วันอังคาร, พฤษภาคม 14, 2562

พ่อแม่ “สยาม” เดินสายร้องเรียนให้ช่วยตามหาลูก พรุ่งนี้ไปต่อ UN



พ่อแม่ “สยาม” เดินสายร้องเรียนให้ช่วยตามหาลูก พรุ่งนี้ไปต่อ UN






13/05/2019
ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน


วันนี้ทั้งวันครอบครัวและเพื่อนๆ ของ “สยาม” เดินสายร้องเรียน กสม. สถานทูตเวียดนาม และสหภาพยุโรป ให้ช่วยติดตามการหายตัวไปของสยาม หากมีการจับกุมส่งกลับจริงขอให้เปิดเผยที่คุมตัวและขอเยี่ยม ในระหว่างยื่นหนังสือถึงสถานทูตเวียดนามและEU มีเจ้าหน้าที่สันติบาลคอยติดตามและแทรกแซงการยื่นหนังสือ ครอบครัวแจ้งว่าพรุ่งนี้ 11 โมง จะไปร้องเรียนที่ UN ต่อ



ภาพจาก คณะกรรมการสิทธิมนุษยชน


13 พ.ค.2562 ตั้งแต่ 10.00 น.เป็นต้นมา กัญญา และเสถียร ธีรวุฒิ แม่และพ่อของ “สยาม ธีรวุฒิ” ร่วมกับเพื่อนนักกิจกรรมของสยาม พร้อมเจ้าหน้าที่จากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน เดินทางเข้ายื่นหนังสือร้องเรียนต่อคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน (กสม.) เพื่อขอให้ช่วยติดตามกรณีที่มีนักกิจกรรม 3 คน ที่มีข่าวว่าถูกจับกุมที่ประเทศเวียดนามแล้วถูกส่งตัวกลับมาที่ประเทศไทยตั้งแต่วันที่ 8 พ.ค.ที่ผ่านมา แต่ขณะนี้ยังไม่ทราบความคืบหน้าใดๆ โดยมีอังคณา นีละไพจิตร กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติเป็นผู้รับหนังสือ

ทางครอบครัวได้มีข้อเรียกร้องต่อ กสม.คือ ขอให้ กสม.ดำเนินการตรวจสอบว่าทางการไทยได้รับแจ้งและได้ขอให้ทางการเวียดนามส่งตัวสยามกลับมาดำเนินคดีที่ประเทศไทยหรือไม่ หากมีการส่งตัวกลับขณะนี้สยามถูกควบคุมตัวที่ใดและขอให้ไทยคุ้มครองสวัสดิภาพของสยามตามขั้นตอนของกระบวนการยุติธรรมโดยคำนึงถึงสิทธิมนุษยชน

ทั้งนี้อังคณาได้แจ้งกับทางครอบครัวว่าจะดำเนินการตรวจสอบว่าอยู่ในอำนาจดำเนินการของ คสช. หรือไม่ หากเข้าเงื่อนไข กสม. จะดำเนินการเรียกกระทรวงการต่างประเทศและอัยการมาให้ข้อมูลเพิ่มเติม





เสถียรได้ให้ข้อมูลว่าก่อนหน้านี้ 3 เดือน ทางครอบครัวทราบจากเพื่อนของสยามว่าลูกชายอาจถูกจับกุมตัวที่ประเทศเวียดนาม แต่ไม่ทราบรายละเอียดมากกว่านั้นและไม่สามารถติดตามหาข้อเท็จจริงได้ จนกระทั่งเรื่องของลูกชายปรากฏเป็นข่าวอีกครั้งเมื่อวันที่ 9 พ.ค.ที่ผ่านมาว่าลูกชายของตนถูกจับกุมตัวและถูกส่งตัวกลับไทย ครอบครัวจึงได้พยายามติดตาม

จากนั้นในเวลา 13.00 น. กัญญาและพวกเดินทางไปร้องเรียนถึงเอกอัครราชทูตเวียดนามประจำประเทศไทย ที่สถานทูตเวียดนาม ถ.วิทยุ เพื่อขอทราบข้อมูลเกี่ยวกับกรณีดังกล่าว โดยทางสถานทูตได้ให้เจ้าหน้าที่ของสถานทูตออกมารับหนังสือร้องเรียน ที่ห้องของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยด้านหน้าทางเข้า



กัญญา และนักกิจกรรมที่มาร่วมยื่นหนังสือถึงสถนทูตเวียดนาม


ข้อเรียกร้องของกัญญาระบุว่าสยามถูกจับกุมและควบคุมตัวด้วยข้อหาเข้าเมืองผิดกฎหมายและปลอมแปลงเอกสารการเดินทางตามที่ปรากฏเป็นข่าวจริงหรือไม่ อย่างไร และวันที่เท่าใด หากมีการจับกุมจริงสยามยังอยู่ในการควบคุมตัวของทางการเวียดนามหรือไม่ และข้อเรียกร้องสุดท้ายคือหากไม่อยู่ในการควบคุมตัวของทางการเวียดนามแล้วขณะนี้ได้ส่งตัวสยามกลับมาที่ประเทศไทยแล้วหรือไม่และเมื่อใด และขอทราบถึงวิธีการส่งตัวบุคคลของประเทศเวียดนามให้รัฐอื่น โดยเฉพาะการส่งตัวกลับตามกฎหมายเข้าเมืองด้วย

