iLaw
3h ·
ชุมนุมเสกคาถาถึง "คนที่คุณก็รู้ว่าใคร" ทนายอานนท์เปิดประเด็นร้อน ตำรวจยืนเฝ้าห้ามลงถนนไม่ได้ห้ามปราศรัย
.
3 สิงหาคม 2563 กลุ่มมหานครเพื่อประชาธิปไตย และกลุ่มมอเกษตรนัดจัดกิจกรรมชุมนุมที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ภายใต้ชื่อกิจกรรม #เสกคาถาปกป้องประชาธิปไตย โดยนำเอานิยายชื่อดัง “แฮรี่ พอตเตอร์” มาใช้เป็นไฮไลท์ ซึ่งในนิยายเรื่องนี้มีตัวร้ายที่ถูกเรียกว่า “คุณก็รู้ว่าใคร” เพราะคนในเรื่องต่างไม่กล้าเอ่ยชื่อด้วยความกลัว และเชิญชวนผู้เข้าร่วมเสกคาถาเวทมนต์ เพื่อขับไล่รัฐบาล
ก่อนเริ่มกิจกรรมตำรวจก็เอารั้วมาตั้งไม่ให้ประชาชนลงมาใช้พื้นที่ถนน และไม่ให้ขึ้นไปที่ฐานอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย โดยใช้กำลังตำรวจในเครื่องแบบจำนวนมากคอยดูแล มีรถตำรวจและรถผู้ต้องขังประจำการอยู่โดยรอบจำนวนมาก
เมื่อถึงเวลานัดหมายทำกิจกรรม ตำรวจจาก สน.ชนะสงคราม เอาเครื่องเสียงมาประกาศแจ้งว่า ข้อจำกัดการรวมตัวทำกิจกรรมตามพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ยังใช้บังคับอยู่ ขณะเดียวกันการชุมนุมก็ต้องเป็นไปตามเงื่อนไขของ พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ และให้ผู้ชุมนุมเว้นระยะห่าง ใส่หน้ากากอนามัย ให้ระวังการใช้ไมโครโฟนร่วมกันของผู้ปราศรัย
ซึ่งเป็นการตอกย้ำความสับสนที่มี หลังข้อกำหนดฉบับใหม่ตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ออกมาเมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม 2563 ทำให้ไม่มีความชัดเจนว่า จะใช้พ.ร.บ.การชุมุนมสาธารณะ ในช่วงเวลาที่มีพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ อยู่ได้หรือไม่ ซึ่งตำรวจก็ไม่ได้ให้ความชัดเจน แต่อ้างกฎหมายทุกอย่างมาใช้พร้อมๆ กัน
กิจกรรมดำเนินไปจนถึงช่วงเวลา 20.00 เป็นส่วนที่หลายคนรอติดตาม คือ การปราศรัยของทนายอานนท์ นำภา ที่ประกาศว่า จะพูดเรื่องที่การปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์
เนื้อหาโดยสรุปที่ทนายอานนท์กล่าวปราศรัย คือ ประเด็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2560 หลังการทำประชามติในประเด็นพระราชอำนาจของสถาบันพระมหากษัตริย์ การออก พ.ร.บ.การจัดการระเบียบทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ พ.ศ.2560 ทำให้สาธารณสมบัติไม่ได้เป็นของประชาชน รวมทั้งการที่พระมหากษัตรย์ไม่ประทับในประเทศ และการจัดสรรงบประมาณประจำปี
ทนายอานนท์กล่าวว่า เรื่องนี้ทุกคนจะต้องพูดในที่สาธารณะ โดยพูดด้วยความเคารพ ถ้าไม่พูดถึงเรื่องนี้ไม่มีทางแก้ปัญหาได้ การพูดเช่นนี้ ไม่ใช่การพูดเพื่อล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์ แต่เป็นการพูดเพื่อให้สถาบันอยู่อย่างถูกต้องชอบธรรม ในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข และเรียกร้องให้สภาผู้แทนราษฎรพูดเรื่องเหล่านี้แทนประชาชน
ทนายอานนท์ ยังเรียกร้องให้สถาบันพระมหากษัตริย์ไม่นิ่งเฉยกับคนที่แอบอ้างเพื่อประโยชน์ทางการเมือง รวมทั้งพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และพล.ต.เหรียญทอง แน่นหนาด้วย
กิจกรรมจบลงด้วยการที่นักศึกษาอ่านแถลงการณ์เรียกร้องให้ ยกเลิกและแก้ไขกฎหมายที่มีผลเป็นการขยายพระราชอำนาจของสถาบันพระมหากษัตริย์ แก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ให้สอดคล้องกับระบอบประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชน ต้องรับฟังเสียงของนักศึกษาและประชาชนเพื่อนำไปสู่การแก้ไขปัญหาของบ้านเมือง
หลังกิจกรรมเลิกในเวลาประมาณ 20.30 มีเหตุวุ่นวายเล็กน้อย เมื่อผู้จัดการชุมนุมจะเอารถเข้ามาขนอุปกรณ์กลับ แต่ตำรวจไม่อนุญาตให้จอดรถบริเวณหน้าร้านแมคโดนัลด์ และไม่เปิดรั้วที่กั้นถนนออก ผู้ชุมนุมต้องขนของขึ้นรถบริเวณหัวมุมถนนหน้าโรงเรียนสตรีวิทยา หนึ่งในผู้จัดชุมนุมแจ้งว่าตำรวจ สน.สำราญราษฎร์ ไม่ให้นำรถไปจอดขนของบริเวณรั้วที่กั้นไว้ ถ้าจอดจะต้องถูกใบสั่งและเสียค่าปรับในข้อหากีดขวางการจราจรก่อน
