วันพฤหัสบดี, พฤษภาคม 30, 2562

ประยุทธ์เปิดหนังสือ แฉกำพืด 'สัตว์การเมือง' ของตัวเอง


แม่จ้าวโวยหัวหน้ารัฐประหารชวนประชาชนอ่าน แอนิมอลฟาร์มหนังสือคล้าสสิกแฉกำพืดของสัตว์การเมือง เขียนโดย จ๊อร์จ ออร์เวลล์ ที่มีการแปลเป็นไทยไว้แล้ว แต่มีผู้ที่รู้เนื้อหาเยอะแยะพากันชี้ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ด่าตัวเองเสียนี่

@VoiceOnlineTH นำวรรคทองของเนื้อเรื่องในหนังสือมาเผย ที่ว่า “สัตว์ทุกตัวเสมอภาคกัน แต่สัตว์บางตัวเสมอภาคยิ่งกว่าสัตว์อื่นๆ” ขณะที่ รศ.พิชาย รัตนดิลก ณ ภูเก็ต คณบดีนิด้า ประธาน ครป. (คณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย) ให้ความเห็นบ้าง

“นายกรัฐมนตรีแนะนำให้อ่านหนังสือเรื่องนี้ ตีความได้อย่างน้อย ๒ อย่าง คือต้องการสื่อสารถึงสภาพการเมืองไทยที่ต่อรองแย่งอำนาจและตำแหน่ง หรือต้องการชี้ให้เห็นถึงความเลวร้ายของผู้นำและระบอบเผด็จการ จึงไม่แน่ใจว่านายกฯ เข้าใจในสิ่งที่แนะนำหรือเปล่า” (@weeranan)

หนักกว่านั้นมีคนตั้งข้อสังเกตุสุดแสบ ว่านักรัฐประหารที่ผันตัวจะไปเป็นผู้นำโดยผ่านการชุบตัวจากพรรคการเมืองที่มีรัฐมนตรีลิ่วล้อไปตั้งไว้รองรับฐานอำนาจ คนนี้เคยแนะนำให้อ่านวรรณคดีไทย จินดามณีแต่ “เสือกท่องนิราศสุนทรภู่” ให้ฟังเป็นตัวอย่าง (@redbamboo16)

ทั้งนี้ทั้งนั้นแสดงถึงว่า มีคนจำนวนมากรู้ทันและไม่ต้องการนิ่งเฉยกับการสร้างภาพ ประชาธิปไตยจอมปลอมตบตาชาวบ้านอย่างงั่งๆ ของประยุทธ์กันอีกแล้ว ครั้นปรากฏเสียงครหาหนักเข้าก็ให้ลูกน้องออกมาแก้ตัวน้ำขุ่นๆ

“นายกฯ ไม่อยากให้เชื่อมโยงทุกอย่างเป็นเรื่องการเมือง และอย่าตีความว่าการแนะนำให้อ่านหนังสือเป็นการดูถูกผู้อื่น” ซึ่งก็สายไปเสียแล้ว เพราะมีโฆษกพรรคการเมืองในกลุ่มร่วมสัตยาบันไม่รับการสืบทอดอำนาจของ คสช. วิจารณ์หนักหน่วง

“ทำให้สังคมไทยได้พบความจริงว่า คนที่อยากสืบอำนาจรัฐประหารมีอาการของโรคหลงตัวเองและดูถูกคนอื่นอย่างมาก” น.ส.เกศปรียา แก้วแสนเมือง กล่าวถึงบทบาทของประยุทธ์ว่า “ทำอะไรแบบไร้จิตสำนึก ไม่เคยกลัวใคร และไม่สามารถแยกแยะความดีความชั่วได้”
 
เธอชวนเพื่อนนักการเมืองทุกพรรค “ขอให้ลงมติเลือกนายกรัฐมนตรีตามจิตสำนึกที่ถูกต้องชอบธรรม ตามความต้องการของประชาชนส่วนใหญ่...ถ้ารักความชอบธรรมและเห็นแก่ประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชน”

โดยชี้ว่ามีประชาชน “ที่ไม่ต้องการผู้สืบทอดรัฐประหารประมาณร้อยละ ๗๐ ของประเทศ”


อาการ หลงตัวและวางอำนาจของประยุทธ์นี่เองทำให้สองพรรคการเมืองที่อยากถูกดูดหลังเลือกตั้ง ทำท่าจะถอยออกจาก ดีล กันเสียแล้ว เนื่องจากปรากฏเบาะแสว่าการเข้าร่วมจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคพลังประชารัฐ ที่เสนอประยุทธ์เป็นนายกรัฐมนตรี เท่ากับสยบเข้าไปเป็น ลูกไล่ คสช.ดีๆ นี่เอง

พรรคประชาธิปัตย์ประกาศเลื่อนการประชุมร่วมคณะกรรมการบริหารและ ส.ส.พรรคออกไปโดยไม่มีกำหนด เนื่องเพราะประยุทธ์ประกาศเตือนพรรคที่จะเข้าร่วมรัฐบาล “อย่าเอาเรื่องการแก้ รธน.มาเป็นข้อต่อรองในการร่วมรัฐบาล”
 
นอกจากนั้นประยุทธ์ยัง “ย้ำขอเป็นคนตรวจรายชื่อ ครม. ที่จะร่วมรัฐบาลในอนาคตด้วยตนเอง” ท่าทีวางอำนาจเช่นนี้ทำให้คนประชาธิปัตย์ส่วนหนึ่ง “คิดว่าเป็นก้าวก่าย ครอบงำ ชี้นำพรรคร่วมรัฐบาล” จนทำให้ไม่สามารถร่วมงานกันได้


ข่าวว่าพรรคภูมิใจไทยและชาติไทยพัฒนาก็เริ่มมีท่าที รับไม่ได้กับความร่วมมือแบบวางอำนาจของประยุทธ์เช่นกัน หากพรรคเหล่านี้ลงเอยไม่ยอมเข้าไปเป็นเบี้ยรองบ่อนให้เผด็จการ คสช. ก็จะทำให้ประยุทธ์ต้องตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย จากการโหวตเลือกนายกฯ ของ สว.

นั่นจะเป็นนิมิตหมายที่ดีสำหรับกลุ่มสัตยาบัน ๗ พรรคการเมือง ทำหน้าที่ฝ่ายค้านที่เข้มแข็งกว่ารัฐบาลได้อย่างเต็มพิกัดและเปี่ยมประสิทธิภาพ