แม้แต่ยังไม่รู้แน่ประชุมสองสภาจะมีอะไรตื่นเต้นไหม
ไม่เพียงแต่กำหนดโหวตนายกฯ จะเป็นวันไหน อารมณ์ของหลายๆ คนตอนนี้ผสมผเสปนเปไร้ทิศทางไปบ้างแล้ว
ทั้งขึ้ง ทั้งระทวย ชนิดไม่ระวังให้ดีจะมี ‘ไบโพลาร์’
แต่มีอยู่อย่างที่ทำให้ยังถ่างตากันอยู่ต่อไม่ย่นย่อ
ก็เมื่อมองไปข้างหน้าที่ ‘อนาคตใหม่’
ของประชาธิปไตยไทยหลังเลือกตั้ง ดังเช่น Nithinand Yorsaengrat เปรยไว้ “เห็นด้วยกับเทวฤทธิ์ มณีฉาย ว่า เวลาไม่ได้อยู่ข้างเราฝ่ายเดียว
แต่อยู่ข้างเขาด้วย”
ข้างเขาเห็นว่าจัดตำแหน่งรัฐมนตรีกันลงตัวแล้ว
ภูมิใจไทยได้ ๖ หรือ ๗ ตำแหน่ง อนุทิน ชาญวีรกูล เป็นรองนายกฯ ควบ รมว.สาธารณสุข
จะได้เข็นกัญชา โดยที่ ‘เนรวิน’ ประกาศล่วงหน้า สโมสรบุรีรัมย์จะใช้ยาพี้ขุนลูกทีมแน่นอน
ขณะ ‘ศักดิ์สยาม
ชิดชอบ’ น้องชายจะได้ไปนั่งกิน อุ๊บขออภัย
กุมกระทรวงคมนาคมแทนอนุทินที่เป็นเจ้าของโควต้า แต่ต้องยอมปล่อยวางเพราะตนเองมีกิจการบริษัทขนส่งที่เข้าข่าย
‘มีผลประโยชน์ทับซ้อน’ นอกนั้นกระทรวงหัวกระทิต้องไปอยู่กับพลังประชารัฐ
ทางด้านประชาธิปัตย์ชวด ‘ว่าการ’ ทั้งมหาดไทยและศึกษา เขาเจียดให้แค่ รมช. ที่ได้ส่วนหัวแค่พาณิชย์และเกษตรฯ
เหตุว่า “หลังจากนายชวน หลีกภัย ได้ตำแหน่งประธานสภาฯ พรรคพลังประชารัฐจึงได้ขอ รมว.พลังงานและ
รมว.ศึกษาธิการคืน”
‘ข้างเขา’ เอาคร่าวๆ
แค่นั้นนะ อยากรู้ละเอียดไปต่อที่ https://www.thairath.co.th/news/politic/1576393NYROwyNkZ8 และ https://www.posttoday.com/politic/news/590257QO8t6BeYE
ข้างเรา (ประชาธิปไตย) ต้องดีใจที่เลือกตั้งซ่อมเชียงใหม่เขต
๘ ชนะขาดลอย ตัวเลขล่าสุด ผู้สมัครพรรคอนาคตใหม่กวาดไปกว่า ๗ หมื่น ๓ พันคะแนน ที่มีคนเอาไปหยามมงคลกิตติ์
ศรีวิไลย์ ส.ส.ทศนิยมทั้งพรรคทั้งประเทศคนเดียวแค่ ๖ หมื่นคะแนน
ทำให้ต้องหันไปฟังอดีต กกต. ตัวแสบ
สมชัย ศรีสุทธิยากร เรื่อง “เกมวัดใจ
ไพ่ใบที่ถือในมือตัวเองไม่สำคัญเท่าไพ่ใบที่ถือในมือฝ่ายตรงข้าม” เขาอธิบายว่า “คะแนนทั้งก้อนที่
พปชร.ทุ่มให้นายชวน จึงเป็นการทิ้งไพ่บนความลังเลไม่แน่ใจถึงผลลัพธ์ที่ตามมา
เพราะ ปชป.บอกว่า ทุกอย่างต้องเดินทีละขั้น
วันนี้แค่เลือกประธานรัฐสภา เรื่องร่วมรัฐบาลยังเป็นอนาคต”
