ม็อบล้นอนุสาวรีย์ มวลชนทะลักยึดราชดำเนิน นับหนึ่งแผนระดมสองล้านคนไล่ประยุทธ์ ขึงผ้าแดงต้าน 112 ล้อมอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย พังสัญลักษณ์เผด็จการสิ้นซาก

ม็อบล้นอนุสาวรีย์ มวลชนทะลักยึดราชดำเนิน นับหนึ่งแผนระดมสองล้านคนไล่ประยุทธ์ ขึงผ้าแดงต้าน 112 ล้อมอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย พังสัญลักษณ์เผด็จการสิ้นซาก#ม็อบ13กุมภา https://t.co/MGtXbzme4z

— sirote klampaiboon (@sirotek) February 13, 2021

Thanapol Eawsakul
2h ·

 
บันทึกไว้หน่อย

 
จากการชุมนุมที่เหมือนจะไม่มีอะไร กลายเป็นการชุมนุมที่รัฐใช้ความรุนแรงมากที่สุดนับจากปี 2563 เป็นต้นมา
....
อย่างที่ทราบว่าการชุมนุมที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย วันนี้ (13 กุมภา 2564) เป็น ส่วนหนึ่งในการแคมเปญ "นับ 1 ถึงล้าน คืนอำนาจให้ประชาชน"

 
งานนีมีการประกาศก่อนหน้าแค่ 1 วัน แน่นอนว่าผลจากการจับ 4 แกนนำในคดี 112 เป็นเหตุหลัก โดยนัดหมายคือ 15.00 น.
https://www.facebook.com/.../a.1041494980.../236916288116499
ดังนั้นคนยังไม่เยอะมาก
อีกอย่างเพจ "เยาวชนปลดแอก － Free YOUTH" ที่มีฐานคนดูมากก็ไม่ยอมประกาศนัดหมายการชุมนุมอีกด้วย
https://www.facebook.com/FreeYOUTHth
ผมออกเดินทางจากคลองตันด้วยรถเมล์ ปอ. 60 ไปอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ด้วยความรวดเร็ว เพราะรถไม่ติด และคนก็ไม่มากทำให้รถเมล์วิ่งสบาย ไปถึงประมาณ 17.30 น.

 
การที่รถไมติด ก็หมายความว่าคนยังน้อยมาก ตำรวจไม่ต้องปิดช่องจราจรอะไร
ไปถึงเห็น 2 เวทีบนรถ 6 ล้อ คือ เวทีคนเสื้อแดง และเวทีของคนจัดงาน
ตอนนั้นคนน้อยมาก ประมาณสายตาไม่น่าเกิน 1 พันคน และมีการรื้อต้นไม้รอบอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย

 
ผมไปนั่งบนถนนหน้าศึกษาภัณฑ์ (ตามภาพประกอบ) ซึ่งแน่นอนว่าคนน้อยมาก และเวทีก็ไม่น่าสนใจเท่าไหร่

 
หลังจากเพลงชาติขึ้นไปสักพักแกนนำก็พาคนเคลื่อนไปทางสนามหลวง ก็เพิ่งทราบว่าจะเดินทางไปศาลหลักเมือง
ตอนนี้ก็เริ่มแปลกใจว่าคนมากขึ้นเรื่อย ๆ ขนาดเส้นทางไปสนามหลวงก็ดูไม่โหรงเหรง

 
(นี่เรากำลังพูดถึงสถานการณ์ระบาดโควิดรอบ 2 คนมีคนติดเชื่อ 3 หลักตั้งแต่ 20 ธันวาคม 2563 ทั้ง ๆ ที่ก่่าอนหน้านั้นการคิดเชื้อในประเทศเป็นศูนย์)
ตอนนี้ได้ยินคำว่า ศาลหลักเมือง ด้วยคนไม่เชื่อเรื่องไสยศาสตร์อะไรก็คิดว่าเดินไปถึงแล้วก็จะกลับ

ตอนเดินไปก็มีการเจรจากัน และให้แกนนำเข้าไปก็ไม่คิดว่ามีอะไร
ก็เดินทางกลับ

ระหว่างที่ขึ้นรถไฟฟ้า คำแรกที่ได้อ่่านคือคำว่ายิงแกสน้ำตา ก็ยังงงว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร และเมื่อทราบว่ามีการปะทะ ทำร้ายหน่วยพยายาลของตำรวจใมนเครื่องแบบ และลอบทำร้ายผู้ชุมนุมโดยอันธพาล

 
ระหว่างเดินทางกลับบ้าน ก็สงสัยขึ้นมาว่า คนระดับที่สั่งการให้ตำรวจทำอะไรระห่ำเช่นนี้คิดอะไรอยู่

ปล. ลองเทียบกับวันที่ 8 พฤศจิกายน 2563 เขียนจดหมายถึงกษัตริย์วชิราลงกรณ์ คน เยอะกว่านี้มากและประเด็นก็แหลมคมกว่าด้วย ไม่เห็นตำรวจจะใช้ความรุนแรงอะไรเช่นนี้เลย