จงใจให้ยุ่งหรือเปล่า
.
สงกรานต์ปีกุนนี้อยากทักทายแฟนเพจทั้งหลาย ด้วยวิวัฒนาการภาษาการเมืองของประเทศไทยเรา ก้าวหน้าหรือก้าวหลังไปมากจริงๆครับ มึนจนตามไม่ทันจริงๆ
.
วันนี้ขอคัดเลือกมาเพื่อปุจฉากัน เพียง 6 ข้อก่อนดังนี้
.
1.”จำนวนส.ส.พึงมี” เป็นภาษาที่ไม่มีจริง ความจริงคือประชาชนเลือกผู้แทนจากพรรคเพื่อไทย จนชนะ 137 เขต มีผู้แทนราษฎรจากการเลือกตั้ง 137 คน แต่กลุ่มปฏิวัติคำนวณ โดยสูตรวิปริตบอกว่าเพื่อไทย มีจำนวนส.ส.พึงมี 111 คน ซึ่งไม่เป็นความจริงเพราะเพื่อไทยได้ส.ส.137คน ใครจะมาเพิ่มให้ก็ไม่ได้ หรือใครจะมาลดก็ไม่ได้เช่นกัน
.
2.”คะแนนตกน้ำ” เป็นภาษาที่แปลว่าเสกคนตายให้เป็นได้ มันเป็นคะแนนของคนแพ้การเลือกตั้งครับ คะแนนที่แพ้แล้วจะนำมาใช้เพื่อให้เกิดเป็นส.ส.ได้อย่างไร อย่างนี้ไม่ต้องแพ้ชนะกันแล้ว เรียกเสียว่าเป็นการลงคะแนนแบบเสมอก็แล้วกัน
.
3.”คะแนนเขย่ง” แปลว่าคะแนนที่นับแล้วขาด ไม่พอเป็นส.ส.เลยเพิ่มให้ (ดื้อๆ) จนได้ ส.ส.ไป เป็นคะแนนที่ผีมาลงให้ เพราะประชาชนไม่ได้ลงคะแนนให้เลย
.
4.”คะแนนนิวซีแลนด์” คือคะแนนที่ประชาชนชาวไทย ลงคะแนนที่นิวซีเลนด์และถูกส่งมาดองไว้ในคลังสินค้าจนไม่ได้นับ ถือเป็นโมฆะโดยหาคนรับผิดชอบไม่ได้
.
5.”ตัวหาร 71,000” ซึ่งมาจากจำนวนผู้มาลงคะแนนหารด้วยจำนวนส.ส.ทั้งสภา 500 คน หรืออีกนัยหนึ่งคือ ค่าเฉลี่ยของคะแนนส.ส.ต่อหัว ซึ่งก็ไม่มีฐานของเหตุผลอะไร เพราะแต่ละจังหวัดประชากรก็ไม่เท่ากัน ไม่รู้เหตุใดจึงแส่ไปหาค่าเฉลี่ยมาใช้ ค่าเฉลี่ย (Mean) มันใช้ไม่ได้เพราะไม่มีความต้องการให้มีการเปรียบเทียบอะไรกัน คะแนนของทุกส.ส. ล้วนเป็นอิสระไม่เชื่อมโยงอะไรกันเลย สำหรับผมคะแนนตัวนี้แหละ ถูกสร้างมาเพื่อกดคะแนนของพรรคเพื่อไทย คือมีการเอาตัวเลข 71,000 คน ไปหารคะแนนรวมทั้งประเทศ ของพรรคเพื่อไทย ซึ่งมีราวๆ 6.9 ล้าน ทำให้ได้ตัวเลข 111 คน แล้วก็โมเมบอกพรรคเพื่อไทย “พึงมี” เท่านี้ ซึ่งไม่จริง ประชาชนเขาเลือก เพื่อไทย 137 คน ไม่ใช่ 111 คนตามที่คุณว่า (เก่งจริงก็มาลดซิครับ)
.
6.”การเลือกหาร” พรรคเพื่อไทยใช้ตัวเลข 71,000 ไปหาร แต่พรรคเล็กอื่นๆ ใช้ตัวเลข 31,000 ไปหาร อ้าว!ทำไมไม่เอา 31,000 มาหารคะแนนพรรคเพื่อไทยเล่าครับ อย่างนี้ไม่เรียกว่าเลือกปฏิบัติหรือ อ้างว่ามีสูตรพิเศษเฉพาะ แบบนี้ไม่ได้เด็ดขาด
.
ทั้งหมดทั้งปวงนี้ล้วนเกิดจากรัฐธรรมนูญฉบับพิเศษและมองดูพิสดารนี้แหละ เราจะเอากันอย่างไรดีเล่าครับ คนรุ่นผมผมชักหมดแรงแล้ว อยากส่งต่อให้คนรุ่นใหม่ซะแล้ว
ดร.ปลอดประสพ สุรัสวดี