หลังจากส่งจดหมาย แคมเปญพร้อมผู้สนับสนุน 1346 คน และเอกสารรายละเอียดปัญหารวมกัน 200 หน้า ให้ข้าหลวงใหญ่ด้านผู้ลี้ภัย ด้านสิทธิมานุษชน ประธานอียู ประธานาธิบดีฟินแลนด์และฝรั่งเศสแล้ว ก็มายื่นเอกสารทั้งหมดให้ประธานาธิบดีฟินแลนด์อีกรอบ รายละเอียดจะแจ้งอีกที #SaveFaiyen
Junya Yimprasert
ooo
แถลงการณ์เครือข่ายนักวิชาการเพื่อสิทธิพลเมือง
เรื่อง การไล่ล่าผู้เห็นต่างที่ลี้ภัยในต่างประเทศ
ความขัดแย้งทางการเมืองในช่วงทศวรรษเศษที่ผ่านมาไม่เพียงแต่ส่งผลให้บุคคลถูกจับกุมคุมขังดำเนินคดีหรือบาดเจ็บล้มตาย หากแต่ยังส่งผลให้บุคคลต้องลี้ภัยไปต่างประเทศจำนวนมากเพราะความที่สังคมและกฎหมายไทยไม่มีที่ทางให้กับความเห็นต่างมากพอ ขณะที่กระบวนการยุติธรรมก็ไม่อยู่ในสภาวะที่จะผดุงความยุติธรรมให้ได้ ผู้ลี้ภัยทางการเมืองเหล่านี้ส่วนใหญ่ไม่เพียงแต่ต้องใช้ชีวิตด้วยความยากลำบาก หากแต่ยังต้องคอยหลบหนีการไล่ล่านอกกระบวนการตามกฎหมายซึ่งทวีความรุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี พ.ศ. 2559 เป็นต้นมา
เดือนมิถุนายน 2559 นายอิทธิพล สุขแป้น หายตัวอย่างไร้ร่องรอยจากบ้านชานเมืองเวียงจันทน์ ปีถัดมานายวุฒิพงศ์ กชธรรมกุล ถูกนำตัวจากบ้านในเวียงจันทน์ต่อหน้าภรรยาและหายสาบสูญตั้งแต่บัดนั้น ขณะที่เดือนมกราคม 2562 มีการพบศพชายไทยสองคนในแม่น้ำโขง ผลการตรวจดีเอ็นเอตรงกับสองนักกิจกรรมที่หายตัวไป คือ นายชัชชาญ บุปผาวัลย์ และนายไกรเดช ลือเลิศ คนสนิทนายสุรชัย ด่านวัฒนานุสรณ์ ซึ่งมีคนพบเห็นครั้งสุดท้ายในเดือนธันวาคม 2561 และเชื่อว่าน่าจะเสียชีวิตแล้วเช่นกัน นอกจากนี้ ในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ผู้เห็นต่างสามคม คือ นายชูชีพ ชีวสุทธิ์ นายสยาม ธีรวุฒิ และนายกฤษณะ ทับไท ถูกจับตัวระหว่างข้ามแดนจากประเทศลาวไปประเทศเวียดนาม มีรายงานว่าทางการเวียดนามได้ส่งตัวบุคคลทั้งสามให้กับทางการไทยวันที่ 8 พฤษภาคม แต่ไม่มีใครพบเห็นพวกเขาหลังจากนั้น อีกทั้งยังไม่มีข่าวเกี่ยวกับการจับกุมและควบคุมตัวพวกเขาในไทยแต่อย่างใด สถานการณ์ล่าสุดคือสมาชิกวงดนตรี “ไฟเย็น” ที่ลี้ภัยอยู่ในประเทศลาวแจ้งข่าวว่าพวกเขากำลังจะถูกกวาดล้างครั้งใหญ่
การติดตามไล่ล่าผู้ลี้ภัยในต่างประเทศเกิดขึ้นอย่างไร้ร่องรอย รัฐบาลไทยซึ่งตกเป็นผู้ต้องสงสัยปฏิเสธความเกี่ยวข้อง แม้จะเป็นผู้ “ขอความร่วมมือ” รัฐบาลประเทศเพื่อนบ้านในการดำเนินการกับผู้ลี้ภัยเหล่านี้มาอย่างต่อเนื่อง ขณะที่รัฐบาลประเทศเพื่อนบ้านให้ความร่วมมือกับรัฐบาลไทยค่อนข้างดี มีการส่งตัวผู้ลี้ภัยกลับมายังประเทศไทยแม้ผู้ลี้ภัยเหล่านี้ได้รับการคุ้มครองโดยอนุสัญญาว่าด้วยสถานะผู้ลี้ภัยและไม่ได้มีพฤติกรรมเข้าข่ายถูกยกเว้น เช่น ก่ออาชญากรรมในประเทศนั้น นอกจากนี้ ในบางประเทศ เช่น ลาว ไม่มีสำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (UNHCR) ตั้งอยู่เพื่อให้ความคุ้มครองผู้ลี้ภัย สถานการณ์ผู้เห็นต่างทางการเมืองที่ลี้ภัยอยู่ในประเทศเพื่อนบ้านขณะนี้จึงอยู่ในสภาวะที่น่าวิตกกังวลเป็นอย่างยิ่ง
