วันพุธ, กุมภาพันธ์ 24, 2564

ทำไม ทักษิณ ต้องใช้ไม้แข็ง ในการจัดการปัญหาชายแดนใต้ ทำไม ทักษิณ เหมาะเป็นแค่รองนายกฯ และ รมว. คลังทำเรื่องเศรษฐกิจเท่านั้น ไม่เหมาะที่จะเป็นผู้นำของโลกอีกแล้ว



Thanapol Eawsakul
2h ·

ทักษิณ ชินวัตรในปี 2547 ต้องใช้ไม้แข็ง/ฮาร์ดคอร์ ในการจัดการปัญหาชายแดนใต้ ก็เพราะราชสำนัก สายราชินี เดินแนวทาง ใช้ไม้แข็ง/ฮาร์ดคอร์ เช่นกัน
...............
4 มกราคม 2547 ครบ 3 ปีของชัยชนะอย่างถล่มทลายในกาารเลือกตั้ง ในเดือนมกราคม 2544 ก่อนหน้านั้นรัฐบาลทักษิณ สามารถดำเนินนโยบายได้อย่างราบรื่นและส่งมอบนโยบายสำคัญ ๆ ได้อย่างต่อเนื่อง แต่เหตุการณ์ "ปล้นปืน" ในค่ายทหารที่นราธิวาสพร้อมสังหารทหารไป 4 คน โดยมีผู้ปฏิบัติการนับร้อยเป็นสิ่งที่เกินความคาดหมายของรัฐบาลทักษิณ

และซ้ำเติมด้วยการลุกขึ้นก่อการในวันที่ 28 เมษายน 2547 ในหลายพื้นที่ และจบลงด้วยโศกนาฎกรรมที่ มัสยิดกรือเซะ ต.ตันหยงลูโละ อ.เมือง จ.ปัตตานี ในวันนั้นมีมีผู้เสียชีวิตรวม 108 ราย ในจำนวนนี้ มี 5 คนเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ และอีก 32 คน คือกลุ่มผู้ก่อเหตุที่เสียชีวิตขณะเข้าไปหลบภัย ในมัสยิดหรือเซะ ที่ถูกเจ้าหน้าที่ปิดล้อมนาน 9 ชั่วโมง และใช้อาวุธหนักยิงถล่ม

พร้อม ๆ กับการเกิดโศกนาฎกรรมกับพระ อิหม่าม เจ้าหน้าที่รัฐ และประชาชนผู้บริสุทธิ์ทุกศาสนา แทบทุกวัน
และเมื่อวันที่ 25 ตุลาคม ก็เกิดโศกนาฏกรรมตากใบ มี 7 คนเสียชีวิตจากเหตุสลายการชุมนุมที่หน้าโรงพัก 78 คน เสียชีวิตช่วงเคลื่อนย้าย 7 คน สูญหายจากเหตุการณ์ และมี 1,370 คน ถูกควบคุมตัวไปสอบสวน

ในห้วงเวลาเดียวกัน สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ แปรพระราชฐานไปประทับแรม ณ พระตำหนักทักษิณราชนิเวศน์ จนถึงในวันที่ 16 พฤศจิกายน พระองค์ให้คณะบุคคลต่างๆ กว่า 1,000 คน เข้าเฝ้า ณ ศาลาดุสิดาลัย สวนจิตรลดา ได้มีพระราชดำรัสตอนหนึ่งว่า
 
"ไม่ว่าข้าพเจ้าไปที่ไหน ไปที่ อ.สุคิริน เป็นนิคมซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงสนับสนุนตั้งขึ้น ก็มีชาวอีสาน มีชาวไทยที่นราธิวาสเอง อยู่ที่นั่น พอข้าพเจ้าไปเยี่ยมก็บอกว่า ดีใจที่ราชินีมา ที่ได้เห็นหน้า แต่ก็ไม่อยากให้มา ใจหนึ่งก็ไม่อยากให้มาเพราะมันอันตราย น่ากลัวเหลือเกิน ไม่อยากให้ท่านมา ข้าพเจ้าก็บอกว่าไม่มีอันตรายหรอกข้าพเจ้านี่ ทางรัฐบาล ทหาร ตำรวจ เขาดูแลใกล้ชิด เขาก็เล่าให้ฟังว่า เขาไม่ทราบจะว่าอย่างไรแล้ว ราวๆ ทุ่ม พวกเรากินข้าวเสร็จแล้ว ชาวบ้านก็นั่งคุยกัน ช่วยกันสร้างศาลานานแล้ว ก็นั่งคุยกันที่นั่น ประเดี๋ยวก็เห็นคนขับมอเตอร์ไซค์มา เป็นผู้ชายหนุ่มซ้อนท้ายมา แล้วก็พอมาถึงที่ศาลานั้น ก็ไม่พูดพร่ำทำเพลง ไม่ต่อว่า ไม่ว่าอะไรทั้งนั้น กระชากเอาปืนอาก้าออกมา ปืนกลที่ทำในรัสเซีย ที่เคยทำในรัสเซีย ออกมายิง ที่นั่งคุยกันนั่นก็ตายหมด และจนป่านนี้ก็ไม่มีใครทราบว่า ผู้ที่ตายทั้งหลายแหล่นี้ ถูกยิงด้วยอาก้านี้ เป็นใครยิง ก็เงียบหายไป คนก็อยู่ด้วยความหวาดกลัวเต็มที่

