วันอาทิตย์, สิงหาคม 23, 2563

เพดานการต่อสู้ #ชูสามนิ้ว 'ลด' ลงไปถึงรุ่น 'อนุบาล' แล้วนะ ‘ม้าแก่’ ลดบ้าง "ลงไปอยู่ตรงง่ามขาอ่อน"

เห็นว่ากัน #เยาวชนปลดแอก รุ่นนี้ ยกเพดานการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยขึ้นไปเยอะเลย คงใช่ในด้าน เนื้อหาแต่ถ้าพูดถึงวัยละก็ต้องว่า ลดจนเอาไม่อยู่นะ จาก ม.ต้น ลงไป ป.๔ น้องเอมที่ ชูสามนิ้วกับยาย มาถึง น้องอมยิ้ม ชั้นอนุบาลน่ะ

ขณะที่พวกสลิ่มหางเครื่องเผด็จการนั่นก็ ลด เหมือนกันที่ ระดับสติปัญญาดูได้จาก ม้าแก่อรนภา กฤษฎี ทรานสเจ็นเดอร์คนดัง ลงไปอยู่ตรงง่ามขาอ่อน ออกมาด่า เด็กเปรต ให้ “นอนแหก he อยู่บ้านไป ไม่ต้องมาเรียน” สมดัง ปวิน ว่า “he เทียมด่า he จริง”

ย้อนแย้งตรงว่ากรณีน้องอมยิ้ม มีเจ้าหน้าที่แห่กันไปถามหาถึงบ้าน จากที่มีรูปลงโซเชียลยืนชูสามนิ้วนั่นแหละ ขนาด แหม่มโพธิ์ดำยังว่า “อีเหี้ยยย เกินไปมั้ยย...ถึงกับส่งคนมาคุยเชิงข่มขู่ กันเลยเหรอ” มันก็เลยช่วยไม่ได้ ตอนนี้มีแฮ้สแท็กใหม่ #ตามหาลูกประยุทธ์ แล้วสิ

กานดา นาคน้อย นักวิชาการเศรษฐศาสตร์ คอนเน็คติกัต โดดลงมาเล่นด้วยคน “ถ้าเขาช่วยพ่อฟอกเงิน ในอนาคตก็ควรโดนเอาผิดแบบลูกสาวของจุฑามาศ ศิริวรรณ” เนื่องเพราะเม้าท์กันแซ่ด ลูกสาวคู่แฝดของประยุทธ์อยู่ต่างประเทศเงียบกริบเชียว

แรกเมื่อตอนประยุทธ์ยึดอำนาจใหม่ๆ ทราบกันว่าส่งลูกไปเรียนที่ออสเตรเลีย ภายหลังนัยว่าย้ายไปอยู่อังกฤษ มีเจ้าสัวซื้อบ้านให้อยู่หลังนึงเลย แต่ไม่เคยมีข่าวแม้แต่สะกิด ได้ความว่าเปลี่ยนไปใช้นามสกุลแม่ ไม่ยอมใช้ จันทร์โอชา

อจ.กานดาเลยกูเกิ้ลหาพบว่านามสกุลเดิมครูน้องก่อนแต่งงาน ใช้ โรจนจันทร์จารย์เธอจึง “ฝากมิตรสหายในยุโรป สหรัฐฯ และออสเตรเลีย ส่งข่าวถ้าพบคนนามสกุล...Rojanachan หรือ Rochanachan” พร้อมย้ำ “แต่อย่าบุลลึ่เขา”

ก็อย่างนี้ละ การต่อสู้ยุคโลกาภิวัฒน์ ยุทธวิธีมีซ้ำซ้อนทั้งสองฝ่ายผลัดกันเอาไปใช้ บางครั้งย้อนแย้ง บางครั้งเสแสร้ง บ่อยครั้งมากด้วยชั้นเชิง แล้วอีกฝ่ายก็เรียกว่า เล่ห์กล แต่ถึงอย่างนั้นคนรุ่นใหม่ยุคนี้ ไม่ได้ตกหลุมพลางง่ายๆ

ดังการออกคลิป ‘Propaganda’ ชุดใหม่ของกรมประชาสัมพันธ์ นอกจากเพลง ธงชาติที่ ด่า พวก ชังชาติ โดยใช้วิดีโอประกอบเป็นบรรยากาศการชุมนุมและปราศรัยของพวกนักเรียนนักศึกษา คลิปนี้อายุสั้นมาก ออกมาได้วันเดียวมีผู้ชมราวหมื่นกว่าก้ต้องลบไป

เพราะเกิดการ ทัวร์ลงอย่างกระหึ่ม ข่าวว่ามีคนกดไล้ค์แค่สามสิบกว่าราย แต่กด ไม่ชอบ ราวสามพันกว่า ไม่น้อยหน้ากับชุด แม่ vs ม็อบที่ต้องยอมรับว่าฝีมือแยบยลมาก แต่ก็อยู่ได้ไม่นานเช่นกัน มีคนดูก่อนถูกลบ ๓๘,๐๐๐ ราย

แต่ถูกใจเพียง ๖๙ ส่วนที่กด ดิสไล้ค์มีถึง ๙ พันกว่า เพราะอะไร เพจ poyxerox social hit newsวิจารณ์ว่าเพราะกล่าวหา ตัวละครเด็กสาวผู้เป็นลูกในคลิปซึ่งกำลังจะออกไปร่วมชุมนุม ว่า “ก้าวร้าว แต่แม่นั้นอ่อนโยน” พยายามพูดกับลูกด้วยวาจานุ่มนวล

“ไม่ใช่ไม่เห็นด้วย แต่แม่ไม่อยากให้ไปถึงจุดที่ว่าใครที่คิดไม่เหมือนเรา คือผิด แบ่งแยกคนไทยด้วยคำว่า คนรุ่นเก่ากับคนรุ่นใหม่ แล้วถ้าไม่ฟังคนที่คิดต่างเลยจะเรียกประชาธิปไตยได้อย่างไร ถึงเราจะมองบางอย่างไม่เหมือนกันแต่เราก็อยู่บ้านเดียวกัน กินข้าวหม้อเดียวกัน”

นี่ถ้าเป็นสลิ่มติ่งอรนภา หรือปารีณา หรือกระทั่งศรีนวลละก็ ต้องเอามือทาบอกน้ำตาซึม นึกว่ามันช่างกินใจอะไรปานนั้น พูดถึงประชาธิปไตย การเห็นต่าง แต่ไปลงที่การแบ่งแยก ประชาธิปไตยไทยๆ แบบมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขนี่ไฉนตื้นเขิน

ไม่รู้กันเลยหรือไรว่า แก่นแท้ ประชาธิปไตย นั้นอยู่ที่ความแตกต่าง ความหลากหลาย ซึ่งสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างสมานฉันท์ แม้จะมีความเห็นแย้งแต่ต่างฝ่ายต่างเข้าใจในบริบทซึ่งกันและกัน และยินดีที่จะอยู่ด้วยกัน

หากไม่ใช่เพราะสิ่งที่เป็นนิยามอันแท้จริงของประชาธิปไตยเหล่านี้ มีหรืออรนภาจะอยู่มาจนได้เป็น ม้าแก่

(https://www.youtube.com/watch?v=SZqZqKRjQVg, https://www.youtube.com/channel/UCJEB1TdLPm4DlIPJkMywK1g และ https://www.khaosod.co.th/special-stories/news_4761397)