วันศุกร์, สิงหาคม 21, 2563

ดราม่าครูกับนักเรียนยังมีต่อเรื่อยๆ ล่าสุดมีเพจหนึ่งออกมาชี้แจงว่าครูไม่ได้รับเงินเดือนจากค่าเทอมของนักเรียน แต่รับเงินจากกระทรวงการคลัง แล้วก็มีการสรุปกันในทำนองว่าอาชีพครูไม่ได้มีสถานะเป็นลูกจ้างของนักเรียน ทั่นผู้ปกครองว่าไง ?!?



นักยุทธศาสตร์ - The Strategist
11h ·

ดราม่าครูกับนักเรียนยังมีต่อเรื่อยๆ ล่าสุดเห็นเพจหนึ่งท่านออกมาชี้แจงว่าครูไม่ได้รับเงินเดือนจากค่าเทอมของนักเรียน (ซึ่งก็เป็นความจริง) แต่รับเงินจากกระทรวงการคลัง

แล้วก็มีการสรุปกันในทำนองว่าอาชีพครูไม่ได้มีสถานะเป็นลูกจ้างของนักเรียน เพราะโรงเรียนไม่ใช่สถานประกอบการ อันนี้ฟังดูแล้วไม่ค่อยจะโอเคเท่าไรสักสำหรับคำกล่าวลักษณะนี้

ผมว่าคนเป็นข้าราชการยังไงก็ต้องเป็นรับใช้ประชาชนอยู่ดี เด็กนักเรียนเขาก็มีสิทธิเรียกร้อง หรือร้องเรียนได้เหมือนกัน หน่วยงานอื่นเวลาทำอะไรให้ประชาชนไม่พอใจเขายังร้องเรียน หรือเรียกร้องกันได้เลย

อีกอย่างถึงเงินเดือนครูและข้าราชการครูนั้นไม่ได้มาจากค่าเทอมของนักเรียนโดยตรง แต่เงินและรายได้ของกระทรวงการคลังที่นำมาใช้จ่ายในส่วนของการจ้างข้าราชการครูนั้นส่วนหนึ่งก็มาจากกรมสรรพากร

และ ภงด. ที่ประชาชนเขาจ่ายไม่ใช่หรือครับ ยังไงๆประชาชน (หรือพูดอีกนัยหนึ่งก็คือ นักเรียน ที่พ่อแม่เขาก็จ่ายภาษีให้ประเทศอยู่ตลอด ไม่ว่าจะ ภงด หรือ VAT7%) ก็ต้องมีสิทธิที่จะเรียกร้อง

การแปะป้ายว่าเงินเดือนครูไม่ได้มาจากค่าเทอมนักเรียนมันก็มีส่วนถูกนั่นแหละครับ แต่ยังไงๆมันก็ปฏิเสธข้อเท็จจริงที่ว่าเด็กมีสิทธิที่จะเรียกร้องเอาจากครูได้ หากเด็กซึ่งเป็นผู้ใช้บริการเห็นว่าครูมีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมใดๆ

อาชีพครูก็เหมือนเรือจ้างนั่นแหละครับ สมัยนี้ ยุคสมัยมันเปลี่ยนไปแล้ว เด็กเป็นลูกค้า ถ้าครูเปลี่ยนมุมมอง แล้วลองคิดซะว่าเด็กเป็นลูกค้าของตนเอง เขาคอมเพลน หรือตำหนิอะไรมาก็รับฟัง ส่วนจะปรับปรุงหรือไม่ก็แล้วแต่ฝ่ายครูว่าจะเห็นควรอย่างไร

ถ้าไม่เห็นด้วยก็ปัดข้อเรียกร้องตกไป ถ้าเห็นด้วยก็แค่นำมาพิจารณาเท่านั้นเอง แค่นี้ความขัดแย้ง และความไม่ลงรอยกันระหว่างฝ่ายครูกับฝ่ายนักเรียน ก็จะลดลงไปได้เยอะแล้ว แค่ปรับทัศนคติกันเล็กๆน้อยๆ

อาชีพครูก็เหมือนอาชีพอื่นๆยึดโยงกับสังคมตามสถานะและบทบาทที่ตนเองมี เด็กเขาจะมองอย่างไร ถ้ามันไม่เหลือบ่ากว่าแรงก็ลองๆปรับตัวเข้าหาเด็กก็ได้ ความดื้อ ความขบถของเด็กสมัยนี้ก็คือบทสะท้อนของความเปลี่ยนแปลงและพลวัต

ถ้าใช้วิธีเดิมๆรับมือกับเด็กไม่ได้ ก็ต้องเปลี่ยนไปหาวิธีอื่นๆมาปรับใช้แทน 
เพจที่ถูกอ้างถึง


กูรู้ทัน2
16h ·

เงินเดือนครูไม่ได้มาจากค่าเทอมนะจ๊ะน้องจ๋า
แล้วค่าเทอม นั้นหนาไปอยู่ไหน
ค่าเทอมหรือที่เรียกแบบทางการว่าค่าบำรุงการศึกษา ความหมายมันก็ตรงๆตัวอยู่แล้วจ๊ะ ในแต่ละเทอมที่น้องๆไปโรงเรียน น้องๆเคยสังเกตและสงสัยบ้างไหม ค่าบำรุงซ่อมแซมอาคารสถานที่ โต๊ะเก้าอี้ ค่าน้ำ ค่าไฟฟ้าห้องเรียนใช้เงินจากไหน ห้องสมุด อุปกรณ์กีฬา วัสดุ ครุภัณฑ์ที่นักเรียนทั้งโรงเรียนต้องใช้มาจากไหน อาจารย์สอนพิเศษ วิทยากร ลุงๆป้าๆ นักการภารโรง พี่ที่ห้องพยาบาลเอาเงินที่ไหนไปจ่ายเงินเดือนเค้าล่ะจ๊ะ เวลาครูพาไปทัศนศึกษาค่าใช้จ่ายต่างๆ น้องๆคิดว่ามาจากไหนจ๊ะ จริงอยู่แต่ละโรงเรียนมีเงินจากรัฐบาลมาช่วยแต่มันก็ไม่พอหรอกจ๊ะ ค่าเทอมของน้องๆเป็นอะไรได้หลายอย่างในโรงเรียนจ๊ะ แต่ไม่ใช่เงินเดือนครูนะจ๊ะ
ส่วนโรงเรียนเอกชนนั้นก็ว่าตามกฎระเบียบของเค้าไป
โรงเรียนคือที่สำหรับไปเรียนไปศึกษานะจ๊ะไม่ใช่สถานประกอบธุรกิจนักเรียนไม่ใช่นายจ้างและครูก็ไม่ใช่ลูกจ้าง
เด็กเอ๋ยเด็กน้อย
ความรู้เรายังด้อยเร่งศึกษา
เมื่อเติบใหญ่เราจะได้มีวิชา
เป็นเครื่องหาเลี้ยงชีพสำหรับตน
ได้ประโยชน์หลายสถานเพราะการเรียน
จงพากเพียรไปเถิดจะเกิดผล
ถึงลำบากตรากตรำก็จำทน
เกิดเป็นคนควรหมั่นขยันเอย.
...