และตอนหลังเขาก็ทิ้งใบปลิว ที่ตลาดนราธิวาส ใบปลิวบอกว่า ไอ้พวกไทย-พุทธออกไปเดี๋ยวนี้จากแผ่นดินของกู ไม่งั้นจะให้กินลูกปืน ข้าพเจ้าก็ได้แต่ปลอบใจ ชวนไปหัดยิงปืนลูกซอง เพื่อป้องกันตัว อาสาเขาก็อยากป้องกันตัวเองได้ ตกลงเขาก็ไปกันทั้งผู้หญิงผู้ชายไปหัดยิงปืนที่ค่ายของนาวิกโยธินที่ อ.เมืองนราธิวาส ผู้หญิงยิงแม่นมาก ซึ่งไม่นึกว่าผู้หญิงที่ดูมีอายุ ยิงได้พั่วๆ ซึ่งเขาก็ภูมิใจว่าสามารถป้องกันตัวเองได้"

นัยหนึ่งของพระราชดำรัสคือให้ประชาชนในพื่นที่จับปืนขึ้นสู้นั่นเอง
เมื่อพระราชดำรัสมีดังนั้นรัฐบาลทักษิณก็รับลูกทันที ดังปรากฎในข่าววันรุ่งขึ้นว่า
นายกฯลั่นไม่เอาไว้ทำ“พ่อ”สั่งจัดการ“มุสลิมเทียม”สุมไฟ
http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx


...
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 17 พฤศจิกายน 2547
นายกฯน้อมรับ“พระราชเสาวนีย์”วอนประชาชนส่งกำลังใจถึงพี่น้อง 3 จว.ใต้-ระบุตัวป่วนใต้ไม่ใช่“มุสลิมพันธุ์แท้”พร้อมลั่นไม่เอาไว้ทำ“พ่อ”สั่งจัดการพวกมักใหญ่ใฝ่สูงคิดแบ่งแยกดินแดน

นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า เราจะต้องแสดงพลังให้รู้ว่าเรารักแผ่นดินไทย ใครจะแยกแผ่นดินไทยจากเราไม่ได้ เราห่วงพี่น้องคนไทยไม่ว่านับถือศาสนาใด เราถือว่าเป็นคนไทยด้วยกัน เราอยากเห็นสันติ จึงอยากให้ทั้งผู้ว่าราชการจังหวัด และผู้บังคับการตำรวจภูธร ข้าราชการ ภาคเอกชนทั้งหลายให้ช่วยกันขับเคลื่อนพลัง ตามพระราชเสาวนีย์เมื่อคืนนี้พยายามจะทำให้ดีที่สุด และมั่นใจว่าเอาอยู่ไม่ต้องถึงกับให้สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จมาทรงพระแสงปืนด้วยพระองค์เอง แสดงให้เห็นถึงว่าพระองค์ท่านพร้อมที่จะปกป้องแผ่นดินไทย แม้จะมีพระชนมายุ 72 พรรษาแล้วก็ตาม ฉะนั้น คนไทยเราทั้งประเทศทำไมจึงนั่งอยู่เดียวดายไม่ได้ จึงไม่ต้องห่วงถ้ามีการแยกดินแดนขึ้นจริง ตนเองจะไปอยู่ข้างหน้าเองไม่กลัวอยู่แล้ว แต่รับรองว่าเราจะใช้สันติวิธีให้มากที่สุด


........................
แน่นอนว่าวิธิการตาต่อตา ฟันต่อฟันในการแก้ปัญหาชายแดนใต้นั้นล้มเหลว จนต้องนำมาสู่เปิดโต๊ะเจรจาในสมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ซึ่งหนทางอีกยาวนาน กว่าจะสำเร็จลงได้
แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือในปี 2547 ทั้ง ทักษิณ ชินวัตรและราชสำนัก สายราชินี เดินแนวทาง ใช้ไม้แข็ง/ฮาร์ดคอร์ ในการแก้ปํญหา

ปล.
เหตุที่ผมจำเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นใจเพราะส่วนหนึ่งในบทบก. ฟ้าเดียวกัน 2/4 : คนกันคนที่เคยอยู่คู่กันมา คนกับคนหันหน้าฆ่ากันเอง
https://sameskybooks.net/index.php/product/journal-002-04/