เครือข่ายนักวิชาการเพื่อสิทธิพลเมือง (คนส.) ติดตามเรื่องการไล่ล่าผู้เห็นต่างทางการเมืองที่ลี้ภัยในต่างประเทศอย่างใกล้ชิด และเห็นว่าพฤติการณ์ดังกล่าวขัดต่อหลักการและกระบวนการยุติธรรม หลักสิทธิมนุษยชนและสิทธิพลเมือง และหลักการคุ้มครองผู้ลี้ภัย จึงมีข้อเรียกร้องไปยังฝ่ายที่เกี่ยวข้องดังนี้
1. รัฐบาลไทยต้องดำเนินการกับผู้ลี้ภัยตามหลักการและขั้นตอนกระบวนการยุติธรรม ต้องให้สิทธิแก่ผู้ลี้ภัยในฐานะผู้ต้องหาที่คดียังไม่ถึงที่สุด และต้องเคารพอนุสัญญาว่าด้วยสถานะผู้ลี้ภัยที่หลายประเทศได้ลงนามไว้ โดยไม่ขอความร่วมมือกับรัฐบาลประเทศใดในลักษณะที่ขัดหรือละเมิดอนุสัญญาดังกล่าว และต้องไม่ขัดขวางการดำเนินการของรัฐบาลประเทศใดที่เป็นไปตามอนุสัญญาฉบับนี้
2. องค์กรระหว่างประเทศที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะอย่างยิ่งคือสำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (UNHCR) ต้องให้ความคุ้มครองผู้ลี้ภัยชาวไทยอย่างเป็นระบบและจริงจัง ต้องสนับสนุนรัฐบาลประเทศที่ให้ความคุ้มครองผู้ลี้ภัยชาวไทย ต้องหาวิธีการช่วยเหลือคุ้มครองผู้ลี้ภัยชาวไทยในประเทศที่ไม่มีสำนักงานฯ ตั้งอยู่ และต้องช่วยให้ไม่มีการส่งตัวผู้ลี้ภัยชาวไทยกลับประเทศตามจารีตประเพณีระหว่างประเทศที่ปฏิบัติกันมา
3. สังคมไทยต้องเปิดกว้างที่จะยอมรับความเห็นต่างทางการเมือง ไม่แสดงความอาฆาตมาดร้าย หรือสนับสนุนหรือให้ความชอบธรรมกับสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นกับผู้เห็นต่างที่ลี้ภัยอยู่ในต่างประเทศขณะนี้ และร่วมกันผลักดันให้มีการแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้องเพื่อให้ประเทศไทยเป็นนิติรัฐที่รับรองความแตกต่างหลากหลายของพลเมืองโดยเฉพาะในส่วนของความคิดทางการเมือง
เครือข่ายนักวิชาการเพื่อสิทธิพลเมือง (คนส.)
21 พฤษภาคม 2562
#SaveFaiyen
เครือข่ายนักวิชาการเพื่อสิทธิพลเมือง - คนส.
ooo
จนบัดนี้ยังไม่ได้ยินข่าวความคืบหน้าของ สยาม ธีรวุฒิ 'ลุงสนามหลวง' และกฤษณะ ทัพไทย
ลุงสนามหลวง หรือ ชูชีพ ชีวสุทธิ์ เป็นใคร ทำไมจึงเป็นศัตรูลำดับต้นๆ ของรัฐไทย และแนวคิดสหพันธรัฐไท เป็นมาเช่นไร น่ากลัวแค่ไหน
อ่านได้ที่นี่
“สิ่งที่เราพูดมันถูกใจประชาชนเพราะเขาอึดอัด ไม่ใช่เราเก่ง แต่เราแค่พูดแทนเขา หาทางระบายให้เขาในสิ่งที่เขาพูดไม่ได้ ถึงไม่ชนะแต่จิตใจอย่าหดหู่ เราเพียงแต่ปลุกขวัญกำลังใจ ผมทำได้เท่านี้ ถ้าคุณไม่สู้ก็คือไม่ชนะ ผมก็ได้แต่พูดไปๆๆ จนเหลือคนสุดท้ายก็จะพูด แค่นั้นเอง”
คำพูดสุดท้ายที่กล่าวไว้กับสื่อแหล่งหนึ่งเมื่อปี 2559
https://prachatai.com/journal/2019/05/82565