วันเสาร์, เมษายน 13, 2562

'อ.ณรงค์' จัดหนักคสช. สร้างวาทกรรมเพื่อครองอำนาจ รัฏฐาธิปัตย์ตวัดลิ้น สมคบทุนผูกขาดสามานย์





'อ.ณรงค์'จัดหนักคสช.สร้างวาทกรรมเพื่อครองอำนาจรัฏฐาธิปัตย์ตวัดลิ้นสมคบทุนผูกขาดสามานย์

12 เมษายน พ.ศ. 2562
Thai Post


12เม.ย.62-รศ.ดร.ณรงค์ เพ็ชรประเสริฐ อาจารย์หลักสูตรเศรษฐศาสตร์การเมือง จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว หัวข้อ วาทกรรมเพื่อครองอำนาจของรัฏฐาธิปัตย์ตวัดลิ้น มีเนื้อหาดังนี้

คณะบุคคลผู้กุมอาวุธ เมื่อถึงจังหวะที่รอคอย ก็ปฏิบัติการทำรัฐประหาร พร้อมกับสร้างวาทกรรมเพื่อยกเหตุผลสร้างความชอบธรรมในการยึดอำนาจ แต่เมื่อเวลาล่วงเลย หลายๆอย่างก็ไม่ได้เป็นไปตามที่พูด แต่เพื่อจะครองอำนาจต่อไป ก็ต้องสร้างวาทกรรมใหม่ๆ เพื่อหาเหตุผลให้ตนได้ครองอำนาจ จึงเหมาะสมทีเราจะเรียกว่า "รัฏฐาธิปัตย์ตวัดลิ้น" ดังจจะเห็นได้จากเหตุการณ์ต่อไปนี้:

1) บอกว่าทำรัฐประหารเพื่อความสงบและสร้างความปรองดอง ขจัดความขัดแย้ง แต่ความเป็นจริงที่เห็นได้คือเกิดความสงบจากการประท้วงจริง เพราะรัฐใช้อำนาจเผด็จการบังคับ ลดเสรีภาพของบุคคลในหลานส่วน แต่ไม่อาจขจัดความขัดแย้ง และไม่สามารถสร้างความปรองดองได้ เพราะผู้ทำรัฐประหารกลายเป็นคู่ขัดแย้งเสียเอง และความขัดแย้งดูจะบานปลายไปเรื่อยๆ ความขัดแย้งระหว่างเหลืองกับแดง เปลี่ยนเป็นความขัดแย้งระหว่างผู้ประกาศตนเป็นฝ่ายประชาธิปไตยที่ต่อต้านคณะรัฐประหารที่ถูกเรียกว่าเป็นฝ่ายเผด็จการ และมันกำลังเพิ่มดีกรีความขัดแย้งจากวาทกรรมของผู้กุมอำนาจรัฐ ว่า "พวกซ้ายจัด ดัดจริต คอมมูนิสต์ล้มสถาบัน" ซึ่งเป็นวาทกรรมยุคหลังเหตุการณ์ 14 ต.ค. 2516

ซ้ายจัดคืออะไร? มีหรือไม่? ถ้ามีจริง ก็ต้องมีขวาจัดด้วยสิ! คอมมูนิสต์คือใคร? เลวร้ายอย่างไร? ประเทศจีนปกครองด้วยพรรคคอมมูนิสต์ใช่หรือไม่? แล้วทำไมผู้มีอำนาจรัฐในคณะรัฐประหารบางคน จึงชื่นชมยกย่องจีน เอาใจจีนยังกับบิดาบังเกิดเกล้า?

คอมมูนิสต์ล้มสถาบัน ผู้พูดเคยศึกษาหรือไม่ว่า สถาบันกษัตริย์ในโลกนี้ส่วนใหญ่ถูกล้มโดยมหาอำนาจและคณะทหารในประเทศนั้นๆ ที่ถูกล้มโดยคอมมูนิสต์มีเพียง 2-3 ประเทศเท่านั้น แม้แต่ในจีนเองกลุ่มอำนาจที่ล้มสถาบันกษัตริย์คือพวก
"ก๊กมินตั๋ง" ไม่ใช่พรรคคอมมูนิสต์ ดังนั้น การสร้างวาทกรรม ซ้ายจัด ดัดจริต คอมมูนิสต์ล้มสถาบัน มันคือวาทกรรมเพื่ออำนาจของพวกตน

