ถ้าอ่านข่าวไทยรัฐ (๑๗ พ.ค.)
ต้องร้องอ้อซี้แหง ของตาย ‘ไอทู้บ’
เป็นนายกฯ คนต่อไป เฮียเค้าพูดเหมือนงั้นอะ
มิน่านักข่าวสายทำเนียบแห่เซลฟี่กับ ‘ลุ้ง’ เพียบ
เรื่องตั้งรัฐบาลให้พลังประชารัฐจัดการไปก่อน
ถึงอย่างไรท้ายสุดนายกฯ ตัดสิน (จิ้มอีก) ตัวรัฐมนตรี ประธานสภาต้องรู้งานดี
มีความเป็นธรรม ทำตามครรลอง (อย่างนี้ก็ต้อง ‘วันนอร์’) ไม่ใช่แค่มี ‘บรรทัดฐาน’
ส่วนกระทรวงเกรดเอ (กลาโหม มหาดไทย คลัง คมนาคม)
“ขอแต่ละพรรคอย่ากังวล...ต้องดูสัดส่วนความเหมาะสมของพรรคร่วม” ถึงอย่างนั้น “ควรจะอยู่กับฝ่ายความมั่นคงและพรรคหลัก...เพื่อดูแลให้เดินหน้าไปได้”
เพราะอะไร พี่ๆ อยากให้กลับมาช่วย
ทั้งพี่ป้อมพี่ป็อก “เพราะไว้ใจกันมา...ถึงเวลาก็คุยกัน” ด้านเศรษฐกิจแน่นอน “พรรคร่วมจะมาเสริมทีมเศรษฐกิจของนายสมคิด
จาตุศรีพิทักษ์” มีตำแหน่งไว้ให้มาก รมช.งี้ ที่ปรึกษาเอย หรือ “ผู้ช่วยรัฐมนตรี”
ยังได้
ด้านภูมิใจไทย “ไม่ทราบจะได้
รมว.สาธารณสุขหรือไม่ เพื่อเดินหน้ากัญชาเสรี” อ้าว พูดงี้เขาก็หนีหมดสิเฮี้ย
นโยบายเชิดหน้าชูตาของเขาจะไม่เอา เขาก็เอนไปสิ ซ้ำว่า “บ่ยั่น แม้เป็นรัฐบาลจากพรรคร่วมราว
๒๐ พรรค ไม่สนจะมีกี่พรรค หรือจะอายุสั้น” นั่นไม่รู้วาสนา
นาน่วมเขียนเองหรือเปล่านะ
“สื่อและโซเชียลมีเดียขอร้องให้ลดเรื่อง
Hate speech...เปิดเจอเห็นตั้งรัฐบาลกันเสร็จเรียบร้อยแล้ว ยังไม่รู้นายกฯ เลย”
เฮ้ย ตามหลักประชาธิปไตยในระบบรัฐสภา
เขาต้องฟอร์มรัฐบาลก่อนถึงจะรู้ว่าใครได้เป็นนายกฯ ไม่ใช่สวนทางกัน นั่นมัน ‘ประชาธิปไตยครึ่งใบ’
(ใครอยากรู้ตู่พล่ามอะไรอีกบ้างนอกจากนี้
เชิญที่ https://www.facebook.com/100001454030105/posts/2321443697914075
และ http://www.thairath.co.th/news/politic/1570198)
อ้อ ยังมีอีกนิด ตูบขอ “ส.ว.ชุดนี้
ทำงานช่วงเปลี่ยนผ่านไปก่อน ถึงเวลาอาจเปลี่ยนแปลงได้ อย่ามองไม่มีสมอง” แต่ดัน “ชี้
‘ธนาธร’
ประกาศชัดไม่อยู่ฝ่ายนี้ ไปเป็นฝ่ายค้านก็น่าจะจบ...” (@Thairath_News) มันจะจบได้ไง ให้ ‘บุรินทร์’ (ทองประไพ) และ กกต.เอาชนักไปปักหลังเขาไว้
‘อนาคตใหม่’ เลยต้องย้อนเกล็ดเอาบ้าง เลขาฯ กับผู้สมัครบัญชีรายชื่อ ส.ส.พรรคพากันไปยื่นคำร้องต่อผู้ตรวจการแผ่นดินและ
กกต.วานนี้ “ขอให้ส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ในกรณีการคิดคำนวน ส.ส.บัญชีรายชื่อ
ซึ่งส่งผลให้ ส.ส. บัญชีรายชื่อของพรรคอนาคตใหม่หายไปถึง ๗ ที่นั่ง”
ปิยะบุตร แสงกนกกุล แจงเหตุผลง่ายๆ ที่อ้างว่า
กกต.เอาคะแนน ๑๑ พรรคจ้อย ๕๔๘,๒๐๔ คะแนนมาคำนวณแจกที่นั่ง ส.ส.ให้
แล้วคะแนนที่เหลืออีกล้านกว่าซึ่งเป็นของอนาคตใหม่พรรคเดียว ๕๖๑,๒๗๖ คะแนน
ไหงปัดทิ้งไป
ปิยะบุตรยังพูดถึงกรณีที่ กกต.ส่งศาลรัฐธรรมนูญตัดสิน
‘สอย’ ธนาธรเรื่องหุ้นวี-ลัคทั้งที่หุ้นนั้นโอนออกไปแล้วตั้งแต่
๘ มกรา ก่อนธนาธรยื่นสมัครรับเลือกตั้ง ถึงอย่างไรก็จะขอสู้คดีในศาล
ด้วยมาตรฐานที่ว่ามี ส.ส.พรรคอื่นๆ อีกจำนวนมากที่ถือหุ้นสื่อเช่นกัน
ปฏิบัติการปักชนักนี่พรรคลิ่วล้อ
คสช.ไม่ย่นย่อเช่นกัน
รองโฆษกพลังประชารัฐประกาศเตรียมฟ้องคดีต่อหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่
โทษฐานไปเปิดเผยความนัยเรื่องมีผู้ใหญ่จาก พปชร.โทรหาแม่ ขอ ส.ส.เขต ๒๐ คนไปอยู่ข้างไอทู้บ
แลกกับการช่วยสลายคดีที่ปักหลังธนาธรและ อนค.เอาไว้
ธนกร วังบุญคงชนะ อ้างว่า “พรรคไม่เคยมีนโยบายแบบนี้
และไม่เคยมอบหมายใครให้ไปดำเนินการแบบนี้” แต่มันมีคนทำแน่ๆ
ไม่งั้นธนาธรจะกล้าเอาไปพูดในที่สาธารณะระดับนานาชาติอย่างสมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศเชียวหรือ
(https://workpointnews.com/2019/05/17/ppp-to-sue-thanathorn/ และ https://prachatai.com/journal/2019/05/82527)
ข้อหา “โกหกหน้าตายของนายธนาธร
พูดเท็จ ใส่ร้ายพรรคพลังประชารัฐ” ที่รองโฆษก พปชร.อ้าง นั่นก็ออกมาพร้อมกับปฏิบัติการ
‘ไอโอ’ ของเพจ ‘เดรัจฉานแฉ’ และ ‘เดรัจฉานนิวส์v.2’ มดเท็จโจมตี
#โป๊ะแตกธนาธร
เพจอย่างนี้ตรวจสอบไม่ยากว่าต้นตอมาจากไหน สาวจริงๆ
แล้วไปถึงใคร และง่ายยิ่งกว่าถ้าพรรคอนาคตใหม่ และ/หรือธนาธรเองจะเปิดชื่อคนที่โทรศัพท์ไปตะล่อมมารดา
