันยืนยันความไม่ชอบธรรมของเขา เราส่งเสียงได้ดังพอ เขาอาจจะไม่กล้าหน้าด้านนักก็ได้
ถ้าเราส่งเสียงเรียกร้อง สิ่งที่อยากเห็นก่อนเลือกตั้งให้ดังพอ ให้ชัดเจนพอ
เมื่อถึงวันเราก็ไปเข้าคูหา กาให้ชัด ไม่มีลังเล
ทุกสิ่งทุกอย่าง เป็นไปได้
มันอีกไม่นานเลยนะครับ
.
แต่วันนี้ผมขอยืนยัน ผมอยากเห็นแบมและตะวันได้ออกมาเลือกตั้ง
ผมอยากให้เขาเห็นวันที่เกิดความเปลี่ยนแปลงด้วยกัน
อยากให้ทั้งสองคนได้เห็นภาพที่อยู่ตรงนี้ด้วยกัน ...
สามนิ้วครั้งสุดท้าย ปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม ยุติคดีทางการเมือง ยกเลิก112 แล้วบอกว่า “ปล่อยเพื่อนเรา”