ทางเจ้าหน้าที่สถานทูตเวียดนามแจ้งว่าหากดำเนินการแล้วมีความคืบหน้าจะทำการแจ้งกลับไปตามที่อยู่ติดต่อ



ขณะมณทนา ดวงประภา ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน กำลังชี้แจงกับตำรวจโดยมีเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบคอยสังเกตการณ์ ภาพจาก ประชาไท


ทั้งนี้ศูนย์ทนายความฯ มีข้อสังเกตต่อการเข้ามาแทรกแซงการยื่นหนังสือ โดยบุคคลซึ่งอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่จากสันติบาลได้เข้าไปพูดคุยกับเจ้าหน้าที่สถานทูตเวียดนามก่อนที่จะเชิญครอบครัวและทนายความที่มารอยื่นหนังสือเข้าพบ และติดตามถ่ายภาพอยู่ตลอดแต่ไม่อนุญาตให้ครอบครัวและคนอื่นๆ ที่มาร่วมยื่นหนังสือถ่ายภาพในขณะที่ยื่น อีกทั้งระหว่างการพูดคุย เจ้าหน้าที่สันติบาลคนดังกล่าว เป็นคนแจ้งกับทางครอบครัวว่าทางสถานทูตไม่มีการลงเลขรับหนังสือแต่หากมีความคืบหน้าทางสถานทูตจะเป็นฝ่ายติดต่อกลับไปเอง

ต่อมาทั้งหมดได้เดินทางไปสำนักงานคณะผู้แทนสหภาพยุโรปประจำประเทศไทย (EU) ทั้งนี้ในขณะที่ครอบครัวและเจ้าหน้าที่จากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนกำลังเข้าไปในตึกเพื่อยื่นเอกสารข้อเท็จจริงและอธิบายสถานการณ์การหายตัวไปของนักกิจกรรมที่ลี้ภัยการเมืองอยู่ต่างประเทศ ได้มีเจ้าหน้าที่สันติบาลพยายามจะติดตามเข้าไปด้วย ทางเจ้าหน้าที่ของ EU จึงให้เพียงแค่ยื่นเอกสารข้อเท็จจริง โดยระหว่างการยื่นสันติบาลยังคอยถ่ายภาพเอาไว้โดยตลอด

ทางครอบครัวของสยามแจ้งว่าวันพรุ่งนี้(14 พ.ค.2562) จะไปร้องเรียนและให้ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับกรณีของสยามถึงสำนักงานคณะกรรมาธิการสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (OHCHR) ที่ตึกองค์การสหประชาชาติด้วยในเวลา 11.00 น.

ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 9 พ.ค.ที่ผ่านมา กัญญาได้เดินทางไปยื่นหนังสือขอให้ทางกองบังคับการปราบปรามช่วยติดตามกรณีนี้ด้วย เนื่องจากกองบังคับการ 1 กองปราบฯ ออกหมายจับสยาม ชูชีพ ชีวะสุทธ์ หรือลุงสนามหลวง และกฤษณะ ทัพไทย ในคดีสหพันธรัฐไทในข้อหายุยงปลุกปั่นตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 116 และอั้งยี่ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 209

The Momentum ได้เผยแพร่ประวัติของสยาม ธีรวุฒิว่าเขาเคยเป็นอดีตนักศึกษามหาวิทยาลัยรามคำแหง คณะรัฐศาสตร์ เคยเข้าร่วมกับกลุ่มประกายไฟและยังร่วมทำเวิร์คช็อปการทำละครให้กับสหภาพแรงงานต่างๆ กับกลุ่ม ในช่วงที่เขายังเป็นนักศึกษาเขาได้ร่วมทำกิจกรรมต่อต้านมหาวิทยาลัยนอกระบบ ต่อต้านสงครามอิรัก นอกจากนั้นเขายังเคยทำกลุ่มศึกษาให้คนงานและเวทีแลกเปลี่ยนกรรมกรนักศึกษา

ที่ผ่านมา ครอบครัวของสยามยังเคยถูกเจ้าหน้าที่สันติบาลติดตามถามหาตัวสยามมาโดยตลอดตั้งแต่สยามลี้ภัยออกนอกประเทศไปจากเหตุที่ถูกออกหมายจับด้วยข้อหาหมิ่นประมาทกษัตริย์ ตามประมวลกฎหมายอายามาตรา 112 จากคดีละครเวที “เจ้าสาวหมาป่า” มาก่อนแล้ว
...