น้ำที่กำลังมานี่แรงส์ สภาที่อุตส่าห์ ‘sucks’ ดูดแล้วดูดอีกจนเป็น ‘ข้างมาก’ ก็ชักจะ ‘มุ้งมิ้ง’ หลังจากที่นักเรียนนักศึกษาต่างกลุ่มต่างชุมนุมทั่วประเทศอย่างสอดคล้อง จนต้องประกาศ ‘แก้รัฐธรรมนูญ’ แม้จะมีความพยายามไฮแจ็คไปเป็นของสาย ‘เลียอำนาจ’
ตอนนี้ยังไม่รู้ใครจะได้เป็นแกนนำกระบวนแก้ ค่าย พปชร.ขอดึง สว.มาร่วม แต่ดูเหมือนจะยิ่งผูกปมมากกว่า ปชป.น่ะดูจะไม่เอา สว. ก็ขอติดป้ายแมลงสาบไว้หน่อย อ้างว่าพวกเขาเป็นตัวตั้งตัวตีแต่แรก ก็งี้แหละถ้าหากจะคอยเอาดีใส่ตัว อย่างมากแค่ ‘สนม’
แต่สำหรับฝ่าย ‘สืบทอดอำนาจ’ เวลานี้ไม่มีอันไหนแรงไปกว่า ‘กระทิงแดง’ สื่อไอค่อนของสลิ่มบอกเอง “ดูจะบานปลายจนกระทบกับทุกคนที่อยู่รายรอบ และยังสะเทือนไปถึงขาเก้าอี้นายกรัฐมนตรี บนตึกไทยคู่ฟ้า อย่างเลี่ยงไม่ได้”
เรื่องน้ำที่ชาวบ้านอีสานและเหนือร้องกันโอดโอย จากเมื่อกว่าอาทิตย์ที่แล้ว “ฝนตกทีไร ชาวบ้านผวา” มาเป็นจริงวันนี้ ทางหลวงสี่สายถูกน้ำบากตัดขาด และราษฎรอ่วมกันเป็นทิวแถว ไล่มาตั้งแต่ เลย อุตรดิตถ์ นครพนม เข้าเชียงใหม่และเชียงราย
“ผลกระทบจากพายุซินลากู ทำภาคเหนือหลายจังหวัดมีฝนตกหนัก น้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน ถนนถูกตัดขาด” ThaiPBS @ThaiPBS ทวี้ต แม้นว่าที่เลยน้ำเริ่มลดแล้ว แต่ปลายแถวยังไม่รู้จะลดเมื่อไหร่ ซ้ำอาจมีปลายหางฟาด
เพราะพายุฝนชุดนี้ไม่ได้เบา ลูกแรกถล่มจีนจนกระอักน้ำทะลักล้นเขื่อนก็ยังเอาอยู่ แต่ว่า ‘ซินลากู’ นี่เค้ามีจุดหมายที่จีน และหากไม่บันยะบันยัง ล้นคราวนี้คงต้องไม่รอระบาย นินทากันว่านิสัยอย่างจีนน่าจะปล่อยทะลักเข้าลาว
ตานี้ถ้าลาวเกิดเอาไม่อยู่เพราะจะโดนหางซินลากูทับถมเหมือนกัน ก็ต้องดันลงไปเพิ่มที่โขง แถบอีสานของไทยย่อมได้อาณิสงค์ความอ่วมอีกหน ฉะนี้ ‘ประยุทธ์ ๒’ อาจไม่ต้องห่วงเท่าไร เพราะถึงอย่างไรก็เป็นอย่างนี้มาแล้วทุกปี ไม่มีทาง ‘ปล่อยน้ำ’ แก้ปัญหาอย่างปี ๕๔
แล้วทำไมต้องห่วงปม ‘อยู่วิทยา’ นักล่ะ ในเมื่อกระบวนการแก้ต่างและแก้ตัวของตำรวจ เต็มพรืดไปหมด ฟังขึ้นหรือไม่ขึ้นไม่ใช่ข้อกังวล ขอให้ได้บิดหรือปฏิเสธเท่านั้นพอ อย่างประเด็นโคเคนในร่างผู้ขับรถชนตำรวจตายนั่นก็เบี้ยวมาแล้วหลายมุม
จากที่ว่ามาจากยารักษาฟัน พอโดนแย้งดิ้นไม่หลุดก็แถกต่อไปว่ามาจากยาปฏิชีวนะ “แพทย์ยืนยันว่า ‘บอส’ ได้รับยาบรรเทาอาการอักเสบไม่มีส่วนผสมของสารเสพติด” ถึงอย่างไรตำรวจยันว่า “สารทั้งสองชนิดไม่ถูกบัญญัติว่าเป็นสารที่ผิดกฎหมาย...จึงไม่ได้แจ้งข้อหา”
