วันเสาร์, พฤศจิกายน 26, 2565

ประกาศกระทรวงดิจิทัล ขึ้นแท่น ม.๑๔ พรบ.คอมพิวเตอร์ เป็นกฎหมายวิเศษเท่า ม.๑๑๒ “ใครฟ้องใครก็ได้”

แต่ก่อน พรบ.คอมพิวเตอร์ ม.๑๔ เทียบชั้นได้กับ ลูกพี่ลูกน้อง ของ ป.อาญา ม.๑๑๒ เพราะถูกใช้ควบกันเวลาเล่นงานพวกเห็นต่างที่แสดงความเห็นทางสื่อสังคม เดี๋ยวนี้ ตั้งแต่ประกาศในราชกิจจาฯ เมื่อ ๒๖ ตุลา ๖๕ ขึ้นแท่นเป็น กม.วิเศษ เหมือนกัน

กระทรวงอีดีออกประกาศเรื่องระงับการแพร่หลายของข้อมูลคอมพิวเตอร์ และการนำข้อมูลนั้นออกจากระบบ ซึ่งต่างจากประกาศเดิม (ฉบับปี ๒๕๖๐) อย่างสำคัญ ตรงที่เปิดให้ ใครฟ้องใครก็ได้ แบบเดียวกับกฎหมายหมิ่นกษัตริย์ฯ ทว่าไปไกลกว่านิดหนึ่ง

คือ เมื่อผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ต (รวมถึงโซเชียลมีเดีย) ได้รับคำร้องเรียนจากการกรอกรายละเอียด ในแบบคำร้องแล้ว ต้องทำการลบเนื้อหาที่ถูกร้องเรียนนั้นภายใน ๒๔ ชั่วโมง แม้นว่าเมื่อมีการยื่นฟ้อง ม.๑๑๒ ในทางปฏิบัติตำรวจและอัยการต้องรับคดี

แบบฟอร์มร้องเรียนนั้นผู้ให้บริการฯ ต้องจัดเตรียมไว้ให้ “ใครก็ตาม” แม้ไม่ได้เป็นสมาชิกหรือมีบัญชีผู้ใช้อยู่กับแพล้ทฟอร์มที่เกิดเหตุ นอกจากต้องระบุชื่อ นามสกุล ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ และบัญชีอินเตอร์เน็ต เช่น อี-เมล แล้ว

ต้องแจ้งรายละเอียดความเสียหายตามมาตรา ๑๔ ของ พรบ.คอมพิวเตอร์ กับมีคำรับรองว่าข้อความที่ร้องเรียนเป็นความจริง แต่ประกาศมิได้ระบุไว้ว่า ใครเป็นผู้ให้คำรับรองนี้ได้ หรือมีหลักเกณฑ์ใดเพื่อให้คำรับรองถูกต้อง เชื่อถือได้

ประกาศในส่วนที่ ๒ ว่าถึงการอุทธรณ์ และการเพิกถอนคำสั่ง โดยบอกไว้เลยในข้อ ๑๐ ว่า “การอุทธรณ์ไม่เป็นเหตุให้ทุเลาการบังคับตามคำสั่ง” นี่เท่ากับไม่มีทางยับยั้งก่อนที่คำสั่งจะก่อเกิดความเสียหายได้เลย ต้องรอจนการอุทธรณ์ถึงที่สุด

นอกจากนั้น ไอลอว์ชี้ให้เห็นด้วยว่า ไม่มีการ “เปิดช่องให้โต้แย้งการลบข้อมูล” ที่ถูกฟ้องนั้นได้เลย ผิดกับประกาศฉบับเดิม ที่ยินยอมให้มีการโต้แย้งได้เมื่อเห็นว่าการร้องเรียนให้ลบข้อมูลของตน ไม่ถูกต้องหรือเพียงกลั่นแกล้งกัน

แนวทางในการทำโทษผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ต ที่มิได้ทำการลบข้อมูลซึ่งมีคนร้องเรียนภายในกำหนด ๒๔ ชั่วโมงดังกล่าว ก็คือจะโดนข้อหาความผิด ม.๑๔ และ ๑๕ พรบ.คอมพิวเตอร์ กระทรวงดีอีส่งสำนวนให้ตำรวจ (พนักงานสอบสวน)

และประสานกับสำนักงานกำกับการกระจายเสียง โทรทัศน์ และโทรคมนาคม (กสทช.) ให้ดำเนินคดี และถ้าไม่ปฏิบัติตามหลายหน ก้จะนำไปสู่การดำเนินการระงับใบอนุญาตประกอบการต่อไป ประกาศนี้มีผลบังคับใน ๙๐ วัน คือตั้งแต่ ๒๕ ธันวาคมนี้เป็นต้นไป

(https://ilaw.or.th/node/6322 และ https://ilaw.or.th/sites/default/files/T_0057.PDF_.pdf)