ฝนหนัก น้ำบากภาคใต้ ขยายครบ ๑๒ จังหวัดแล้วนะ การรถไฟสายใต้ไปได้ไกลสุด ทุ่งสง
ทว่า ทบ. ไม่นิ่งนอนใจ ส่งกำลังพล ๑๒ กองร้อย รถ ๕๐ คัน ไปช่วย
ข่าวไทยรัฐบอก วันที่ ๕ ธันวา พ.อ.วินัย สุวารี โฆษกกองทัพบกแถลง ทั้งประยุทธ์และเฉลิมชัย (พล.อ.ทั้งคู่) หัวหน้ารัฐบาลกับหัวหน้าทหารมีความห่วงใยชาวใต้ จึงมอบหมายศูนย์บรรเทาภัยทัพบกส่งกำลังพลและยุทโธปกรณ์เข้าสู่พื้นที่
เนื่องจากน้ำหลากและน้ำบาก ใน จว. - ชพ. สฎ. นค. พท. สข. ปน. ย กบ.ล. นธ. ภก. ต.ง. สต. ครบ ๑๒ พอดี ใครอยากรู้ว่าตัวย่อเหล่านี้แทนจังหวัดไรบ้าง ต้องไปดูแผนภาพของคุณวาส Deep Blue Sea @WassanaNanuam จึงจะเก็ต (ใบ้ให้อันนึง ต.ง. = ตรัง)
นี่หละ ภัยธรรมชาติธรรมดา ถ้าเตรียมการแก้ไขก่อนเล็กน้อยก็พอผ่อนเบาได้บ้าง แต่จะป้องกันล่วงหน้านานๆ ต้องใช้กึ๋นและประสพการณ์เข้าช่วย เวลาแค่เกือบสามปีไม่พอสำหรับสะสมความชำนาญ ต้องครบ ๒๐ ปีตามยุทธศาสตร์แห่งชาติ คงได้
ก็เหมือนปัญหาปากท้องชาวบ้าน เศรษฐกิจประเทศ ที่มันเริ่มลงเหวเมื่อวันที่ตะเองคนเก่งบอกว่า “ถ้างั้นผมยึดอำนาจ” นั่นละ
ถึงวันนี้เป็นไง ต้องให้เจ้าเก่าอธิบาย Atukkit Sawangsuk น้าเขาได้สัมผัสของจริงมากกว่าเรา เขาว่า “เศรษฐกิจวันนี้ มีผีตายลอยน้ำมา”
เขาอ้างถึงถอดความ “คำต่อคำ : ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ร่วมงานสัมมนาหอการค้าทั่วประเทศครั้งที่ ๓๔” ที่ ‘ผู้จัดการออนไลน์’
โดยเฉพาะตรงที่สมคิดพูดว่า “และอาเซียนนั้นกึ่งกลางของมันก็คือ CLMV จริงๆ แล้วไทยคือจุดศูนย์กลางอยู่แล้ว ไทยเป็นผู้นำโดยปริยายอยู่แล้ว”
(http://manager.co.th/iBizChannel/ViewNews.aspx…)
อธึกกิตบอก “ว่าที่จริง เศรษฐกิจคนข้างล่างนี่จบเห่แล้ว ตามตลาดสด ตามชนบท ชาวบ้านหมดกำลังซื้อ เพราะปัญหาราคาพืชผลและการส่งออก ที่ภาคการผลิตไม่ได้เดินเครื่องเต็มกำลัง คนงานไม่มีโอที หรือถูกลดโอที แม้อาจปลดออกไม่มาก
เพียงแต่คนชั้นกลางยังมีเงิน เพราะหนึ่ง ข้าราชการไม่กระทบกระเทือน ประเทศไทยนี่ข้าราชการลูกจ้างพนักงานรัฐเยอะมากนะครับ ๒.๒ ล้านคน นับรวมครอบครัว น่าจะเกินครึ่งของคนชั้นกลางในเมือง
สอง มนุษย์เงินเดือนภาคเอกชน ที่ผ่านมายังไม่กระทบมากนัก หรือกระทบเป็นรายภาค (แต่ปีนี้เริ่มชัด โบนัสลด เงินเดือนปรับน้อยลง)...
สมคิดเลยต้องคิดวิธีแจกตังค์ ๑,๕๐๐-๓,๐๐๐ พร้อมกับช็อปช่วยชาติ ลดภาษีจับจ่าย ท่องเที่ยว ซึ่งก็แค่แก้ได้เฉพาะหน้า...