2) บอกว่าทำรัฐประหารเพื่อปราบคอร์รัปชัน โดยเฉพาะการคอร์รัปชันของนักการเมือง แต่ความจริงกลับเป็นว่า ความไม่โปร่งใสในสังคมไทยภายใต้อำนาจของคณะรัฐประหาร มีมากขึ้นกว่ายุคก่อนเสียอีก เพราะองค์กรจัดอันดับความโปร่งใสระหว่างประเทศพบว่า คะแนนเต็มความโปร่งใส 100 คะแนน ประเทศไทยได้เพียง 36 คะแนน เท่านั้น ตอบได้ไหมว่าความไม่โปร่งใสนี้ ไม่เกี่ยวกับการคอร์รัปชัน?

3) บอกว่าทำรัฐประหารเพื่อลดความเหลื่อมล้ำ แต่ความจริงกลับเป็นว่า ประเทศไทยภายใต้อำนาจของคณะรัฐประหาร มีความเหลื่อมล้ำระดับแนวหน้าสุดของโลก เพราะองค์กรจัดลำดับความเหลื่อมล้ำระหว่างประเทศพบว่า ในปี 2560 ประชากร 1% ของประเทศไทย ครอบครองรายได้และทรัพย์สิน 68% ของประเทศ เพิ่มขึ้นจากการสำรวจครั้งก่อนหน้า ที่ประชากร 1% ของประเทศครองทรัพย์สินและรายได้ 58% ของประเทศ นี่พูดเฉพาะรายได้และทรัพย์สิน ยังไม่ได้พูดถึงความเหลื่อมล้ำเรื่องอำนาจ เรื่องสิทธิและโอกาส เรื่องความเป็นธรรมในสังคม ของคนชั้นบนและคนชั้นล่าง ที่แตกต่างกันราวฟ้ากับดิน

4) คณะรัฐประหารประณามนักการเมืองว่าเป็นพวกเลว คอร์รัปชันทำลายชาติ ต้องขจัดให้หมดไป แต่ครั้นพวกของตนจัดตั้งพรรคการเมืองขึ้นมา ก็กลับไปกวาดต้อนบรรด่นักการเมืองหน้าเดิมๆ ที่เคยถูกกล่าวหาว่าเป็นพวกเลว มาร่วมพรรค บ้างก็เป็นผ้นำพรรค บ้างก็เป็นนายทุนพรรค บ้างก็เป็นพันธมิตรมาจัดตั้งรัฐบาล แล้วก็ยกย่องนับถือกันว่า เป็นคนดี มีคุณธรรม เหมาะจะเป็นผู้บริหารประเทศ เฮ้อ! ตวัดลิ้นกันแบบนี้แหละ ใครจะทำไม?

5) เมือผู้นำรัฐประหารต้องการใช้อำนาจรัฐ ต้องการใช้งบประมาณของรัฐ ก็ประกาศว่าผู้นำของพวกตนเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ แต่พอถึงคราวเลือกตั้งที่เจ้าหน้าที่ของรัฐต้องวางตัวเป็นกลาง ก็กลับบอกว่าผู้นำของตนไม่ใช่เจ้าหน้าที่รัฐจึงเลือกข้างได้ ต่อมาเมือบริษัทต่างชาติจะฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายหลายหมื่นล้าน เพราะไปใช้อำนาจสั่งปิดบริษัทเขา พวกนักกฎหมายของคณะรัฐประหารก็บอกว่า ผู้นำของพวกตนเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ออกคำสั่งในนามตัวแทนของรัฐ เพราะฉะนั้น ถ้าต้องจ่ายค่าเสียหายก็ต้องใช้เงินของรัฐ ดูวิธีตวัดลิ้นของพวกนี้สิ

