ที่เค้าพูดกันมากว่า ‘ตู่จะไม่ต่อ’ ก็ตรง #โคโรน่าไวรัส
นี่ละชักจะเข้าเค้า วันนี้ทำหน้าตูบไม่ตอบคำถามนักข่าวที่ว่า “คนติดตาม
ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยเกษตรฯ...กักตุนหน้ากากอนามัยจำนวน ๒๐๐ ล้านชิ้น
เพื่อนำขายนายทุนประเทศจีน”
อันรัฐบาลตู่ ๒ นี้มันแสนจะทุลักทุเลมาตลอด
ขนาดนาฬิกาหรู ๒๕ เรือนของพี่เค้า เพื่อนให้ยืมแล้วตายหมด นั่นว่าเจ๋งจริงที่รอดมาได้น้ำขุ่นๆ
ทั้งๆ ทั่วโลกตำหนิกันแซด มาถึงรัฐมนตรีมีอดีต
หอบแป้งมันไปขายออสเตรเลียแล้วติดคุก ก็ว่าจะรอดน้ำลึกเชียวละ
พอมีวิกฤตไวรัส ขณะรัฐมนตรีกัญชาเป๋ไปเป๋มา
พวกมิจฉาชีพในคราบนักการเมืองเลยได้ช่องอาศัยบังหลังรัฐมนตรีเซ็งลี้เสียนี่ จะว่า พิตตินันท์ รักเอียด อดีตผู้สมัคร
ส.ส.พลังประชารัฐ เขต ๖ สุราษฎร์ รู้เท่าไม่ถึงการณ์ ก็ว่าไป
แต่จะอ้างว่าเขาได้ “ขอมาเป็นคณะทำงานของตนเองจริง”
มันไม่ทำให้รอยเปื้อนจากแป้งหมดมลทินไปได้ ถ้าเป็นแป้งตรา ‘สิงห์คู่เหยียบโลก’ ในเมื่อเขาก็ “ไปพบกับ...ที่โรงแรมแมริออท
(ประตูน้ำ) จริง เป็นการไปขอคำแนะนำของเพื่อน”
ในเมื่อนายศรสุวีร์ ภู่รวีรรัศวัชรี
คนที่ตนไปพบ “เพื่อพูดคุยเรื่องหน้ากากอนามัย”
คนนี้เขาออกคลิปโฆษณาขายหน้ากากอนามัยอย่างโจ๋งครึ่ม ว่าต้องล้อตใหญ่จำนวนล้านๆ
ชิ้น เพจ ‘แหม่มโพธิ์ดำ’ เอามาแฉแล้วตอนนี้ไทยรัฐเอาไปขยาย
ที่แนะให้ผู้ช่วยฯ นายนี้ไปแจ้งความ ‘ตีกัน’ ไว้ก่อนนั้น
ถ้าคนที่โดนแจ้งความเกิดให้การซัดทอดว่าเป็นการเจรจาซื้อขายละก็
ในสภาพบ้านเมืองที่มีระบบยุติธรรม ทั้งผู้ช่วยฯ และรัฐมนตรีต้องจบเห่ด้วยกัน
แต่งานนี้ธรรมนัสอาจหลุดอีกครั้ง
นี่เองทำให้ตู่หน้า (บึ้ง) ตึง
เพราะมันแสดงให้เห็นว่าตู่ไม่แน่จริง ไม่ (บัง) อาจแตะต้องธรรมนัสได้
แล้วมันยังชี้บ่งด้วยว่าแท้จริงแล้ว ‘น้ำยา’ ไปอยู่ที่ธรรมนัส ส่วนตู่ได้ซาวน้ำก็ดีถมไป ไม่เช่นนั้นอาจต้อง ‘หนมจีนคลุกน้ำปลา’
ความเหลวเป๋วของตู่ยังดูได้จากกรณีเหมืองทองอัครา
ที่ ‘คิงเกต’ บริษัทแม่ในออสเตรเลียฟ้องร้องว่าหัวหน้า
คสช.ใช้อำนาจรัฐประหารละเมิดข้อตกลงระหว่างประเทศยกเลิกสัญญา
คดีย่อยในออสเตรเลียนั้นศาลเห็นพ้องกับผู้ถือประทานบัตร
คดีใหญ่ระหว่างประเทศเวลานี้อยู่ที่คณะอนุญาโตตุลาการ
ถ้าเห็นด้วยกับเจ้าของเหมือง คสช.ต้องเป็นผู้ชดใช้ค่าเสียหายหลายหมื่นล้าน ส่วน
คสช.จะผลักภาระไปให้ประเทศชาติและประชาชน ก็คงไม่เกินความคาดหมาย ถ้าดูจากนิสัยของ
คสช.
