วันอังคาร, พฤศจิกายน 22, 2565

‘พายุ’ แผลเริ่มแห้ง คนดังหลากวงการปิดตาขวา ติดแฮชแท็ก #ดวงตาหนึ่งดวงจะสร้างดาวอีกล้านดวง




Yingcheep Atchanont
1d
เรียนเพื่อนและ ผู้คนบน Facebook ทุกท่านทราบ
สาเหตุที่ผมถ่ายรูปและปิดตาข้างขวาเพื่ออยากจะเล่าถึงชะตากรรมของเพื่อนผมสองคน
คนแรกเขารวยหน่อยและดังหน่อย คือ ลูกนัท หรือ ธนัตถ์ ธนากิจอำนวย ซึ่งไปประท้วงไล่ประยุทธ์แล้วถูกตำรวจยิงแก๊สน้ำตาเข้าลูกตาจนตาขวาบอดเมื่อเดือนสิงหาคม 2564
แล้วปีเศษถัดมาเพื่อนของผมอีกคนชื่อพายุ Payu L Boonsophon ก็ไปประท้วงขับไล่ประยุทธ์ เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน 2565 และถูกตำรวจควบคุมฝูงชนใช้ปืนกระสุนยางยิงใส่ระยะประชิด ตอนนี้ยังนอนรักษาตัวอยู่ในห้องพิเศษของโรงพยาบาล แต่มีโอกาสสูงมากที่จะต้องเสียตาขวาไป
พายุเป็นศิษย์เก่าคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น เค้าเป็นคนหนึ่งที่เรียนกฎหมายใช้ได้ในหมู่เพื่อนฝูงกลุ่มดาวดิน ที่หลายคนเรียนไม่จบหรือจบไม่ตรงเวลา แต่เค้าเป็นหนึ่งในคนที่ไม่ได้เลือกไปทำงานด้านกฎหมายเพื่อหาเลี้ยงตัวเองแต่กลับเดินเข้าทำงานในเครือข่ายปฏิรูปที่ดินภาคอีสาน เป็นเอ็นจีโอที่ช่วยเหลือเกษตรกรไร้ที่ดินทำกิน โดยรับเงินเดือนหลักพันแล้วกินอยู่กับชาวบ้านเลี้ยงปากท้องมานานหลายปี
ผมรู้จักกับพายุครั้งแรก ตอนที่พายุยังเป็นนักศึกษาและผมเพิ่งทำงานได้ไม่กี่ปี นักศึกษาวัยคะนองบุกไปชูสามนิ้วต่อหน้าประยุทธ์ โดนทหารควบคุมตัวไปข่มขู่และปล่อยออกมา ต่อมาเขาก็ยังไปชูป้ายคัดค้านรัฐประหารอีก แล้วก็โดนจับเข้าเรือนจำไป 12 วันกดดันจนศาลทหารไม่อยากเสียภาพลักษณ์ต้องยอมสั่งปล่อย
ผมเห็นพายุอยู่ในสนามการเคลื่อนไหวทางการเมืองและการทำงานเพื่อชาวบ้านมาตลอด เรามาเจอกันและทักทายกันในกิจกรรมใหญ่ๆหลายครั้ง  ก็ทักทายกันครั้งละเล็กน้อย ต่างคนต่างก็รู้ว่าเรามีงานในมือต้องทำจำนวนมากบนเส้นทางสายนี้ 
พายุเป็นคนร่างกายแข็งแรง แต่ไม่ใช่คนเกเรและไม่ใช่คนชอบใช้กำลังมีเรื่องชกต่อย  ผมได้เจอพายุครั้งล่าสุดก็คืนวันที่ 17 พฤศจิกายน ในการชุมนุมที่ลานคนเมือง เราทักทายกันเล็กน้อย ผมถามว่า พวกเขาได้รับข้อความเตือนจาก Facebook ว่าโดนสปายแวร์ที่สนับสนุนโดยรัฐบ้างหรือเปล่า พายุบอกว่าไม่ได้รับ แล้วคุยกันอีกเล็กน้อย โดยรู้ว่าพายุและเพื่อนๆ จะนอนปักหลักที่ลานคนเมืองร่วมกับชาวบ้านก่อนจะออกเดินตอนเช้า
