วันอังคาร, พฤษภาคม 28, 2562

นักการเมืองเขี้ยว (ลากดิน) ยิ่งกว่า 'พลังประชารัฐ' คือ...?


ที่ว่านักการเมืองหลังเลือกตั้ง มีนา ๖๒ ชุบตัว คสช.ที่เขี้ยว (ลากดิน) กว่าพลังประชารัฐ คือประชาธิปัตย์ ท่าจะจริง ขนาดแห่ เทียบ กันไปเชิญร่วมรัฐบาล ตูบ ๒แล้วก็ยังไม่ได้ตัว ตั้งแง่แม่งอนเสียจน สามมิตร กุมหัว

ต้องฟังที่ราเมศ รัตนะเชวง โฆษก ปชป.แถลงวันนี้ (๒๘ พ.ค.) เรื่องที่มีการคุยระหว่างทีมประชารัฐกับ เฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการ ปชป. นั้น “ไม่มีการพูดเรื่องร่วมหรือไม่ร่วมรัฐบาล” สืบทอดอำนาจเผด็จการ มีแต่ฝ่าย ปชป.บอกกับ พปชร. ว่าต้องการอะไรบ้าง

หนึ่ง นโยบายของ ปชป. ๓-๔ ข้อ มีอะไรบ้างบอกย้ำซ้ำซ้อน สอง ต้องแก้รัฐธรรมนูญแบบ ปชป. ที่ไม่แจ้งรายละเอียดเจาะจง เอาแต่นามธรรม เพื่อประชาชนสาม การแก้ รธน.แบบที่พรรคอื่นๆ เสนอกันมาก่อนแล้ว ไม่ได้เรื่อง

แถมแสดง กึ๋น สัญญลักษณ์ ปชป. เอาดีใส่ตัว ป้ายชั่วผู้อื่นจวก ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ และพรรคอนาคตใหม่ไม่เดียงสา บอกให้ไปอ่านรัฐธรรมนูญเสียใหม่ จะได้เขี้ยวอย่าง ปชป. อันนี้คงพยายามแก้หน้าจากการที่ธนาธรไปสัมมนาที่ มธ.เกี้ยวพาราศีเสียจน ส.ส. ปชป.นั่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่

มาดูกันว่าเกิดอะไรขึ้นในช่วง ๒๔ ชั่วโมงที่ผ่านมา ข่าวสดออนไลน์ปูดว่า “กลุ่มสามมิตร พปชร. ไม่พอใจ ออกวงก่อนได้ข้อยุติ” ปัญหาอยู่ที่ ปชป.ยังดึงดันจะเอาตามที่เคยเรียกร้องไว้ มหาดไทย ศึกษาฯ คมนาคม เป็นแค่รัฐมนตรีช่วย ไม่สมศักดิ์ศรี


สามกระทรวงที่ได้ พาณิชย์ เกษตรฯ และพัฒนาสังคม ไม่ถนัด โดยเฉพาะกระทรวงที่สาม ก้าวไม่ทันคนรุ่นใหม่เขาหรอก (พัฒนาตัวเองยังหืดขึ้นคอ แล้วจะดันให้ไปพัฒนาสังคมละหรือ) อันนี้อาจจะพูดดราม่าวาทกรรมไปนิด แต่เชื่อว่าหลายคนอ่านแล้วต้องว่า ใช่เลย
 
เหตุที่อ้างอีกอย่างไม่ทางการ “ประกอบกับบางคนในพรรคอึดอึดกับการที่จะเข้าร่วมรัฐบาลกับ พปชร. เพราะขัดกับจุดยืนของพรรคที่ไม่หนุน พล.อ.ประยุทธ์” อันนี้พอมีหลักฐาน นอกจากที่ วัชระ เพชรทอง ไปถือป้าย “ไม่เอาประยุทธ์เป็นนายกฯ” แล้ว ก็มีจดหมายเปิดผนึกอีกฉบับจาก นิวเด็มพริษฐ์ วัชรสินธุ
 
“ขออนุญาตย้ำจุดยืนเดิมอีกครั้งในฐานะสมาชิกพรรคตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ก่อนที่คำพูดของผมจะไม่มีประโยชน์แล้ว...” เขายกเอาข้อเสนอเดิมเมื่อสองเดือนที่แล้วเรื่องให้ ปชป.เป็นฝ่ายค้านอิสระ อย่าไปเป็นขนหน้าแข้ง คสช.เลย

หนึ่งใน ๕ ข้อที่เขาเอามาย้ำหัวตะปู โยงถึงเหตุการณ์วุ่นวายวันประชุมสภาครั้งแรก “แสดงให้เห็นว่าพรรคพลังประชารัฐ ไม่ได้มีความต้องการที่จะให้สภาเป็นพื้นที่แลกเปลี่ยนความเห็นและเป็นกระบอกเสียงของประชาชนอย่างแท้จริง