แถมด้วย “ป.ล.ไม่รู้อคติหรือเปล่า แต่ช่วงนี้เห็นป้ายโฆษณาข้างทางด่วน ติดป้ายว่างให้เช่าเยอะเลย”
เกี่ยวกับช็อปช่วยชาติเนี่ยกระทรวงคลังเสนอให้เริ่มต้นธันวา ไม่รู้เริ่มได้หรือยัง โดย “นำรายจ่ายซื้อสินค้าและบริการในช่วงเวลาที่กำหนดมาหักลดหย่อนภาษีเพิ่มเป็นได้สูงสุดไม่เกิน ๓ หมื่นบาท จากปีที่แล้วให้สูงสุดคนละ ๑.๕ หมื่นบาท และเพิ่มเวลามาตรการเป็น ๑๕-๓๐ วัน จากเดิม ๗ วัน”
(http://www.matichon.co.th/news/375668)
ขณะที่ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือ นายนพพร เทพสิทธา พูดไว้เมื่อสิ้นเดือนพฤศจิกา ว่าผลส่งออกของปี ๕๙ นี้ “น่าจะติดลบ ๐.๕ %”
และธนาคารแห่งประเทศไทยเผย (วันเดียวกัน ๓๐ พ.ย.) “นักท่องเที่ยวลดลงกว่า ๑๖% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน”
(http://www.matichon.co.th/news/378773)
ครั้นเมื่อคำนึงถึงว่า “ท่องเที่ยวมีความสำคัญต่อเศรษฐกิจมากขึ้น ปัจจุบันคิดเป็นสัดส่วนกว่า ๑๑-๑๒% ของจีดีพี” ด้วยแล้ว
ภาพข้างหน้าไม่ค่อยจะดีนัก ทั้งที่ “TDRI คาดส่งออกปี ๖๐ โต ๐-๑% ศก.ไทย +๓.๒% คาดบาทอ่อน” (สำนักข่าวไทย อสมท @TNAMCOT รายงาน)
แต่ว่า ('แต่ว่า' นะ) รัฐบาล คสช. ซะอย่าง จะ ‘จั๊มสต้าร์ท’ เศรษฐกิจให้ก้าวกระโดด ‘โต’ ได้ถึง ๔-๕ เปอร์เซ็นต์นั่นแน่ะ
นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังแจ้งว่า ได้ทำการจัดงบประมาณเพิ่มเติมกลางปีอีก ๑ แสนล้านบาท เอาไปแจกให้ภูมิภาคจำนวน ๑๘ กลุ่มจังหวัด ได้กันแห่งละ ๕-๖ พันล้านบาท
ไม่แต่แค่นั้น ในปีงบประมาณ ๒๕๖๑ จะเพิ่มให้อีกเป็นกลุ่มละ ๔ หมื่นล้านบาท
(http://www.matichon.co.th/news/383984)
แต่เอ๊ะ บางกอกโพสต์เขาแจง แบ๊งค์ชาติรายงานว่าการจับจ่ายส่วนบุคคลในประเทศหล่นเหมือนหินตกจากที่สูง นับตั้งแต่ในหลวงในโกศเสด็จสู่สวรรคาลัย เดือนนั้นตกไป ๕.๕ เปอร์เซ็นต์ พอถึงวันนี้ต่ำสุดยิ่งกว่าเมื่อห้าปีที่แล้ว ตอนที่ยิ่งลักษณ์ ‘เอาไม่อยู่’ น้ำบากเข้ากรุงนั่นน่ะ
ยังมีอีกนิดจากปากคำของบางกอกโพสต์ “ผลผลิตทางอุตสาหกรรมหล่น ๐.๖ เปอร์เซ็นต์ ทั้งๆ ที่ทางการรัฐบาลทหารคาดว่าจะโต ๐.๗๕ เปอร์เซ็นต์”
(http://www.bangkokpost.com/n…/general/1151109/engine-failure)
แหม่ อย่างนี้คงต้องจดจารกันไว้ว่า ในยุคเปลี่ยนรัชกาล รัฐบาลของคณะรัฐประหารเป็นผู้ชำนัญการ ‘อัดฉีด’ ทั้งที่จาระบีก็กำลังจะขอดก้น
เพราะเกือบสามปีมานี่ยังไม่ได้ใส่เพิ่ม มีแต่ควักออกลูกเดียว
ooo
Foreign direct investment in South East Asia's second biggest economy. #Thailand pic.twitter.com/zLIP9lyXLm— Tom Felix Joehnk (@tfexj) December 5, 2016