วันอังคาร, มกราคม 31, 2566

คุยกับแก๊งเพื่อน 'ลุงไพโรจน์': เขาคือใคร และเกิดอะไรขึ้น - ประชาไท - ฌาปณกิจ วันที่ 1 กุมภาพันธ์ เวลา 16.00 น. ณ วัดตะพานหิน ต.ตะพานหิน อ.ตะพานหิน จ.พิจิตร



จากกรณี 'ลุงไพโรจน์' ชายสูงวัยที่หมดสติ หัวใจวายเฉียบพลันในช่วงระหว่างการชุมนุมยื่นหยุดขัง ที่บริเวณหน้าศาลอาญาวันนี้ (29 ม.ค.) และได้เสียชีวิตลงแล้ว ผู้สื่อข่าวประชาไทคุยกับแก๊งเพื่อนคนเสื้อแดงของไพโรจน์เพื่อรู้จักเขาให้มากขึ้น

'ลุงไพโรจน์' เป็นหนึ่งในผู้ชุมนุมที่เดินเท้าไปศาลอาญาเพื่อยื่นประกันตัวนักโทษทางการเมือง เขามีอาการเหนื่อยอ่อนและนั่งพักอยู่ที่บริเวณป้ายรถเมล์หน้าศาล จากนั้นได้หมดสติพับลงไปนอนบนฟุตบาท มวลชนที่อยู่รอบข้างจึงช่วยปฐมพยาบาลและพาส่งรพ.ราชวิถีโดยเร็ว แต่สุดท้ายเขาเสียชีวิตก่อนถึงรพ. ด้วยอาการหัวใจวายเฉียบพลัน

ภายหลังทราบชื่อว่า ไพโรจน์ โชติศรีพันธ์พร อายุราว 67 ปี เป็นประชาชนผู้รักประชาธิปไตย เขาเข้าร่วมในการต่อสู้อย่างสม่ำเสมอมาตั้งแต่สมัยคนเสื้อแดง และในวันนี้ก็เช่นเดียวกัน

14.30 น. ที่ รพ.ราชวิถี ผู้สื่อข่าวพูดคุยกับ 'มาลีและปุ๊ย' แก๊งเพื่อนเสื้อแดงของไพโรจน์


(จากซ้าย) ปุ๊ย-มาลี

มาลี เล่าว่าเธอเจอกับไพโรจน์ในม็อบคนเสื้อแดง ต่างคนต่างมาแต่ว่าเป็นขาประจำทั้งคู่จึงทำให้สนิทสนมและคอยดูแลกันตลอดมา

"ปกติเวลาอยู่ในม็อบ พี่กับเขานี่ดูโอ้เลย เราจะคอยดูเขาตลอด แต่เมื่อเช้าพี่ไม่ได้ไป"

มาลีบอก พร้อมเล่าว่าสนิทกันมาก บ้านของเขาที่ จ.พิจิตร เธอก็เคยไปเที่ยวมาแล้ว

ไพโรจน์เป็นชายสูงวัยจาก จ.พิจิตร มีพี่สาว 2 คนอยู่ที่บ้านเกิด แต่เขามาทำธุรกิจและอาศัยอยู่กรุงเทพฯ ตัวคนเดียว

ด้วยความที่บ้านของมาลี ปุ๊ยและไพโรจน์อยู่ในละแวกเดียวกัน ปกติก็จะนัดทานข้าวด้วยกันทุกวันศุกร์ที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งที่กลุ่มเพื่อนจะมาเจอกันได้ง่าย

สำหรับคนสูงวัย ทุกศุกร์ที่ได้ออกมาเจอกัน กินข้าว คุยการเมือง ระบายเรื่องเครียด ถือเป็นช่วงเวลาที่มีคุณค่ายิ่ง

แต่ว่าเมื่อศุกร์ที่ผ่านมา (27 ม.ค.) มีกิจกรรมยืนหยุดขัง พวกเขารู้สึกเป็นห่วงเด็กๆ ที่อดอาหารอยู่ในเรือนจำจนทำให้ทานข้าวไม่ลง จึงเปลี่ยนสถานที่มานัดพบกันในม็อบที่หอศิลป์แทน ทำให้ไม่ได้มีเวลาคุยกัน

"เขายังพูดๆ อยู่ว่าเป็นห่วงเจ้าตะวัน" มาลีบอก

มาลีและปุ๊ยเล่าว่า เมื่อก่อนไพโรจน์มักนำอาหารมาแจกในม็อบ และเมื่อมีการเคลื่อนไหวของม็อบราษฎรกลุ่มต่างๆ ในปี 63 แล้วมีการจับกุมเหล่าแนวหน้า พวกตนก็ผันตัวมาเป็นท่อน้ำเลี้ยงให้กับคนหน้างาน เพื่อสนับสนุนการต่อสู้ของเด็กๆ

"เขาไปสบายแล้ว" ปุ๊ยเสริม

ผู้สื่อข่าวถามว่าทั้งคู่รู้เรื่องโรคประจำตัวของไพโรจน์บ้างไหม มาลีบอกว่า ไม่เคยรู้ว่าเขามีโรคประจำตัวใดอื่น นอกจากอาการปวดหลังที่เจ้าตัวมักบ่นเป็นประจำ ซึ่งสอดคล้องกับคำพูดของ บรรศักดิ์ เกิดชัยฤทธิ์ หรือ 'ศักดิ์' หลานเขยของไพโรจน์ที่ไม่ทราบเรื่องโรคประจำตัวเช่นกัน

"ไม่เคยเห็นกินยานะ มีแต่บ่นปวดหลัง" มาลีบอก

16.00 น. ที่หอศิลป์ กรุงเทพฯ ผู้สื่อข่าวคุยกับ 'ตึ๋ง' เพื่อนอีกคนหนึ่งของไพโรจน์และเป็นคนสุดท้ายที่ได้คุยกับเขาก่อนที่จะหมดสติล้มพับลงไป


ตึ๋ง (ขวา)

ตึ๋งบอกว่าไพโรจน์เป็นหน่วยซัพพอร์ตด้านอาหารตัวยง บางทีเขาก็เป็นคนนำกระทะมาทอดไข่ด้วยตัวเอง สอดคล้องกับที่ผู้ชุมนุมคนอื่นๆ ที่จำเขาได้ เพราะเขาเอาเฉาก๊วยมาแจก

"ก็เพิ่งรู้วันนี้นี่แหละว่าเขาเป็นโรคหัวใจ" ตึ๋งบอกว่ารู้เรื่องนี้เป็นคนแรกของแก๊ง

สำหรับเหตุการณ์ในวันนี้ ตึ๋งเล่าว่าไพโรจน์นั่ง MRT มาจากบ้าน ลงที่สถานีลาดพร้าวแล้วเดินมาที่ศาลอาญาจากนั้นคงเหนื่อย จึงนั่งพักคุยกับตนที่ตรงป้ายรถเมล์ โดยบอกข่าวว่าอาการปวดหลังที่เรื้อรังมาตลอดนั้นหายแล้ว แต่ว่าตอนนี้เจอโรคใหม่แทน นั่นคือโรคหัวใจ

มาลีและปุ๊ย ทิ้งท้ายด้วยการฝากกำลังใจถึงทะลุฟ้า พร้อมบอกว่าเด็กๆ ไม่จำเป็นต้องรู้สึกผิดต่อเหตุการณ์ในวันนี้ เพราะลุงไพโรจน์จากไปด้วยโรคประจำตัว ทางข้างหน้ายังต้องสู้อีกไกล พวกตนพร้อมสนับสนุนเสมอ



ที่มา ประชาไท
2023-01-29