Jaran Ditapichai
15h
เอเปค2022 ดื่มเลือดประชาชนไทย
APEC 2022 drinks Thai people's blood.
.....
Jom Petchpradab
1d
“พายุ” นักสู้เพื่อประชาชนบนแผ่นดินอีสาน
“พายุ” ( พายุ บุญโสภณ ) เด็กหนุ่มวัย 28 ปีในปีนี้ สมาชิกคนหนึ่งของกลุ่มดาวดิน ที่เลือกเส้นทางอันตรายตั้งแต่วัยนักศึกษาที่ ม.ขอนแก่น ด้วยการออกมาสู้กับเผด็จการทหารคสช. ตั้งแต่ปี 57 เขาลุกขึ้นชูสามนิ้วพร้อมกับไผ่ ดาวดิน และเพื่อนๆ กลุ่มดาวดินอีกหลายคน ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กำลังพูดอยู่ในที่ประชุม นับจากนั้นเป็นต้นมาก็จะมีเขาในเกือบทุกการต่อสู้เพื่อต่อต้านอำนาจรัฐเเผด็จการทหารที่เอาเปรียบ กดขี่ ขูดรีดประชาชนโดยเฉพาะเรื่องที่ทำกัน
“พายุ” ร่วมรบ ร่วมต่อสู้ ร่วมเป็นร่วมตายกับเพื่อนๆ ที่มีอุดมการณ์อย่างจริงจัง หนักแน่นเพื่อขจัดอำนาจเผด็จการที่โหดร้าย เพื่อสร้างประชาธิปไตยและสิทธิเสรีภาพที่เท่าเทียมให้เกิดขึ้นในสังคมไทย ทุกการเคลื่อนไหวของขบวนพลังประชาชน “พายุ” จะเป็นแกนนำแถวหน้าเสมอ ด้วยเพราะเป็นคนพูดน้อย จึงอาจจะไม่ค่อยได้เห็นเขาให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อมากนัก
แม้ว่าเพื่อนผู้ร่วมอุดมการณ์หลายคนจะผันตัวเองไปสู่สนามการเมือง ไม่ว่าจะเป็น รังสิมันต์ โรม แมน ปกรณ์ ซึ่งก็เป็นการต่อสู้ในอีกรูปแบบหนึ่ง แต่ “พายุ” ก็ยังเลือกที่จะต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับประชาชนผู้เดือดร้อนพร้อมกับเพื่อน ๆผู้ร่วมอุดมการณ์ และเกือบทุกครั้งเขาก็หวุดหวิดเฉียดฉิวที่จะถูกทำร้ายจากเจ้าหน้าที่รัฐ
แม้ว่าเพื่อนและประชาชนจำนวนไม่น้อยที่รัฐทำร้ายอย่างทารุณจนบาดเจ็บพิการไปแล้วหลายคนในหลายการเคลื่อนไหว แต่เขาก็ยังยึดมั่นที่จะใช้เสรีภาพในการแสดงออกซึ่งเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานตามรัฐธรรมนูญ เจ้าหน้าที่รัฐต่างหากที่ละเมิดกฎหมายรัฐธรรมนูญ “หากเพื่อนผมเป็นอะไรไป ประชาชนจะเอาคืนเป็นพันเท่า”
แต่ครั้งนี้เขากลับกลายเป็นอีกคนหนึ่งที่ถูกเจ้าหน้าที่รัฐทำร้าย จนสูญเสียดวงตาข้างซ้ายไปตลอดกาล ...ความสูญเสียครั้งสำคัญนี้ จะทวงคืนเอาคืนได้อย่างไรบ้างมั้ย...?
วันที่ 26 สิงหาคมที่ผ่านมา เป็นวันที่เขามีอายุครบ 28 ปี เขาโพสต์ข้อความผ่านเฟสบุ๊คส่วนตัวว่า “ เกือบ 9 ปี บนเส้นทางที่เลือก และอยากเห็นสังคมมันดีขึ้นกว่านี้ ยังไม่ใกล้เคียงเลยสักนิด แต่ก็ไม่ได้ห่างไกลความเป็นไปได้ คงต้องกลับมาสรุปบทเรียนเพื่อทบทวนกับตัวเองอีกครั้ง ในวัย 28 ปี “
วัย 28 ปีที่ต้องกลายเป็นคนพิการทางสายตา เพียงเพราะต้องการการเมืองที่ดี ประชาชนมีสิทธิมีเสรีภาพ และมีส่วนร่วมเพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลงให้สังคมเป็นประชาธิปไตยมีความยุติธรรมเสมอกัน ถือเป็นราคาที่สูงลิ่วที่ต้องจ่าย เหมือนกับหลายนักสู้เพื่อประชาชนที่ผ่านมา...มันยิ่งตอกย้ำความอยุติธรรมที่นับวันจะโหดร้ายป่าเถื่อนมากขึ้นในประเทศนี้
เมื่อวันที่ 13 ตุลาคมที่ผ่านมา พายุ ได้เข้าสู่ร่มกาสาวภัสร์เยี่ยงลูกผู้ชายไทยทั่วไป ที่ชัยภูมิบ้านเกิด คงเพื่อความสุขความสบายใจของผู้มีพระคุณ และอโหสิกรรมให้กับทุกคนที่ได้ล่วงเกิน และเป็นสิริมงคลปลอดภัยให้ตัวเอง
“พายุ” ตอบกลับผมหลังจากที่ผมได้ร่วมอนุโมทนาและอวยพรให้การอุปสมบถได้เจอความสงบสุขที่แท้จริงว่า “ผมจะไม่อโหสิกรรมกับรัฐบาลชุดนี้ครับ 555”
ใครจะไปคิดว่า การลาสิขาบทออกมาเพียงไม่กี่วัน “พายุ” ในวัย 28 ปีจะกลายต้องเป็นคนพิการทางสายตาไปตลอดชีวิต
เสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับ “พายุ” อย่างสุดจะบรรยาย ได้แต่ประณามเจ้าหน้ารัฐที่ยังมีสันดานใช้ความรุนแรงกับประชาชนอย่างไม่จบสิ้น
จะจดจำ “พายุ บุญโสภณ” นักสู้เพื่อที่เสียสละตัวเองอย่างแท้จริง ในประวัติศาสตร์การต่อสู้เพื่อประชาชน อีกคนครับ.