6) คณะรัฐประหารในฐานะผู้ครองอำนาจรัฐ ประกาศผ่อนปรนเรื่องกัญชา เพื่อถอดกัญชาออกจากบัญชียาเสพติด เพื่อนำไปใช้ทางการแพทย์ โดยประกาศนิรโทษกรรมให้แก่ผู้ครอบครองกัญชาเพื่อรักษาผู้ป่วยและเพื่อการค้นคว้าวิจัยทางการแพทย์ และได้กำหนดเวลาให้ผู้ครอบครอง ไปแจ้งขออนุญาตจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ภายในวันที่ 19 พ.ค. 2562 ในการณ์นี้ คุณ เดชา ศิริภัทร ประธานมูลนิธิข้าวขวัญ ปัญญาชนอิสระ ผู้มีอันจะกิน แต่ได้เสียสละทำงานช่วยเหลือชาวนาด้านการพัฒนาและอนุรักษ์พันธ์ข้าวมายาวนาน เป็นที่ยอมรับยกย่องของสังคม ในด้านภูมิปัญญาและความเสียสละทุ่มเท คุณเดชาได้ศึกษาทดลองค้นคว้าผลิตน้ำมันกัญชารักษาผู้ป่วย ทั้งโรคมะเร็ง โรคลมชัก โรคพาร์กินสัน ฯลฯ และได้ขอให้วัดทีพิจิตรและที่สุพรรณ เป็นสถานที่แจกจ่ายโดยไม่คิดค่าตอบแทนใดๆ นับเป็นคุณอันใหญ่หลวง ที่คุณเดชาได้ช่วยผู้ป่วยต่างๆ ที่หมดหวังจากการรักษาโดยแพทย์แผนปัจจุบัน

คุณเดชาได้เตรียมการที่จะไปแจ้งขออนุญาตจากหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องแล้ว แต่เนื่องจากมีธุระบางประการต้องเดินทางไปประเทศลาว จึงยังไม่ได้ไปแจ้ง เพราะเห็นว่ายังมีเวลาอีกเดือนกว่าที่จะไปแจ้งได้ แต่ปรากฎว่ากลไกของรัฐ ภายใต้อำนาจรัฐประหาร พากันยกโขยงไปจับกุมบุคลากรของมูลนิธิข้าวขวัญ กวาดเก็บต้นอ่อนกัญชาที่เพาะอยู่ในกระถาง ผู้บุกคันจับ ไม่แสดงตัวตนและสิทธิอำนาจในการตรวจค้น แถมเมื่อจะประกันตัวผู้ถูกจับกุม ก็เรียกค่าประกัน 500,000 บาท ยิ่งกว่าค่าประกันตัวอาชญากรร้ายแรง ทั้งๆที่เขาคือผู้กอบกู้ชีวิตคน

ที่เหล้าเบียร์บุหรี่ คณะรัฐประหารปล่อยให้ผลิตขายได้เสรี ไม่เว้นวันพระสันบุญ บุหรี่สร้างโรคภัยและความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินไปมามายเท่าไร? เหล้าเป็นเหตุของการบาดเจ็บล้มตายไปปีละเท่าไร? สงกรานต์และปีใหม่คนตายเพราะเหล้าปีละเท่าไร? สงกรานต์ปีนี้จะตายกันเพราะเหล้าอีกเท่าไร? คิดแต่จะลงโทษคนดื่มเหล้า เคยคิดจะควบคุมคนผลิตและคนขายเหล้าบ้างใหม? คิดแต่จะลงโทษคนผลิตกัญชาเพื่อช่วยชีวิตคน เคยคิดที่จะลงโทษคนผลิตและคนขายเหล้าทีเป็นต้นตอของการทำลายชีวิตคนบ้างไหม? เห็นมีแต่ส่งเสริมกัน จับมือกัน หาประโชน์ร่วมกัน นี่มันเป็นคณะรัฐประหารที่เอื้อประโยชน์แก่ทุนสามานย์ชัดๆ ไปดูที่สิงคโปร์สิ วันหยุด วันบุญ วันเทศกาล เขาห้ามขายเหล้า เขาควบคุมทั้งด้านอุปสงค์(ผู้ดื่ม)และผู้ผลิตผู้ขาย(ด้านอุปทาน) ตัวอย่างดีๆอย่างนี้ทำไมไม่นำมาใช้ละ? คณะรัฐประหารบอกว่าต้องการลดความเหลื่อมล้ำ แต่เหตุใดจึงให้สิทธิ์เสรีแก่พวกเพชฆาตเจ้าของเหล้า มากกว่าผู้ใจบุญผลิตน้ำมันกัญชาช่วยชีวิตคน พวกท่านเป็นพวกมารหรือพวกเทพ?

จากเหตุการณ์เชิงประจักษ์ที่กล่าวมา เราจึงขอให้สมญานามพวกท่านว่าเป็นพวก "รัฏฐาธิปัตย์ตวัดลิ้น" แถดิ้นเพื่อครองอำนาจ สมคบทุนผูกขาดและทุนสามานย์ เอวัง!!

..