“เอเปคเลือด” สะท้อนทุนผูกขาดมีอำนาจเหนือรัฐไทย
Jom Petchpradab
4h
“เอเปคเลือด” สะท้อนทุนผูกขาดมีอำนาจเหนือรัฐไทย
การเป็นเจ้าภาพจัดประชุมเอเปคของรัฐบาลไทย ....
ถามว่าคนไทย ได้ประโยชน์โภชน์ผลอะไรบ้างที่เป็นรูปธรรม..? ตรงกันข้ามกลับเป็นภาพที่รัฐบาลใช้ความรุนแรงเข้าปราบปรามประชาชนที่ชุมนุมอย่างบ้าคลั่ง ทั้ง ๆ ที่เป็นการชุมนุมตามสิทธิในรัฐธรรมนูญ มีประชาชน สื่อมวลชน ได้บาดเจ็บ พิการ จำนวนไม่น้อย.. ทำไม ? รัฐบาลไทยเลือกใช้มาตรการปราบปรามอย่างรุนแรงทั้ง ๆ ที่ พรก.ฉุกเฉิน ก็ได้ยกเลิกการบังคับใช้ไปแล้ว...อีกทั้งการประชุมสุดยอดผู้นำด้านเศรษฐกิจ หรือ เอเปค ไม่ว่าจะจัดในประเทศใด ก็จะมีประชาชนที่ได้รับผลกระทบด้านการพัฒนาเศรษฐกิจก็จะมีการจัดชุมนุมประชุมสะท้อนปัญหาความเดือดร้อนของพวกเขาเป็นเวทีคู่ขนานไปอยู่แล้ว
แต่ที่ต่างไป การที่รัฐบาลเผด็จการทหาร เป็นเจ้าภาพจัดประชุมเอเปคในนามรัฐบาลไทยครั้งนี้ มีกลุ่มทุนผูกขาดเพียงไม่กี่เจ้าที่เข้าแผ่อำนาจอิทธิพลควบคุมกลไกการจัดงานเพื่อแสวงหาประโยชน์จากการประชุมครั้งนี้. ซึ่งนั่นเท่ากับสะท้อนให้เห็นว่า ตลอดระยะเวลา 8 – 9 ปีที่เผด็จการทหารเข้ามาบริหารชาติบ้านเมืองได้ปล่อยให้ ทุนผูกขาดไม่กี่เจ้าเข้ามายึดกุมกลไกทางราชการและอำนาจรัฐไว้อย่างเข้มแข็งมากขึ้น...การต่อสู้ของภาคประชาชนที่ถูกเอาเปรียบทั้งจากอำนาจรัฐที่เป็นเผด็จการปิดกั้นสิทธิเสรีภาพประชาชนมาโดยตลอด ถึงวันนี้ จะต้องต่อสู้กับ กลุ่มทุนผูกขาดที่มีพลังอำนาจผูกขาทางเศรษฐกิจทั้งประเทศแบบนี้เข้าไปด้วย ...กลายเป็นศึกหลายด้านทั้ง การสู้กับเผด็จการรัฐราชการ กับ เผด็จการทางเศรษฐกิจด้วย ... ศึกนี้จึงใหญ่หลวงนักสำหรับภาคประชาชน..จะสู้กันต่อไปอย่างไร..
ฟังคำชี้แจงเรื่องนี้จาก แกนนำราษฎรผู้ไม่ยอมอ่อนข้อกับอำนาจเผด็จการและทุนผูกขาด “น้องมายด์” ภัสราวลี ธนกิจวิบูลย์ผล แกนนำราษฎรต่อต้านการประชุมเอเปค นักศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์ ชั้นปีที่ 4 มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีมหานคร และอาจารย์อนุสรณ์ อุณโณ อดีตคณบดีคณะสังคมวิทยาและมนุษยวิทยา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เจ้าของผลงานวิจัยล่าสุด “ให้มันจบในรุ่นเรา”
