
ขังลืม “สิรภพ กรณ์อรุษ”
ขังลืม “สิรภพ กรณ์อรุษ” สู้คดี 112 ถูกขังยาวที่สุดอันดับหนึ่งของประเทศไทย
BY KANOKWAN KANKAW
May 25, 2019
Prakaifai.com
ศาลทหารโดยปกติแล้ว มีอำนาจพิพากษาเฉพาะทหารประจำการ แต่หลังรัฐประหาร 22 พฤษภาคม 2557 เป็นต้นมาศาลทหารถูกนำมาใช้พิจารณาคดีพลเรือนได้แก่คดีขัดคำสั่ง คสช.และคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ซึ่งหมายถึงศาลทหารถูกนำมาเป็นเครื่องมือปราบปรามประชาชนที่เรียกร้องประชาธิปไตย โดยที่คดีในศาลทหารมีกระบวนการพิจารณาเนิ่นนานและเลื่อนสืบพยานบ่อยครั้ง ผู้ถูกกล่าวหาไม่เคยได้รับอนุญาตให้ประกันตัว แม้ว่าจะมีการยื่นประกันหลายครั้งด้วยกัน
ปัจจุบันมีคดีที่พลเรือนถูกศาลทหารดำเนินคดีมีถึง 30 คดีด้วยกัน หนึ่งในนั้น ไม่ได้รับสิทธิในการประกันตัวและถูกคุมขังยาวนานที่สุดคือ นายสิรภพ กรณ์อรุษ หรือ “รุ่งศิลา” นักเขียนและกวีการเมือง ซึ่งเคยแสดงความคิดเห็นอยู่ในเวปบอร์ดชื่อดังหลายแห่งด้วยกัน เขาถูกกล่าวหาตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14 (3) จากการเขียนบทกวีและเผยแพร่ข้อความในเว็บไซต์จำนวน 3 ข้อความ นับตั้งแต่การฝากขังครั้งแรก ปี 2557 จนถึงวันที่ 25 พฤษภาคม 2562 สิรภพถูกคุมขังมาแล้วเป็นเวลา 4 ปี 9 เดือน โดยยื่นประกันตัวกว่า 7 ครั้ง แต่ศาลทหารไม่อนุญาต โดยปกติเกือบทุกคดีที่ยืดเยื้อผู้ถูกกล่าวหามักจะเลือกที่จะให้การรับสารภาพ เพราะไม่อาจทนอยู่กับการถูกคุมขังยาวนาน แต่สำหรับเขายังยืนหยัดที่จะต่อสู้คดีต่อไป แม้ว่า ตั้งแต่คดีถูกสั่งฟ้องเข้าสู่ชั้นศาล มีการสืบพยานโจทก์ไปได้เพียง 3 ปากในเวลาสี่ปีครึ่ง โดยพยานโจทก์ซึ่งเป็นพลเรือน 2 ใน 3 ปากนั้น ไม่มาศาลด้วยเหตุผลส่วนตัวต่างๆ รวมไปถึงเหตุที่อัยการไม่สามารถติดตามพยานมาได้ จนทำให้เกิดการเลื่อนสืบพยานถึง 7 ครั้งด้วยกัน ถือได้ว่าเป็นพลเรือนภายใต้การพิจารณาคดีของศาลทหารที่ถูกคุมอยู่ยาวนานที่สุดเป็นอันดับหนึ่งของประเทศไทย
สิรภพ กรณ์อรุษ ถูกขังอยู่ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพ แดน 6 ซึ่งถูกจำกัดให้มีผู้ไปเยี่ยมได้เพียงแค่ 10 คนเท่านั้น หลังจากถูกคุมขังยาวนาน ธุรกิจก่อสร้างของครอบครัวก็ปิดตัวลง ภรรยาแยกตัวไปมีสามีใหม่ มีลูกสามคน สองคนแรกต้องหยุดเรียนแยกย้ายทำงานเพื่อส่งให้อีกคนได้เรียนหนังสือปีสุดท้ายอยู่ที่มหาวิทยาลัยเอกชนแห่งหนึ่งๆ
การไม่ได้รับสิทธิประกันตัว โดยศาลทหารยังคุมขังตัวเขาอยู่ในเรือนจำเป็นเวลายาวนาน ไม่เพียงแต่ จะไม่สามารถต่อสู้คดีได้โดยสะดวก และไม่ได้รับความเป็นธรรมด้วยแล้ว ยังเป็นการทรมานรูปแบบหนึ่ง เกือบทุกคนที่ถูกกล่าวหาในคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ จึงต้องรับสารภาพ ทั้งๆที่พวกเขาเหล่านี้คือผู้บริสุทธื์ เป็นการละมิดสิทธิมนุษยชนอย่างรุนแรง ซึ่งไม่มีองค์กรสิทธิมนุษยชนในประเทศไทยได้ให้ความใส่ใจต่อกรณีนี้เท่าที่ควรทำให้ สิรภพ กรณ์อรุษ ถูกขังลืมไปในที่สุด