วันศุกร์, สิงหาคม 07, 2563

เฮียตู่ต้องเอาอย่างน้องแดงเขานะ บอกเลย “ไม่ได้พูดถึงใคร ทำไมต้องร้อนตัว”

เฮียตู่ต้องเอาอย่างน้องแดงเขานะ บอกเลย “ไม่ได้พูดถึงใคร ทำไมต้องร้อนตัว” เรื่องไปปาฐกถาที่เซ็นทาร่า ลาดพร้าว จะ “ก้าวต่อไปอย่างมั่นคง” น่ะ เข้าใจทั่นดี “อะไรก้าวล่วงก็ต้องขอโทษไม่ได้มีเจตนาอะไร” ที่ทั่น “ไม่เข้าใจ”

“ประเทศไทยน่าอยู่ อากาศดี อาหารอร่อย ธรรมชาติสวยงาม ระบบการแพทย์ดี...ทูตฯ ทุกประเทศต่างก็บอกว่า...เขาอยากมาเกษียณอายุที่ไทย อยากมาใช้ชีวิตที่ไทย แต่คนไทยหลายคนกลับไม่อยากอยู่” เอ้าช่วยทั่นคิดหน่อย

“ประเทศชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์อยู่ตรงไหน กฎหมายอยู่ตรงไหน” คิดใหม่นะ อย่าไปคิดย้อนหลังถึงเรื่องกฎบัตรกฎหมายไม่อยู่กับร่องรอย ที่ อานนท์ นำภา มาก่อนกาลปราศรัยแย้งทั่นไว้เมื่อสองสามวันก่อน ว่า “สามอำนาจมันก้าวล่วงกันแล้ว”

เห็น ตู่ตั้ง รัฐมนตรีสำหรับเศรษฐกิจใหม่อีก ๗ คน ไม่อยาก ติเรือทั้งโกลนพวกอุตสาหกรรมขานรับกันไป แต่สำหรับประชาชนก็ยังลูกผีลูกคนอย่างเดิม จนกว่าจะอีกสองสามปีให้หลัง ตายห่ ถลุงไปแล้วหลายแสนล้านยังไม่ได้ทุนคืน ต้องไล่ทีมงานเหมือนที่ผ่านมา

“ประเทศไทยที่ว่าแย่ แต่ก็ยังมีหลายประเทศที่แย่มากกว่า” ตู่บอก คงเอาไปเปรียบกับประเทศกัยยาน่าหรือเซียร่าลีออนมั้ง กับเวียตนามกับมาเลเซียใกล้ตัวเกินไปไม่อ้างถึง “เรามีดอลล่าเข้ามาใช้จ่ายในประเทศจำนวนมาก ทำให้เกิดดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุล

สิ่งเหล่านี้จะทำให้ค่าเงินของเราแข็งพอสมควร” นั่นสิ ส่งออกถึงได้หด ทีมเศรษฐกิจชุดที่แล้วแก้ไม่ตกไง มิหนำซ้ำอุตสาหกรรมต่างชาติย้ายฐานผลิตออกจากไทยระนาว ไม่ใช่แค่เพราะโควิดเท่านั้น เป็นเพราะนักลงทุนไม่มีความเชื่อมั่นรัฐบาลชุดนี้ด้วย

ที่น่าตบปากก็ตรงยกยอตัวเอง “ตั้งแต่ผมเข้ามารับตำแหน่งนายกฯ เมื่อวันที่ ๒๔ ส.ค.๒๕๕๗ จะเห็นได้ว่าเศรษฐกิจไทยปรับตัวดีขึ้นตามลำดับ” เหอ เหอ นับจุดเริ่มต้นเฉพาะปี ๒๕๕๗ ที่ว่าการขยายตัวอยู่ที่ ๑.๐% ใช่สิ

มิใช่เพราะพวกลิ่วล้อของทั่น กปปส.เอย พธม.เอย สลิ่มเป่านกหวีดเอย ช่วยกันป่วน ชัตดาวน์ ชัตตะฟุค กันเพื่อกวักมือเรียกให้ทหารเข้ามายึดอำนาจหรอกหรือ เศรษฐกิจถึงเกือบบรรลัย แล้วมาตายหยังเขียดตอนที่พวกดีกรี จปร.ช่วยถลุงนั่นละ

ก่อนหน้านั้นรัฐบาลพลเรือนจากการเลือกตั้งทำให้เศรษฐกิจโตอย่างน้อยๆ ๕-๖ เปอร์เซ็นต์ไม่อ้างถึง อ้างเฉพาะที่ คสช.ทำให้ลดระดับไปอยู่ที่ ๓.๑ ถึง ๓.๔ ยังหน้าด้านเอามาอ้างว่าการป่วนเมืองสร้าง “ปัญหาความขัดแย้ง ความไม่มีเสถียรภาพ” ทำเศรษฐกิจพัง

(https://siamrath.co.th/n/174946)

ย้อนไปเรื่องที่เหน็บคนไทยที่ไม่อยากอยู่ในประเทศ อาจหมายถึงที่อังกฤษซึ่งเขาทำมาค้าขึ้น รวยเอา รวยเอา แต่ไม่หมายถึงที่เยอรมนี ซึ่งมีแต่ค่าใช้จ่ายหลายพันล้าน เพราะดูเหมือนว่าไม่ช้า แต่ว่าคงไม่เร็ว เดี๋ยวกลับมาแน่

จากที่ Andrew MacGregor Marshall @zenjournalist เอาเอกสารกรมโยธาธิการและผังเมืองมาเปิด ถึงการจัดซื้อจัดจ้าง ปรับปรุงพระตำหนักจิตรลดารโหฐานและพระที่นั่งอัมพรสถาน วงเงินงบประมาณรวมแล้วเฉียดๆ ๑๑๒ ล้านบาทนั่น

โดยเฉพาะที่พระที่นั่งอัมพรฯ มีการจัดสร้างอาคารหลายหลัง เช่น อาคารเอนกประสงค์ อาคารยิมเนเซี่ยม อาคารโรงเลี้ยง อาคารจอดรถ สำหรับข้าราชบริพาร รวมทั้งอาคาร กองร้อยชายโสดและ ห้องนอนนายทหารหญิง (หน่วย เอสเอเอส)

แอนดรูว์บอกว่าหน่วยเอสเอเอสนี่ตั้งชื่อเลียนแบบหน่วย SAS ของอังกฤษ เป็นชุดที่ราว ๒๐ คนพำนักอยู่ที่โรงแรมการ์มิสซ์ฯ ในเยอรมนีขณะนี้ ทหารหญิงเหล่านี้ได้รับพระราชทานนามสกุลเหมือนกันหมดว่า สิริวัชรภักดี(จริงแท้แค่ไหนไม่รู้ ไปดูเพจของแอนดรูว์กันเอง)

อันนี้เป็นนิมิตรหมายให้ชื่นฤทัยในธรรมสำหรับพสกนิกรผู้จงรักภักดี และมุ่งมาดปรารถนาให้พระเจ้าอยู่หัวเสด็จคืนสู่พระนคร บิ๊กตู่ จะได้ถวายงานใกล้ชิดเบื้องบุคลบาทา อาคารที่สร้างให้ทหารหญิง หลับนอนเสร็จเมื่อไร พระองค์คงได้เสด็จกลับเมื่อนั้น

เว้นแต่ว่านั่นเป็นการก่อสร้างสำหรับทหารหญิงชุดใหม่ ที่จะมีการ ‘recruit’ แต่งตั้งเพิ่มเติม อะนะ