UPDATE: อนุทินแจงเหตุร่วมพลังประชารัฐ เพราะเป็นขั้วที่มีเสถียรภาพมากที่สุด ย้ำเข้ามาทำงาน ไม่ได้แสวงหาอำนาจ
.
วันนี้ (27 พ.ค.) อนุทิน ชาญวีรกูล ได้ให้สัมภาษณ์กับ สุทธิชัย หยุ่น ผ่านเฟซบุ๊กไลฟ์ในเพจ Suthichai Yoon ถึงท่าทีทางการเมือง หลังตอบรับเข้าร่วมกับพรรคพลังประชารัฐในการจัดตั้งรัฐบาล โดยให้เหตุผลว่า ทางพรรคเลือกขั้วที่สามารถรับเงื่อนไขทางนโยบายทั้ง 4 ข้อ อันได้แก่ 1. ความจงรักภักดีต่อสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ 2. การไม่สร้างความขัดแย้ง 3. การผลักดันนโยบายจากพรรคภูมิใจไทยไปบริหารใช้ในรัฐบาล เพื่อประโยชน์ประชาชน และ 4. รัฐบาลที่มีเสถียรภาพ
.
“เรามีนโยบายที่ให้ไว้กับผู้ที่เลือกเราเข้ามา เราต้องการเข้ามาทำงาน ไม่ได้ต้องการเล่นเกมการเมืองใดๆ เราจึงร่วมกับขั้วที่มีเสถียรภาพ สามารถผลักดันนโยบายต่างๆ กับคนที่มอบความไว้วางใจให้เรา”
.
โดยหัวหน้าพรรคภูมิใจไทยยังได้ชี้แจงถึงประเด็นเรื่องของการตกปากรับคำกับเก้าอี้รัฐมนตรีกระทรวงต่างๆ ว่า ยังไม่มีการตกลงอย่างเป็นทางการ เพราะหากพูดคุยกันก็ต้องเชิญพรรคแกนนำ (พลังประชารัฐ) เข้าพูดคุยกับทุกพรรคที่อยู่ในขั้ว แล้วจึงจะแถลงร่วมกัน เพื่อให้ประชาชนได้รับทราบต่อไป
.
ทั้งนี้ อนุทิน ชาญวีรกูล ได้ให้เหตุผลที่ยอมปฏิเสธตำแหน่งนายกฯ หากร่วมกับฝั่งเพื่อไทยและอนาคตใหม่ แต่เลือกฝั่งพลังประชารัฐที่อย่างมากจะได้รับแค่ตำแหน่งรัฐมนตรีหรือรองนายกฯ เท่านั้น
.
“เพราะผมรักประเทศไทยและประชาชนมากกว่าตัวผมเอง แล้วทำไมถึงไม่รับ ในชีวิตนี้ไม่รู้จะมีอีกกี่ครั้งที่ได้สัมผัสอะไรแบบนี้ แต่ว่าผมมาที่ 5 (คะแนนจากการเลือกตั้ง) ผมต้องรู้สถานะตัวเอง และเราเลือกที่จะมาทำงาน เลือกที่จะมาทำในสิ่งที่ให้สัญญากับประชาชนให้เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม ผมจึงคิดว่า นี่คือสิ่งที่เราพิสูจน์แล้วว่า เราไม่ได้เข้ามาแสวงหาอำนาจหรือมาเล่นการเมือง”
.
นอกจากนี้ อนุทินยังมองเสียงวิจารณ์ถึงประเด็นว่า ตนเองและพรรคผิดคำพูดที่ให้ไว้กับประชาชนก่อนการเลือกตั้งว่า บางคลิปที่ถูกตัดออกมา ต้องยอมรับว่ายังไม่ได้รับการอธิบายที่ชัดเจน ยืนยันว่า ยังไม่ได้ทำผิดสัญญาแม้แต่น้อย พร้อมย้ำที่ทำไปเพราะต้องการให้ประเทศต้องเดินต่อ และจะตั้งหน้าตั้งตาทำงานเพื่อพี่น้องประชาชนและบ้านเมือง
.
“อย่าไปคิดว่าปริ่มน้ำแล้วมันจะเดินต่อไปไม่ได้ อาจจะดีกว่าด้วยซ้ำ จะได้ไม่มีใครคิดว่าตัวเองมีกำลังเหนือคนอื่น แล้วจะมาคอยขัดขาขัดแข้งกันเพื่อประโยชน์ทางการเมือง ตอนนี้ทุกคนต้องจูงมือไปด้วยกัน”
.
อย่างไรก็ตาม ในเวลา 15.00 น. ของวันนี้ (27 พ.ค.) มีการคาดการณ์ว่า อุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ จะนำคณะผู้บริหารพรรคไปเทียบเชิญพรรคภูมิใจไทยเข้าร่วมจัดตั้งรัฐบาล ณ ที่ทำการพรรคภูมิใจไทย สำหรับการร่วมรัฐบาลในครั้งนี้ทันที ภายหลังจากเทียบเชิญพรรคประชาธิปัตย์เข้าร่วมจัดตั้งรัฐบาลในช่วงเช้าวันนี้
.
อ้างอิง: https://www.facebook.com/suthichai.yoon/videos/10157479232716209/
.
อ่านข่าวอื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่ https://thestandard.co/
#ภูมิใจไทย #TheStandardElection #คู่มือเลือกตั้ง62#เลือกตั้ง62 #TheStandardCo
THE STANDARD
...
พูดแบบนี้ก็ทำให้มองเห็นอำนาจที่เหนือกว่าอำนาจในสภาที่มาจากตัวแทนประชาชน
เลือกประธานสภา รองประธานสภา ก็เป็นหลักฐานประจักษ์ชัดแล้วว่า รัฐบาลที่เสียงปริ่มน้ำนั้นไม่มีเสถียรภาพ ถ้า ปชป ภูมิใจไทย มาร่วมกับฝั่งไม่เอาทหาร เสียงรัฐบาลในสภาจะเกินครึ่งไปมาก และจะมีเสถียรภาพมากกว่า
แต่ ปชป และ ภูมิใจไทย รู้ดีว่า ในประเทศไทยอำนาจที่แท้จริงนั้นไม่ได้อยู่ที่ตัวแทนประชาชนในสภา มันมีอำนาจเหนือกว่านั้นอีก และถ้าอำนาจเหนือกว่าประชาชนนั้นเลือกข้างฝั่งไหน ก็จะทำให้รัฐบาลนั้นมีเสถียรภาพมากกว่า แม้จะเป็นรัฐบาลเสียงปริ่มน้ำ
ณ วันนี้ เสถียรภาพของรัฐบาลไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่า ประชาชนทั้งประเทศมอบความไว้วางใจให้พรรคการเมืองไหนมากกว่า มันเป็นมาตั้งแต่ปี 2549 แล้ว ถึงแม้คุณจะได้เสียงไว้วางใจอย่างท่วมท้นจากประชาชน แต่ถ้าคุณไม่ได้รับความไว้วางใจจากอำนาจที่เหนือกว่าประชาชน รัฐบาลคุณก็พร้อมที่จะถูกโค่นล้มได้ทุกเมื่อด้วยทุกวิธีการ
เพราะฉะนั้นควรที่ประชาชนคนไทยต้องผนึกกำลังกันโค่นล้ม อำนาจที่เหนือกว่าประชาชนนอกสภานั้นทิ้งเสียก่อน เมื่อนั้นอำนาจจึงจะกลับมาอยู่ในมือประชาชนอย่างแท้จริง