นี่ไม่ใช่หรือคือ เผด็จการรัฐสภา ที่พรรคประชาธิปัตย์เคยต่อสู้มาโดยตลอด” ย้อนได้แสบกว่าพวกเสื้อแดงเสียอีก เขาบอกไว้ก่อนหน้าด้วยว่า อย่าอ้าง ทำเพื่อชาติแล้วต้องสนับสนุนให้หัวหน้ารัฐประหารกลับมาเป็นนายกฯ อีก


ขนาดดุสิตโพลล่าสุดนี่มีเพียง ๑๓ เปอร์เซ็นต์ที่อยากให้ไอทู้บกลับมาใหม่ แต่ที่ชนะขาด ๒๓ เปอร์เซ็นต์กลับเห็นว่า ไปๆ เสียแหละดี เลยมาลองคิดดูดีๆ เหตุที่เจรจา พปชร.-ปชป.ยังไม่ลงตัวเสียที ไม่ใช่เพราะความเลอเลิศของ ปชป.อย่างที่โฆษกฯ วางท่า

ลึกๆ น่าจะมีอะไรซ่อนเร้นอยู่มากกว่าที่เห็นก็ได้ ขนาดครั้งก่อนก็เสียงข้างน้อย ทำหงอโดนเรียกเข้าค่าย (ราบ ๑๑) ไปก็ไป กลับออกมาได้เป็นนายกฯ ไม่แน่จริงไม่ได้สมยา แมลงสาบ สิน่า ครั้งนี้ก็คงไม่หนีแนวนั้น ที่ผ่านมาทำเฉยปล่อยให้ คสช.และลิ่วล้อเที่ยวกัดคนนั้นคนนี้ พอได้ทีตวงแหลก

และที่ราเมศออกมาอัดธนาธรคงไม่มากไม่น้อยไปกว่าคอยซ้ำเติมด้วยหมายช่วงชิงจากเขา อย่างน้อยก็คอยเก็บเกี่ยวเศษเหลือและส่วนเกิน จากการที่มีข่าวว่า กกต.กำลังจะรุกต่อ เล่นงานธนาธรไม่ให้ได้ผุดได้เกิด ด้วยข้อหา มาตรา ๑๕๑ โทษคุก ๑-๑๐ ปี ไม่พอ มีการเพิกถอนสิทธิทางการเมืองอีก ๒๐ ปีด้วย
 
ต่อกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุติการปฏิบัติหน้าที่ ส.ส.ของธนาธรไว้ชั่วคราว จนกว่าศาลจะมีคำวินิจฉัยออกมาเป็นอย่างไร นายแสวง บุญมี รองเลขาธิการ กกต. ด้านพรรคการเมืองบอกว่ากำลังพิจารณาดำเนินคดีอาญากับธนาธร


เล่ห์กลของการชุบมือเปิบมองเห็นได้ไม่ยาก นอกจากมีความพยายามกำจัดธนาธรให้สิ้นซากเฉกเช่นที่เคยกำจัดทักษิณแล้ว ยังหวังให้พรรคอนาคตใหม่ (ที่มาเขี่ย ปชป.ออกจากสนาม กทม.เสียเหี้ยนเตียน) ต้องแตกระแหง

จากการที่มี ส.ส.อนาคตใหม่คนหนึ่ง เผยว่ามีความพยายามทุ่มเงินจ้างให้เขาแตกแถวจากพรรคไปเป็นงูเห่า เมื่อคราวเลือกประธานสภากัน ตัวเขาได้รับข้อเสนอจ่าย ๒๐ ล้านบาทให้โหวตสวนมติพรรค

“มีการแบ่งออกเป็น ๖--๗ ก้อนแรกสำหรับการโหวตเลือกประธานสภาฯ ส่วนที่สองโหวตเลือกนายกฯ และส่วนสุดท้ายถือเป็นโบนัสเหมือนให้เปล่า” สมัคร ป้องวงษ์ ส.ส.สมุทรสาคร เล่าว่าได้รับการติดต่อ คืนหมาหอน วันสุดท้ายก่อนถึงการประชุม

“พอไปถามพรรคพวกบางคน ของผมกลายเป็นน้อยกว่าเขา ยังแอบน้อยใจเล็กๆ เพราะบางคนมีการเสนอตัวเลขเริ่มต้นให้ถึง ๕๐ ล้านบาท ถ้ากล้าตัดสินใจเป็นงูเห่า”


แน่ละ ต้องมี ปชป.ส่วนหนึ่งไม่ต้องการและไม่เห็นด้วยกับชั้นเชิงการเมือง ฉวยโอกาศและใช้เล่ห์เหลี่ยมเพื่อเอาชนะด้วยวิชามาร แต่ถ้าผลที่ได้ออกมารูปใดแล้วคล้อยตามกันไปทั้งพรรค ทุกคนก็ต้องถูกตราหน้าเหมือนกันหมด