ข้อเท็จจริงอยู่ที่ว่าบริษัทคิงเกตเองไม่อยากเป็นความแต่แรก
พยายามเจรจาขอผ่อนผันเพื่อจะได้ทำเหมืองต่อไป แม้ว่าจะมีค่าเสียหายบ้าง แต่
คสช.คอแข็งไม่ยอมท่าเดียว คิงเกตบอกกับศาลออสเตรเลียว่ามีบรัทไทยต้องการเข้าไปสวมรอยต่อ
จริงไม่จริงไม่รู้ละ
รู้แต่ว่าในการเจรจาคิงเกตอ้างเรื่องเหมืองปูนทับกวางว่ารูปการณ์คล้ายกัน
สัมปทานยังไม่หมด ขอให้ยกเว้นเรื่องผลกระทบสิ่งแวดล้อมไปสักสี่ซ้าห้าปี
พอไม่ให้ถึงเจ๊ง คสช.ตอนนั้นคงแน่จริงไม่ยอมถอย คดีจึงไปถึงอนุญาโตฯ
มาปีนี้ เมื่อ ๕ มีนาคม
คณะรัฐมนตรีของประยุทธ์ชุดที่เละกว่าเก่า “มีมติอนุมัติผ่อนผันให้บริษัทปูนซิเมนต์ไทย
จำกัด (มหาชน) เข้าทำประโยชน์ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าทับกวางและป่ามวกเหล็ก
จ.สระบุรี” เนื้อที่กว่า ๓,๓๐๐ ไร่
เนื่องจากถึงแม้ “หนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ภายในเขตป่าสงวนแห่งชาติสิ้นสุดลงแล้วตั้งแต่วันที่
๑๘ มิถุนายน ๒๕๕๔ แต่อายุประทานบัตรเหมืองแร่ยังคงเหลืออยู่ถึงวันที่ ๒๗ เมษายน ๒๕๗๙”
อีกแค่ ๑๖ ปีเท่านั้น “พื้นที่ลุ่มน้ำชั้น ๑ เอ” รอได้
เพียงแค่ให้เจ้าของประทานบัตร “เฝ้าระวังด้านสุขภาพอนามัยของประชาชนและคนงาน
และปฏิบัติตามมาตรการป้องกันและแก้ไขผลกระทบสิ่งแวดล้อม”
พร้อมทั้งคอยรายงานการประเมินผลต่อไปเรื่อยๆ จนกว่าจะสิ้นอายุประทานบัตร เท่านั้น
(https://www.matichon.co.th/politics/news_1392149,
https://www.thairath.co.th/news/politic/1790343, https://www.matichon.co.th/politics/news_2038383 และ https://www.sanook.com/news/8048978/)
จะเรียก ‘ลูบหน้าปะจมูก’
หรือ ‘เละตุ้มเป๊ะ’
อยู่ที่ ‘พกนกหวีด’ หรือ ‘ชูสามนิ้ว’ แต่เห็นชัดๆ ว่ารัฐบาลนี้ไม่มีน้ำยาเสียเลยก็ตอน
‘fumbles’ หกคะเมนไม่เป็นท่าเมื่อ ‘โควิด
๑๙’ มาเยือนนี่แน่นอน ดูคำสั่งให้ผู้เดินทางจากประเทศเสี่ยง
๑๑ แห่งเป็นตัวอย่าง
บอกว่าต้องกักตัว ๑๔ วัน
ประกาศวันเดียวรีบถอน คงเพราะกระเทือนซางใครเข้า พอนี่ ‘คุณหญิงสุริโยทัย’ แม่ของสาว ‘ตั้น
ณ กปปส.’ ไปทัวร์ญี่ปุ่นกลับมาตอนประกาศออกพอดี
คงไม่มีใครรู้ถ้าขุ่นแม่ไม่ได้ ‘สังคม’ จัด
โพสต์ไปโน่นมานี่
อ้าว รูป ‘ไอจี’
๒๓ กุมภาอยู่โตเกียว อีกสี่วันต่อมาโผล่เซ็นทรัลเวิร์ลด์ แบ๊งค็อค
ประชากรไซเบอร์ก็สงสัยสิ ระดับ ม.ล. นี่ได้ ‘ยกเว้น’ เรื่องกลุ่มเสี่ยงด้วยเหรอ เสร็จแล้วเธอว์ยังอุตส่าห์แก้ตัวแบบน้ำคร่ำๆ
อิชั้นไปตรวจร่างกายทันทีหลังจากกลับจากญี่ปุ่น ‘เน็กกาถีฟ’ จ้ะ
พุทโธ่ พุดถัง ไอ้อาการไวรัสชนิดนี้มีเวลาฟักตัว
๑๔-๒๗ วันค่ะ ทูนหัวทูนกระหม่อมของบ่าว และแม้นว่าจะยังไม่ออกอาการ ก็อาจแพร่หลายถ่ายทอดเชื้อไปให้กับสามีและบุตรีได้นะ
เอิ่ม ช่วยๆ ระวังตัวคนใกล้ชิดก็แล้วกัน