ตอนยึดอำนาจบอกว่า ‘ขอเวลาอีกไม่นาน’ อยู่มาแล้ว ๕ ปี ตอนนี้ ‘ขออีกทีนานๆ’ ทั้งประยุทธ์และประวิตรอ้างความสำเร็จล้นเหลือเพื่อกินรวบต่อ
ถึงได้นั่งถ่างขาควบทั้งกระทรวงความมั่นคงและธุรกิจเกรดเอ จนพวกรอส้มหล่นทนไม่ไหว
หันไปรวมหัวกันจัดขั้วที่สาม
การช่วงชิงจัดตั้งรัฐบาลของฟากลิ่วล้อตู่ดูท่าจะไปไม่ได้
ในเมื่อการเขี่ยเศษเนื้อประธานสภาฯ ให้ ปชป.ถูกบัญญัติ บรรทัดฐาน เขี่ยกลับ ‘ไม่ขอรับ’ บอกว่าอยากเป็นแค่ ส.ส.ธรรมดามากกว่า
เวลานี้พรรคประชาธิปัตย์เลยไปจับมือมั่นกับภูมิใจไทย สัญญาไปไหนไปกัน
ปชป.และ ภท.รวมกันได้ ส.ส. ๑๐๓ เสียง
ไม่น่าจะเป็นแกนตั้งรัฐบาลเองได้ เว้นแต่จะมีขั้วใดขั้วหนึ่งระหว่างพลังประชารัฐและเพื่อไทยยินยอมรับข้อเรียกร้องที่ต้องการ
๖ กระทรวงสำคัญ ปชป.อยากได้มหาดไทย พาณิชย์ และ แรงงาน ด้าน ภท.ยันต้องได้คมนาคมกับสาธารณสุข
(กัญชา)
ยังมีอีกสองสามพรรคที่เข้ามาอยู่ในสมการช่วงชิง
คือชาติไทยพัฒนา ชาติพัฒนา และรวมพลังประชาชาติไทย (พรรคของสุเทือกที่ไม่ได้
ส.ส.สุราษฎร์สักคน) ก่อนหน้านี้การต่อรองอยู่ที่ ชทพ.จะได้รัฐมนตรีเกรดซี ๒
กระทรวง ขณะที่ ชพน.กับ รปช. รวมกันได้ ๑ รมว.อุตสาหกรรม
นั่นว่าตามข่าวคมชัดลึกลุคใหม่สไตล์ทีนิวส์
รายการที่คุณขอมากระทรวงพลังงาน พปชร.ให้ไม่ได้ เพราะณัฐพล ทีปสุวรรณ รองหัวหน้าพรรคสาย
กปปส.เขาจองไว้นานแล้ว ส่วนกระทรวงคมนาคมที่ ภท.ต้องการก็ให้ไม่ได้เช่นกัน แต่ถ้า ภท.จะยอมเลี่ยงไปเอาแค่
รมช.พอได้
รวมความว่าฝ่ายพรรค คสช.มูมมาม ไหนจะต้องได้คุมความมั่นคง
กลาโหม-มหาดไทยให้พี่ป้อมพี่ป็อก คลัง พาณิชย์ ต่างประเทศ คมนาคม ท่องเที่ยว
ทรัพยากร เป็นของพลังประชารัฐ พรรคร่วมอยากได้อาจมีใจดีให้รัฐมนตรีช่วยบางกระทรวง
ผลการกินข้าวพร้อมทำงานระหว่างอนุทิน
ชาญวีรกูล (ภท.) กับเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาฯ ปชป. และ มนตรี ปาน้อยนนท์ ส.ส.ประจวบฯ
(ปชป.) เมื่อวาน (๒๒ พ.ค.) ประกาศศักดิ์ศรีขั้วที่สามจึงเกิดขึ้น ตามมติที่ประชุมของ
ปชป. ให้ “เจรจากับทุกฝั่งเพื่อหาทางออก” โดยเน้นเรื่อง ‘เสถียรภาพรัฐบาล’
วันนี้ (๒๓ พ.ค.)
จึงเป็นวันลุ้นกันว่าฝ่ายขั้วไหน เพื่อไทย/อนาคตใหม่ (ขั้ว ๑) หรือพลังประชารัฐ
(ขั้ว ๒) จะยอมรับข้อเสนอ ปชป./ภท. (ขั้ว ๓) ดูท่าแล้วฟากประชาธิปไตยอาจจะคว้าดีลในเมื่อกระทรวงที่พวก
คสช.หวงจะมาอยู่กับเพื่อไทยและอนาคตใหม่เกือบหมด
แต่นั่นแหละยังมีปัจจัยภายในของประชาธิปัตย์เองที่ขณะนี้ระส่ำระสายปริ่มจะแตกเป็นสองเสี้ยว
จากการที่พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค กรณ์ จาติกวนิช และอภิรักษ์ เกษะโยธิน รวมหัวกัน
อ้างเป็นตายไม่รับพรรคระบอบทักษิณ
กลุ่มนี้ที่ออกมา ‘อัด’ ทั้งพิชัย (รัตตกุล) และชวน (หลีกภัย) ถาวร
เสนเนียมร่วมด้วย มี ส.ส.รวมกัน ๒๗ คนเป็น ‘งูเห่า’ จะเอาสืบทอดอำนาจเผด็จการให้ได้ ขณะทีฝ่ายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์
หัวหน้าพรรค มีชวน อภิสิทธิ์ (เวชชาชีวะ) สาธิต ปิตุเตชะ และเทพไท เสนพงษ์ รวม ๒๕
ส.ส.
ความแตกแยกใน ปชป. ทำให้พรรคต้องปล่อย ‘ฟรีโหวต’ ในการเลือกนายกรัฐมนตรีหรือไม่
เป็นที่น่าจับตาอย่างยิ่ง และการตั้งรัฐบาลของฟากพลังประชารัฐจะสั่นคลอนหนักเข้าไปอีก
แม้นว่ากัดฟันยอมปล่อย ๖ กระทรวงสำคัญแล้ว
คสช. คงจะดันทุรังตั้งรัฐบาลตูบ ๒ เสียงข้างน้อยในสภาผู้แทนฯ
เพียง ๒๓๐ กว่าที่นั่ง ไม่ถึงครึ่ง ดังที่ Thanapol
Eawsakul ชี้ไว้ ก็จะทำให้ประยุทธ์ปกครองต่อไม่สะดวกนักละ
ฝ่ายสัตยาบันเช่นกันมีอยู่ ๒๔๕ เสียง
ถ้าจะเอาคู่หู ปชป.-ภท.มาร่วม ได้แค่ ๓๔๘ หรือมี ชทพ. และ ชพน.มาเสริมอีก ๑๓
เสียงยังคงไม่พอป้องกันโดน สว.ป่วนวันเลือกนายกฯ แน่ๆ เว้นแต่จะมี
สว.เสียงแตกสักยี่สิบคน ก็พอมีหวัง