ประการหนึ่ง คือ สำหรับประชาชนที่ยืนสายกลางและไม่มีข้างให้เลือก เราควรจะแสดงพลังต่อต้านความไม่เป็นธรรมและความรุนแรงจากทั้ง 2 ฝ่าย มาตรฐานทางศีลธรรมที่เราเรียกร้องกับรัฐ เราก็ต้องเรียกร้องต่อผู้ก่อการและชุมชนในจังหวัดชายแดนภาคใต้ด้วย คงต้องถามกันว่ามีวิธีการต่อสู้แบบอื่นไหมที่ไม่ฆ่าคนบริสุทธิ์ ถึงแม้จะเป็นการต่อสู้กับการกดขี่ก็ตาม มีแต่ต้องยืนบนค่านิยมแบบนี้เท่านั้น มันจึงจะมีน้ำหนักพอที่จะชวนให้คนอื่นในสังคมร่วมแรงกับคนภาคใต้

อีกประการหนึ่ง คือ เราคงต้องสร้าง “ทางเลือกทางการเมือง” ของประชาชนที่ไม่ได้อยู่ข้างรัฐหรือกลุ่มหัวรุนแรง เนื่องจากทั้ง 2 กลุ่ม มีแต่ทางเลือกเชิง “การทหาร” เท่านั้น ซึ่งในเรื่องนี้ เกษียร เตชะพีระได้ทดลองเสนอแนวทางนำร่องไปแล้วว่า ควรเปิดเวทีสาธารณะในประเด็นวิสัยทัศน์และแนวทางปฏิรูปการเมืองชายแดนภาคใต้ เพื่อนำเสนอการเมืองทางเลือกที่จะทำให้ภาคใต้เป็นที่อยู่ร่วมกันของพี่น้อง เชื้อชาติศาสนาต่าง ๆ ได้อย่างสันติสุข โดยอาจมีจุดเริ่มต้นจากการนำเอาข้อเสนอปฏิรูปการเมืองการปกครองชายแดนภาคใต้ที่สำคัญเท่าที่เคยมีมาในประวัติศาสตร์มาพินิจพิจารณาร่วมกัน ตั้งแต่ “คำขอ 7 ประการ” ของหะยีสุหรง อับดุลกาเดห์ ที่เสนอต่อรัฐบาลหลวงธำรงนาวาสวัสดิ์ เมื่อวันที่ 3 เมษายน พ.ศ. 2490 มาจนกระทั่งข้อสรุปปัญหาและข้อเสนอชุดที่รองนายกรัฐมนตรี จาตุรนต์ ฉายแสง ไปรับฟังประชาคม 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้มา นำมาให้ฝ่ายต่าง ๆ อภิปรายถูกเถียง หาทางปรับแก้ข้อเสนอเหล่านี้ให้สอดคล้องกับภาวการณ์ที่เปลี่ยน แปลงไป

..ไม่ต้องไป “หัดยิงปืน” หรอกครับ สันติสุขเกิดขึ้นได้ด้วยพลังประชาชน
ooo
Sujane Kanparit
17h ·

ดูจากที่ทักกี้พูดเมื่อคืนใน ch เท่าที่สรุปกันมา ถ้าเป็นประเทศที่หัวก้าวหน้าและเคารพสิทธิมนุษยชน จะดึงเขาไปใช้งาน

ทักกี้ เหมาะเป็นแค่รองนายกฯ และ รมว. คลัง ทำเรื่องเศรษฐกิจไปอย่างเดียว แต่ภาวะผู้นำของโลกที่ต้องการการเคารพสิทธิมนุษยชนด้วย เขาอาจไม่เหมาะแล้ว

ยิ่งสำหรับคนรุ่นใหม่ที่ทลายเพดาน พูดไปถึงรากของสถานการณ์มาแล้ว วิสัยทัศน์ด้านการเมืองของทักกี้เป็นแค่อดีตอันรุ่งเรืองและเป็นกรณีศึกษาสำคัญเท่านั้น

และอย่าแปลกใจ ทำไมสมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ นางถึงไม่ยอมเอาไทยเข้า icc
ก็พี่ชายนางเป็นเสียอย่างนี้

Monton Praphakonkiat
จริงพี่ วิสัยทัศน์เศรษฐกิจนี่เคลียร์นะ อธิบายได้ดี แต่พอด้านการเมืองการปกครอง พี่แกตอบได้ง่าวมากๆ

Sujane Kanparit
เกิดกรณีอากง มาแล้วยังพูดแบบนี้ได้ ผมว่าแกไม่เวิร์กครับ ทักกี้ดีอย่างเดียว มาตามระบบ และด่าได้