วันพุธ, พฤศจิกายน 23, 2565

เมื่อศาลไทยตีความเว่อร์ ผิดเพี้ยน แก้คำว่า King เป็น Kings สร้างความหวาดกลัว ปิดปากประชาชน


Pipob Udomittipong
15h

ศาลชั้นต้นยกฟ้องคนโพสต์ “หลักเศรษฐกิจพอเพียงมันใช้กับคนจนไม่ได้” เพราะเห็นว่า #มาตรา112 ไม่คุ้มครองอดีตกษัตริย์ วันนี้ศาลอุทธรณ์กลับคำตัดสิน ระบุกม.คุ้มครองอดีตกษัตริย์ เพราะ #มาตรา112 “ไม่ได้กำหนดว่าพระมหากษัตริย์หมายถึงพระองค์ใดบ้าง”
แต่ในคำแปลอย่างเป็นทางการของ #มาตรา112 คือ “Whoever defames, insults, or threatens the King, the Queen, the Heir-apparent, or the Regent…” ท่านต้องไปแก้คำว่า “the King” เป็น “Kings” เพื่อให้ครอบคลุมกษัตริย์ทุกพระองค์ในสากลโลก โคตรเบื่อเลย เหมือนอยู่กันคนละโลก มันเป็นองค์กรที่ exclusive และโคตรกะลา https://thematter.co/brief/191244/191244
.....

ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน
7h

เมื่อวันที่ 22 พ.ย. 2565 เวลา 09.00 น. ศาลจังหวัดจันทบุรีนัดฟังคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ภาค 2 ในคดีที่ “จรัส” (สงวนนามสกุล) ถูกฟ้องในข้อหาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มาตรา 14 (3) จากการแสดงความคิดเห็นและวิพากษ์วิจารณ์แนวคิดเศรษฐกิจพอเพียงในกลุ่มเฟซบุ๊ก “เพจจันทบุรี”
ขณะเกิดเหตุในคดีนี้ จรัสมีอายุ 18 ปี (ปัจจุบันอายุ 21 ปี) เมื่อเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมต้องใช้เวลาต่อสู้นานเกือบ 1 ปีเศษ ระหว่างนั้นมีการสืบพยานไปจำนวน 1 นัด โดยมีพยานโจทก์เข้าเบิกความจำนวน 2 ปาก และฝ่ายจำเลยมีจำเลยขึ้นเบิกความจนเสร็จสิ้น ฝั่งจำเลยต่อสู้ในประเด็นที่ว่าการวิพากษ์วิจารณ์องค์พระมหากษัตริย์ที่สวรรคตไปแล้ว ไม่เข้าข่ายองค์ประกอบของมาตรา 112
ต่อมา เมื่อวันที่ 30 พ.ย. 2565 ศาลชั้นต้นได้มีคำพิพากษายกฟ้องในความผิดตามมาตรา 112 เนื่องจากศาลเห็นว่าการกระทำของจรัสนั้น ‘ขาดองค์ประกอบ’ ความผิดตามมาตรา 112 เพราะเป็นการกระทำต่อรัชกาลที่ 9 ซึ่งเป็น ‘อดีตพระมหากษัตริย์’ ที่สวรรคตไปแล้วในขณะกระทำความผิด และได้ยกฟ้องข้อหา พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ ม.14 (3)
แต่ศาลกลับให้ลงโทษจำเลยในความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14 (1) ซึ่งไม่ได้อยู่ในบรรยายฟ้องของอัยการโจทก์ โดยพิพากษาให้จำคุกเป็นเวลา 1 ปี 4 เดือน และปรับเงิน 26,666.66 บาท โดยให้รอการลงโทษจำคุกไว้ 2 ปี ให้คุมความประพฤติ 1 ปี และให้ทำกิจกรรมสาธารณประโยชน์ 12 ชั่วโมง
ทว่าคำพิพากษาของศาลชั้นต้นนั้นยังไม่ได้ทำให้คดีนี้ถึงที่สุด เนื่องจากหลังจากนั้นอัยการโจทก์ได้ยื่นอุทธรณ์คำพิพากษาต่อศาลอุทธรณ์อีก ส่วนทนายความจำเลยก็ได้ยื่นอุทธรณ์คำพิพากษาและยื่นคำแก้อุทธรณ์ของโจทก์ต่อศาลอุทธรณ์ด้วยเช่นกัน
.
.
อ่านคำพิพากษาฉบับเต็มต่อบนเว็บไซต์: https://tlhr2014.com/archives/50860


Atukkit Sawangsuk
6h

ครูสอนประวัติศาสตร์ ที่สอนว่าพระเจ้าเอกทัศน์ทำให้เสียกรุง ติดคุกได้นะ
:
หลังจากศาลชั้นต้นหลายศาล กล้าตัดสินตรงตามตัวบทกฎหมาย ว่า 112 ไม่รวมถึงกษัตริย์ในอดีต
อัยการก็อุทธรณ์โดยอ้างคำพิพากษาฎีกา (ที่สำคัญคือคดีหมิ่น ร.4) แล้วศาลอุทธรณ์ก็มาตามนัด
:
มาตรา 112 (เราจะเห็นด้วยหรือไม่ก็ตาม)
มันอยู่ในกลุ่มความผิดต่อตำแหน่ง
ใช้เพื่อคุ้มครองผู้ดำรงตำแหน่งในปัจจุบัน
เมื่อพ้นจากตำแหน่งแล้วก็พ้นความคุ้มครอง
ไม่ใช่ความผิดต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งจะดำรงอยู่ตลอดไป
แต่ศาลกำลังทำให้เป็นเช่นนั้น
ใครจะวิจารณ์พาดพิง วิเคราะห์ประวัติศาสตร์
ทำให้กษัตริย์ในอดีตเสียหายไม่ได้เลย
(รวมทั้งพระราชินี รัชทายาท ผู้สำเร็จราชการ ในอดีต) นับตั้งแต่พ่อขุนศรีอินทราทิตย์ ทำผิดไม่ได้
ต้องยกย่องสดุดีเท่านั้น
:
คำพิพากษาศาลฎีกาที่เกินกฎหมาย
ตีความเว่อร์ ผิดเพี้ยน
กลายเป็นบรรทัดฐานและกลายเป็นกฎหมายที่แก้ไขไม่ได้
ศาลต้องตัดสินตามเท่านั้น?