วันอาทิตย์, กุมภาพันธ์ 21, 2564

ผู้รู้ดี ‘คอนเฟิร์ม’ ตั๋วช้างเป็นเวรวิธี “ตามปกติ ก็แค่นั้นเอง” คงเช่นเดียวกับเครื่องนับคะแนนโหวต "จ้องจะผลักไส ส.ส.ก้าวไกลไปเข้าฝ่ายตรงข้าม"


โดนอภิปรายไม่ไว้วางใจ ในสภาว่า หนา พอละนะ นอกสภาเจอะ หนัก กว่า มิน่า ไทยรัฐกล้าบอก “ฝ่ายค้าน ล้างตารัฐบาลเลือดซิบ : ชนะบอบชํ้า โดนซํ้านอกสภา” ทว่าไทยรัฐเองก็เจอเหมือนกัน ในที่ชุมนุมตั้งข้อกังขา

ว่าไม่ยอมเล่นเรื่อง ตั๋วช้างมีป้ายไปแปะข้างรถถ่ายทอดของไทยรัฐว่า “แบน...บิดเบือนประเด็น” อีกป้ายชูกลางม็อบ “กล้าป่าว เก่งป่าว ขอบจัย...เสนอข่าวตั๋วช้างให้เหมือนข่าวลุงพลดิ” แต่สื่อเหล็กไหลรายนี้ ก็หาทางลื่นกลับจนได้ด้วยคารมโวหาร

“ภายใต้เกมรบต่อเนื่อง ศึกในสภาโดนล่อเป้าอ่วม รัฐบาลยังต้องเผชิญศึกนอกสภาตามจังหวะมวลชนราษฎรเปิดเวทีอภิปรายไม่ไว้วางใจบนถนนต่อทันที” บทความของทีมข่าวการเมืองสรุปตอนท้ายว่า “ประคองปีก บิ๊กตู่ และ ๙ รัฐมนตรีเข้ามุม

ชนะไปแบบช้ำตาปูดบวม” ซึ่งคราวนี้ไทยรัฐให้คะแนน “ทีมก้าวไกลโชว์ฟอร์มดุ กดดันพรรคเพื่อไทยไม่กล้าล้มมวย ทำให้ภาพรวมฝ่ายค้านยกระดับ” ไม่เท่านั้นทีมอภิปรายก้าวไกล ๖-๗ คน พากันไปลงถนน นั่งฟังอภิปรายนอกสภาของราษฎร

เรื่องราวที่พวกเขาเปิดกระป๋องหนอนล้นออกมาคลานยั๊วเยี๊ะเต็มหน้าสองสำนัก ราชวังและ ตำรวจแห่งชาติทั้งเรื่องวัคซีนและตั๋วช้าง โดยเฉพาะเรื่องหลังดันมี Paisal Puechmongkol ผู้รู้ดี คอนเฟิร์มเสียอีกว่าเป็นเวรวิธี “ตามปกติ ก็แค่นั้นเอง”


หากแต่ว่า #ม็อบ20กุมภา หน้ารัฐสภาเมื่อคืนยังยืนกราน หมุดหมาย ข้อเรียกร้อง ๓ ประการเช่นเดิม น้อง เบนจาอ่านแถลงการณ์เสียงดังฟังชัด “ประยุทธ์และองคาพยพต้องลาออก สภาต้องเปิดประชุมวิสามัญรับร่างแก้ รธน.ฉบับประชาชน

และขาดไม่ได้ต้อง “ปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ให้อยู่ภายใต้ รธน.” นอกนั้นแกนนำที่ยังเหลืออยู่ไม่ถูกจับยัดห้องขังด้วยข้อหา ม.๑๑๒ เช่น รุ้ง ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล ยังคงพร้อมหน้า นักปราศรัยทั้งใหม่เก่ารวมทั้งสามเณร Folk Saharat ไม่ขาด

ผู้ชุมนุมคับคั่ง เรียบร้อย เพราะประกาศกันไว้แล้วห้ามพกพาสิ่งที่จะถูกตีความกล่าวหาว่าเป็นอาวุธเข้าม็อบเด็ดขาด รวมทั้งประทัด ที่ตำรวจเอากล้องขยายกลายเป็นขนาดยักษ์ ดังนั้น เตรียมการของตำรวจและทหารรอขยายผลรับมือจึงเป็นหมัน