จึงทำให้เสียงรำพึงของ นิธินันท์
ยอแสงรัตน์ ก้องมาต่ออีกครั้ง “ทั้งเขาเราต่างมีชีวิตโลดแล่นอยู่ในกาลและสถานที่เดียวกัน
เราจึงไม่ควรฝันเพ้อหรือคอยแต่ปลอบใจกันไปเรื่อยๆ” นักวิชาการอดีตผู้ปฏิบัติการสื่อสารมวลชนบ่นต่อ
“การต่อสู้ทางความคิดและเพื่อสิ่งที่เราเชื่อ
ไม่เคยสิ้นสุด...ในความมืดมิดมีดวงจันทร์และดวงดาว ทุกเช้ามีดวงอาทิตย์
และถ้าใจของเรายังคงมีความหวัง ย่อมมีแสงสว่างกลางใจ”
(https://www.facebook.com/NithinandY/posts/10161722350790117
และ https://siamrath.co.th/n/81346ciaqPFLjouAo)
สว่างแค่ไหน
ใช้หลอดแอลอีดีหรือหลอดนีออนไม่รู้ละ แต่ขณะนี้ต้องให้คำนิยมแก่คนที่ไม่ท้อ
ไม่ระย่อเหมือนเนื้อเพลงของคณะ Chumbawamba
ที่ว่า “I get knocked down, but I get up again. You are
never gonna keep me down.”
วานนี้ (๒๖ พ.ค.) ธนาธร
จึงรุ่งเรืองกิจ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ไปร่วมเสวนาเกี่ยวกับรัฐสวัสดิการที่
ม.ธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ ในคลิปข่าวเขายังยันว่า “การหยุดยั้งอำนาจของเผด็จการเนี่ย
ประตูยังเปิดอยู่”
เนื้อถ้อยที่เขาพูดอภิปรายทำให้ตัวแทนพรรคประชาธิปัตย์ที่นั่งข้างๆ
ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ เพราะมีเสียงแทรกถามว่า “อันนี้จีบป่าว” แล้วเขาตอบต่อ “เอ่อ
เอ่อ เรารอคุณมาเลือกอยู่” เรื่องของเรื่องเขาท้าวถึงคนที่บอกเป็นประชาธิปไตยแต่อยู่ฝ่ายนี้ไม่ได้
“ถ้าจะอ้างเรื่องนี้เพื่อการร่วมมือ
ผมคิดว่าอนาคตของประเทศมันสำคัญกว่า อนาคตของลูกหลานเรามันสำคัญกว่าใช่ไหม”
ธนาธรเอ่ยชื่อเลยว่าพรรคเพื่อไทย “ก้นบึ้งของจิตใจเขา เค้าอยากร่วมกับคุณหรือปะ
ไม่ได้อยาก...
เขาไม่ได้อยากนะ (แต่)
ถามว่าภารกิจตรงหน้าเนี่ย อะไรมันสำคัญกว่ากัน...ดังนั้นผมไม่อยากให้เราหมดหวัง
ในเรื่องการสร้างรัฐสวัสดิการ การสร้างประชาธิปไตย
และผมขอยืนยันว่าวันนี้...ไฟได้ถูกจุดขึ้นมาแล้ว อย่ายอมให้มันดับไป
อย่าลืมนะครับ
มันดับได้นะครับ ถ้าเราไม่ยืนยัน ถ้าเราไม่ต่อสู้...นี่คือวิธีเดียวที่จะได้มันมา
รณรงค์อย่างแข็งขัน อย่างต่อเนื่อง” (ขอแค่นี้แหละ ธนาธรไม่ได้พูด เราพูดเอง)