ถึงอย่างนั้นก็น่าประหลาด ไฉนประยุทธ์สั่งให้ชันสูตรศพของ จารุชาติ มาดทอง ที่อ้างหลังเกิดเหตุว่า วรายุทธ อยู่วิทยา ขับรถด้วยความเร็วแค่ ๖๐-๗๐ ก.ม./ช.ม.เท่านั้น แล้วอัยการเอาคำให้การของเขามาเป็นพยานปากเอก
จารุชาติเพิ่งเสียชีวิตเมื่อสองสามวันก่อนจากการที่รถมอเตอร์ไซค์เฉี่ยวกับรถคันของเพื่อน ทั้งคู่เมากันมาแล้วกำลังจะไปแอ่วสาวต่อ ประเด็นการตายของชูชาตินี่ 'เนชั่นทีวี' เกาะติดหนับ เสนอข่าวประเด็นนี้เกือบทุกวัน
วีรนันท์ กัณหา นักข่าวว้อยซ์ทีวีตั้งข้อสังเกตุว่าทำไมค่ายเนชั่นเกาะติดขนาดนั้น เขาดูจากกร๊าฟฟิค แล้วบอกว่า “มาอ๋อ...ตรงบรรทัดล่าง 555” ที่ว่าวีรชาติเป็นพนักงานบริษัทนิติชัยของ ชูชัย เลิศพงษ์อดิสร ทนายความ อดีต สว.เชียงใหม่
ตั้งแต่ปี ๕๑ ถึง ๖๒ ชูชัยซึ่งได้รับการสนับสนุนจาก เยาวภา วงสวัสดิ์ ลงรับเลือกตั้งเป็น สว. จนเมื่อปีที่แล้ว สมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทยไปช่วยแถลงข่าวการลงชิงตำแหน่งนายก อบจ.เชียงใหม่ ถ้ามาแนวนี้ย่อมแสดงว่า
ค่ายเนชั่นขวัญใจสลิ่มกำลังจะประติมากรรมประเด็นใหม่ให้กรณีอื้อฉาว ‘สั่งไม่ฟ้องทายาทกระทิงแดง’ เกี่ยวข้องกับ ทักษิณ ชินวัตร จนได้ แสดงว่าฝ่ายต้องใจการสืบทอดอำนาจ คสช. ยังไม่เบื่อที่จะ “อะไรๆ ก็โทษทักษิณ”
แต่ขนาดนี้มันน่าจะมีอะไรลึกกว่านั้น สื่อค่ายเดียวกันพยายามปูดว่า เหตุที่ประยุทธ์ตั้ง วิชา มหาคุณ ไปกำกับการสอบสวนกรณีสั่งไม่ฟ้องวีรยุทธ เพราะเชื่อมือมาแต่ครั้งเป็น ปปช.จัดการคดีจำนำข้าว จนมีการถอดตำแหน่ง และบางคนติดคุก
ทั้งๆ ที่วิชาก็ทำให้พี่ใหญ่ คสช.จุกอกพอสมควร จากการที่ทำคดี สลายชุมนุมกลุ่ม พธม. เมื่อ ๗ ตุลา ๕๑ ครั้งนั้นนอกจากคนที่ขึ้นเขียงเป็นนายกฯ สมชาย วงสวัสดิ์ และรองฯ ชวลิต ยงใจยุทธ แล้วยังมี ผบ.ตร.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ติดร่างแห
คดีนั้น สุดท้ายศาลยกฟ้อง แต่ก็ “ทำให้บิ๊กป้อมยังคาใจกับคนชื่อวิชา” และต่างจากประยุทธ์ “ที่ต้องพึ่งพา ในวันที่กระบวนการยุติธรรมสั่นคลอนอำนาจตัวเอง” ข้อสรุปของ ‘กรุงเทพธุรกิจ’ นี้จะรับฟังได้ไม่ได้ ไม่มีความสำคัญมากไปกว่า
ให้ความสำคัญกับการป่วนกระแสการเมืองด้วยเรื่องส่วนบุคคล ยิ่งกว่าหลักการ
(https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/891927, https://www.amarintv.com/news/detail/40712, https://twitter.com/ThaiPBS/status/1290116764551053316 และ https://twitter.com/INNNEWS/status/1290097883589427201)