กำลังหน่วยควบคุมฝูงชนหลายกองร้อย ลวดหนามหีบเพลงและแบริเออร์ของนครบาล อีกทั้งตู้คอนเทนเนอร์ที่ทหารยกมาตั้งล้อมวัง จึงเป็นทัศนะอุจาดอยู่ได้เพียงค่อนวัน ทั้งตำรวจทหารรีบช่วยกันถอนออก เปิดถนนและเส้นทางสัญจรก่อนจะเย็นค่ำ

“ชุดควบคุมฝูงชนบางส่วน​ถอนกำลังจากที่ตั้ง​ หลังการโหวตลงมติอภิปราย​ไม่ไว้วางใจ​รัฐมนตรีรายบุคคล​เสร็จสิ้น” PPTV HD 36 รายงานไว้ตอนหนึ่ง ชวนให้เข้าใจไปว่าถอนกำลังออกไปเพราะในสภาชนะแล้วงั้นหรือ ในเมื่อใครๆ ก็เดาไม่ผิดอยู่แล้ว

แม้นจะมีอุบัติการณ์ งูเห่า เกิดขึ้นอีกจนได้ เมื่อสี่ ส.ส.พรรคก้าวไกลแหกมติพรรคไปโหวตไว้วางใจ อนุทิน ชาญวีรกูล และ ศักดิ์สยาม ชิดชอบ เป็นสัญญานว่าไม่ช้าก็เร็วพรรคภูมิใจไทยของ รมว.ทั้งสอง จะนำรถดูดของเสียจากก้าวไกลอีกก็ได้


ไม่เท่านั้นเกิดการ โหวตสวนพรรคอื่นอีกบางราย จนมีข้อสังเกตุจากสายข่าวบางแห่งว่าเป็นความ เสรี ของสภาผู้แทนฯ สมัยนี้ แต่แท้จริงแล้วน่าจะเป็นความไร้หลักการ หรือขาดครรลองการเมืองของผู้แทนชุดนี้เสียมากกว่า

นอกจากนักการเมืองรุ่นเก่าในพรรคเพื่อไทยและประชาธิปัตย์จำนวนมากที่ยัง พันธุ์แท้ แล้ว ส.ส.พลังประชารัฐและก้าวไกลจำนวนไม่น้อยต่างมาจากความ ร้อยพ่อพันแม่ ทางการเมือง ทั้งที่สองพรรคนี้ต่างอยู่คนละขั้วสุดกู่อย่างชัดแจ้ง

จึงเป็นไปได้ที่ ส.ส.ก้าวไกลไม่น้อยซึ่งเข้าสู่สภาเพราะกระแส อนาคตใหม่ ครั้นเข้าไปแล้วพบความหอมหวานของพลังดูดฝ่ายสืบทอดอำนาจ คสช. ย่อมเคลิบเคลิ้มไปง่าย โดยเฉพาะ ส.ส.ปัตตานี พรรคประชาชาติ อนุมัติ ซูสารอ เป็นตัวอย่างงูเห่าคล้าสสิค

เช่นเดียวกับสอง ส.ส.ประชาธิปัตย์ พนิต วิกิตเศรษฐ์ กับ อันวาร์ สาและ หาญกล้างดออกเสียงญัตติไม่ไว้วางใจ สาม ป.’ ‘สองตัวเอ้ ภท.และ รมต.แป้งมันโดยที่อันวาร์โหวตสวนพรรคร่วมรัฐบาล ไม่ไว้วางใจ ธรรมนัส พรหมเผ่า เอาเลย

มีข้อน่าสังเกตุด้วยว่า แรงดูด จากฝ่ายสืบทอดอำนาจ คสช.นี่ เป็นไปได้ว่าบางทีมาในรูปของ วิชามาร ด้วยเหมือนกัน จากที่ปรากฏว่าคะแนนโหวตออกมา พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าก้าวไกลเป็นงูเห่ากับเขาด้วย ที่ งดออกเสียง ไม่ไว้วางใจธรรมนัส

เจ้าตัวต้องรีบออกหนังสือแจ้งว่าเครื่องทำงานผิดพลาด ที่จริงตนโหวตไม่ไว้วางใจไปแล้ว ขอให้แก้ไขโดยด่วน ใครเล่าจะรู้ว่าบางทีเครื่องนับคะแนนนี่ มีโปรแกรม บ่อนทำลาย แฝงอยู่ก็ได้ จ้องจะผลักไส ส.ส.ก้าวไกลไปเข้าฝ่ายตรงข้ามชักบ่อย

(https://www.voicetv.co.th/read/qdQn1XOka, https://www.facebook.com/PPTVHD36/posts/5597654800252253, https://www.facebook.com/ThaiNewsPix/posts/2887594491525828 และ https://www.thairath.co.th/news/politic/2036396)