วันอาทิตย์, มีนาคม 08, 2563

"ไม่สนับสนุนและไม่ต้องการ" ให้ชีวิตต้องสังเวยความอยุติธรรมในสังคม "ไปที่ชอบ ที่ชอบ” เถอะนะหนกเอ๋ย

ไม่สนับสนุนและไม่ต้องการ ให้มีคนในฝ่ายประชาธิปไตย และผู้เชิดชูหลักความยุติธรรมในสังคม ทำอย่างนั้น เว้นแต่จะเป็นพวกที่อยู่ใน กระบวนมาร อย่าง ‘E-A’ และ ‘I-Knock’ ด้วยการปลิดชีพตนเอง เฉกเช่นผู้พิพากษา คณากร เพียรชนะ และลุง นวมทอง ไพรวัลย์

คารวะในการยอมสละ และความมุ่งมั่นของวีรบุรุษทั้งสอง ที่ครั้งแรกไม่สำเร็จ ยังแกร่งกล้าทำได้ในครั้งสอง แต่มันเป็นการสูญเสียที่แม้จะปลุกจิตสำนึกอันถูกต้องให้เจิดจรัสเพียงใด ก็ไม่คุ้มต่อการขาดพลังแห่งประชาธิปไตยไปอีกหนึ่ง

เรื่องราวการเสียชีวิตของผู้พิพากษาคณากรและลุงนวมทองคล้ายคลึงกัน ทั้งสองท่านมุ่งมั่นต่อหลักการแห่งความยุติธรรมในสังคม ทั้งคู่เคยพยายามฆ่าตัวตายมาแล้วหนึ่งครั้งก่อนที่จะสมดังตั้งใจในครั้งสอง

ไม่ว่าจะเป็นผู้พิพากษาหรือคนขับแท็กซี่ ล้วนมีจิตสำนึกอันสูงส่งยิ่งกว่าหลายๆ คนซึ่งอยู่ในตำแหน่งแห่งที่สูงๆ และยังเป็นการสละชีพเพื่อหลักการอันถูกต้อง ที่ล้นค่าไม่ด้อยกว่าสละเพื่อประชาชนหรือประเทศชาติ
 
ต่างจากสอง ตัว(ตน) ซึ่งจิตสำนึกต่ำช้าเสียจนกระทำการซ้ำเติมต่อคนที่ตายแล้ว ปารีณา ไกรคุปต์ โพสต์ทันทีที่มีข่าวว่าผู้พิพากษาคณากรเสียชีวิตแล้ว หล่อนคายอาจมออกมาทันทีว่า “ผีผลัก” อ้างว่า “สถาบันศาลมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์คอยปกป้อง”

ถ้า ผี เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์สำหรับปารีณา แล้ว เทวดาจะเป็นอเวจีอันทับ 'ทวี' ไหม ฉันใดก็ฉันนั้นกับ กนก รัตน์วงศ์สกุล ที่เขียนถึงการตายของ ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะชั้นต้นในศาลจังหวัดยะลาฯ ว่า “คนฆ่าตัวตาย..ยากจะไปสู่สุคติ”

เป็นการแช่งไล่หลังคนที่ตายแล้วหรือนั่น แม้จะโดนคนจำนวนมากแสดงปฏิกิริยาตอบโพสต์ของเขาว่า “กนกไม่หลงเหลือความเป็นคนแล้วจริงๆ” และ “จิตใจทำด้วยอะไร” ตอบให้ก็ได้ว่า ความเป็นคนไม่มีแต่ต้นและวงศ์สางย่อมไม่มีจิตใจ

ยิ่งไปกว่านั้นมี ผศ.ของราชภัฏสุราษฎร์คนหนึ่ง ใช้ชื่อ Prasong Lamsaad (อ่านอย่างฝาหรั่งได้ว่า ปราซอง แล่มสาด) บอก “ตายก็ดีครับ” เห็นแล้วละเหี่ยกับชาตุพันธุ์ไทยๆ สมัยนี้ อำมหิต กระหายเลือดกันเหลือเกิน “จนมีคนบอกว่า “อย่าลบเม้นต์นะครับ สันดาน...แบบนี้”

“แย่มากๆ” ดังอีกรายว่า “ในสังคม คนที่ฆ่าตัวตายด้วยหลายสาเหตุ หรือภาวะซึมเศร้า” เช่นผู้พิพากษาคณากรย่อมได้รับความกดดันทางใจล้นหลาม “ขออนุญาตถามเพื่อนๆ พี่น้องประชาชนชาวไทยง่ายๆ

ว่าสิ่งที่ผมทำลงไปจนถูกสอบวินัย และตกเป็นผู้ต้องหาคดีอาญานี้ ท่านพบความชั่วหรือความเลวอยู่ในการกระทำของผมบ้างหรือไม่” เสียดายที่ท่านไม่รอฟังการตัดสินของประชาชนที่ทะลักออกมาด้วยความรัดทด ที่สังคมอยุติธรรมคร่าชีวิตน่ายกย่องไปอีกหนึ่งราย

เหตุการณ์ในวันที่ ๔ ตุลา ๖๒ เจ้าตัวเผย “ผมไม่คิดว่าจะมีชีวิตรอด” แต่เมื่อรอดชีวิตมาแล้ว “จึงจัดการซ่อมแซมแต่งบ้านบางส่วนให้เรียบร้อยขึ้น เพื่อให้สองแม่ลูกอยู่อย่างสะดวกและปลอดภัยยิ่งขึ้น สอนลูกให้เข้มแข็ง”

ว่า “คนดีคือคนที่ทำในสิ่งที่มีประโยชน์ต่อตนเองผู้อื่นและประชาชน ภายในกรอบของศีลธรรม” แล้วท้ายที่สุดก็ “ตัดใจดับขันธ์ทั้งห้าด้วยกำลัง ชีวิตเป็นเพียงแค่การเดินทาง ร่างกายที่แท้ไม่ใช่ของเรา...เพื่อดับทุกข์จึงขอลาจากไปในเวลานี้”

ผู้พิพากษาฝากบัญชีธนาคารไว้บนหน้าโซเชียล เผื่อว่าจะมีความกรุณาอาวรณ์จากมหาชนช่วยสนับสนุนลูกและเมียบ้าง และคงไม่ได้หวังอะไรจาก ‘I-Knock’ ที่เผือกโดยกำพืด บอกให้ “คนที่ไม่เดือดร้อนเรื่องเงิน ค่ายส้ม ควรจะบริจาคช่วยลูกเขา”

นี่ไม่เพียงสะเออะอวดเหี้ยม (ขออภัยพิมพ์ผิด เกินอักษรไปหนึ่งตัว) แล้วยังอาศัยคนตาย (ผี) ไปแขวะพวกที่ตัวเองเทียบไม่ติดอีกด้วย

“ขอให้ไปที่ชอบ ที่ชอบ” เถอะนะหนกเอ๋ย

(อ่านบทความเต็มเกี่ยวกับผู้พิพากษาคณากร โดยเพจ อนาคตใหม่ - Future Forward ได้ที่ https://www.facebook.com/FWPthailand/posts/2824930610915848=-R)