ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ ๒๐ มกรา ศูนย์ทนายเพื่อสิทธิมนุษยชนรายงานว่า อาการของทั้งสองมีทั้งเวียนหัว ปวดท้อง คลื่นไส้ พะอืดพะพะอม อ่อนเพลีย ตาลอยไม่โฟกัส พูดจาวกวน และทรงตัวไม่ค่อยไหว สำหรับ ทานตะวัน ตัวตุลานนท์นั้นอาเจียรเป็นน้ำย่อย
ชะตากรรมของทั้งคู่จะไปถึงจุดที่เรียกว่า พลีชีพเพื่อสิทธิการได้รับประกันปล่อยตัว ของบรรดานักกิจกรรมข้อหา ม.๑๑๒ ที่ถูกจองจำ หรือไม่ ดูจากสภาพการณ์นิ่งเฉยไม่น้อยในฝ่ายประชาธิปไตย ขบวนการเรียกร้องการเปลี่ยนแปลงอาจจะได้ ‘martyrs’ เพิ่ม
สะท้อนจากเสียงบนทวิตเตอร์ มีผู้ไม่เห็นด้วยกับการอดอาหารประท้วงเช่นนี้อยู่ไม่น้อย จนเกิดปฏิกิริยาจาก ‘รุ้ง’ @PanusayaS “ไม่เห็นด้วยไม่เป็นไร เราก็ไม่ได้เห็นด้วยกับวิธีการ แต่อย่างน้อยขอให้เห็นใจ พยายามเข้าใจ และอย่าด้อยค่าการต่อสู้ของน้องเลยค่ะ”
@mospruk เช่นกัน “ไม่เห็นด้วยหรือไม่สนับสนุนกับการประท้วงด้วยการอดอาหาร ไม่ได้หมายความว่าจะต้องด้อยค่า ทับถม หรือซ้ำเติมการตัดสินใจของเขา ชีวิตคนเรามีทางเลือกมากกว่านั้น” ส่วน @thetukk12 ชวนสำเหนียก
“ไม่เคยคิดด้อยค่าม็อบเด็ก แต่ศรัทธาและรักพวกเขา ไม่เคยลืมว่าสุดท้ายแล้วม็อบเด็กนี่แหละที่ทำให้คนเสื้อแดงได้กลับมามีคุณค่าและมีที่ยืนในสังคมอีกครั้งหนึ่ง หลังจากที่เคยถูกตราหน้าด่าทอเหยียดหยามถูกใส่ร้ายสารพัด”
ข้อที่ต้องสะอึก ถ้ามันเป็นเช่นนั้น ก็จาก @dog_overload ที่ว่า “ไม่เคยคิดว่าจะมาถึงจุดที่ #นางแบก มาดีเฟนด์ให้ ม.๑๑๒ แล้วนะคะ พูดจริงๆ” เธออ้างว่าเป็นผลพวงจาก “พี่โทนี่พูดใน care talk ว่า ม.๑๑๒ ไม่เป็นปัญหา พวกคุณก็ดริฟท์กันมา”
ด้าน @arnonnampa ว่าตัวเขาเองไม่กล้าเท่าเยาวชนทั้งสอง แม้มันจะเป็นทางเดียวที่จะดึงความสนใจผู้คน ต่อประเด็นการเรียกร้องของพวกเขา “ตะวันกับแบมและเพื่อนๆ ของเธอยึดสันติวิธีมาโดยตลอด และการอดน้ำอดข้าวก็เป็นสันติวิธี” ทนายสิทธิฯ เปิดใจ
แต่ไม่พ้นมีข้อตำหนิบิดเบือนจากนายโบก @ThaiDelphiOoi จนได้ “อย่าใช้การอดข้าวประท้วงเป็นเครื่องมือหาเสียงให้พรรคบางพรรคเลยครับ มันเลวที่ใช้วิธีแบบนี้” ก็เลยเจอ ‘ประวัติศาสตร์แนวเอียง’ @somsakjeam112 กระตุกจิตสำนึก
“อันนี้ใช้อะไรคิด ตรรกะนี้บ่งชัดว่า ผู้พูดพยายามด้อยค่าการกระทำของน้อง ให้กลายเป็นเครื่องมือหาเสียงของพรรคการเมือง ซึ่งไม่ต่างอะไรกับในอดีตที่สลิ่มมันเคยมองว่า เสื้อแดงเป็นเครื่องมือในการหาเสียงของทักษิณเช่นกัน”
ก็ยังมี @Esupavai ว่านี่เป็นทางเลือกของเด็กสาวทั้งสองเอง “ไม่มีใครทำร้ายเขานะ จะหวังจุดกระแสให้คนเชียร์ก็ยาก เพราะทุกคนต้องโฟกัสการทำมาหากิน หรือเดินทางท่องเที่ยวหลังโควิด” มาทางเดียวกับ ‘ThaiDelphi’ ทำตัวเป็นศาสดา
“ควรรู้จักและศึกษาคำว่าดุลอำนาจ...ถ้าอีกฝ่ายหนึ่งได้อีกฝ่ายหนึ่งเสียมักจะไม่ยอมกัน ยกเว้นคุณมีกำลังบีบบังคับ ถ้าไม่มีก็ควรหาวิธีวินวินทุกฝ่าย” แหลมคมอย่าง cunning เช่นเดียวกับทักษิณ ที่พูดถึงการรับ กปปส.เข้าเป็นผู้สมัคร ส.ส.ของเพื่อไทย
เขาบอกว่าจะเป็น กปปส.หรืออะไรที่กลับใจ ไปร่วมกับเพื่อไทย แล้วยังจะทำให้ชนะเลือกตั้งละก็ อ้าแขนรับ ไอ้หนทาง “วินวินทุกฝ่าย” แบบนี้ ThaiFreeNews @NatMother เขาว่าเป็น “ข้อแก้ตัวของพวกหรือพรรคที่ไม่มีกระดูกสันหลัง”
(https://www.matichon.co.th/politics/news_3783712 และ https://www.facebook.com/lawyercenter2014/photos/a.668860109830513/5765674790148994)