ภาพตัดมาที่ผมเห็นเกี่ยวกับพายุก็คือตอนที่เค้านั่งอยู่บนรถพยาบาลแล้วเลือดอาบหน้า ตาขวาหายไปแล้วทั้งข้าง ทราบภายหลังว่าเขารับทำงานเป็นการ์ด และเป็นคนหนึ่งที่ตำรวจควบคุมฝูงชนล็อคเป้าตั้งใจวิ่งเข้าใส่ตอนที่ทุกคนกำลังพักกินข้าว
ขบวนการเคลื่อนไหวเพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมในกรณีที่เกิดขึ้นจะเดินหน้าอย่างเข้มข้น แต่ก็ไม่สามารถเอาตาขวาของพายุกลับมาได้ สิ่งที่เราพอจะทำได้เพื่อไม่ให้ตาขวาของพายุหายไปฟรี คือ การทำให้คนรับรู้ว่าเรื่องนี้ได้เกิดขึ้น
เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน 2565 พื้นที่บริเวณถนนดินสอก่อนเข้าอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยมีผู้ประท้วงต้องการ เดินขบวนขับไล่รัฐบาลถูกตำรวจชุดควบคุมฝูงชนใช้อาวุธกระสุนยางจ่อยิงในระยะประชิด ส่วนคนที่ถูกจับกุมนั้นถูกกระทืบซ้ำ ตำรวจอ้างว่าผู้ประท้วงวางเพลิงทั้งที่จริงเค้าจุดเตาอังโล่ใบเล็กเพื่อทำพิธีเผาพริกเผาเกลือสาปแช่ง ตำรวจอ้างว่าผู้ประท้วงใช้ความรุนแรงแต่ความเป็นจริงแล้วการประทะกันเกิดขึ้นระหว่างผู้ชุมนุมกำลังนั่งพักกินข้าวกลางวันช่วงเที่ยงกว่า ตำรวจเป็นผู้เปิดฉากด้วยการปาขวดแก้วเข้าใส่จนถูกนักข่าวบาดเจ็บที่ตา และบุกเข้าไปชาร์จแกนนำหลายคน รวมทั้งพายุ และอีกคนก็คือเปา ผู้ประสานงานสมัชชาคนจน โปรดรู้จักเปาได้จากสะเตตัสก่อนหน้า
ใครก็ตามที่ทราบเรื่องนี้อยู่แล้ว จากการติดตามข่าว สามารถช่วยกันถ่ายภาพตัวเองปิดตาขวาและเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นแบบเดียวกันได้ เผื่อว่าวันที่พายุเปิดตาขึ้นเช็ค Facebook ได้เค้าจะได้รู้ว่าเรื่องราวของเขามีคนเห็นแทนเขาไปมากเท่าไรแล้ว
ใครก็ตามที่ไม่เคยทราบเรื่องนี้มาก่อน จนกระทั่งเห็น Status นี้ ก็สามารถค้นหาเรื่องราวของพายุและการสลายการชุมนุมใน #ม็อบ18พฤศจิกายน ได้เอง ไม่ต้องเชื่อผมก็ได้ ขอให้ไปดูด้วยตาตัวเอง และถ้ารับรู้แล้วก็ช่วยกันส่งต่อเรื่องราวนี้ออกไปนะครับ ถ้าไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรก็กดแชร์ทีนึงก็ได้ครับ
มันดูกระจอกเหลือเกินที่เพื่อนเราคนหนึ่งไปกินนอนอยู่บนถนนและถูกยิงจนตาบอด ขณะที่อีกหลายต่อหลายคนถูกกระทืบ ส่วนเรานั้นทำได้โดยการปิดตาตัวเองโพสเฟซบุ๊ก แต่เมื่อทำได้เท่านี้ ก็ยังต้องทำอยู่ดี