วันพฤหัสบดี, ธันวาคม 22, 2559

คุณกาญจน์ วัฒนวรางกูร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ช่วยชี้แจงหน่อย... 'สตง.' พบพิรุธโครงการก่อสร้างสร้างสนามกีฬาจว. กกท. วงเงิน 2.2 หมื่นล. ไม่จัดประกวดราคาว่าจ้างเอกชน





ไม่จัดประกวดราคา ให้กรมทางหลวงรับงานตรง! สตง.พบพิรุธสนามกีฬาจว.2.2 หมื่นล.


21 ธันวาคม 2559
ที่มา สำนักข่าวอิศรา

'สตง.' พบพิรุธโครงการก่อสร้างสร้างสนามกีฬาจว. กกท. วงเงิน 2.2 หมื่นล. ไม่จัดประกวดราคาว่าจ้างเอกชน แต่ทำเอ็นโอยูให้กรมทางหลวง รับโดยตรง - ร่อนหนังสือถึง 'กอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร' รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา สอบด่วน!

โครงการก่อสร้างสนามกีฬาจังหวัด ของ การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) กำลังถูกจับตามอง เมื่อสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ตรวจสอบพบว่า กกท. ได้ทำบันทึกข้อตกลง (MOU) กับ กรมทางหลวง ให้เป็นผู้ดำเนินการก่อสร้างสนามกีฬาในจังหวัดต่างๆ โดยไม่นำงบประมาณที่ได้รับการจัดสรรไปดำเนินการจัดหาผู้รับจ้างให้เป็นไปตามกฎหมายหรือระเบียบราชการที่กำหนด

ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ตรวจสอบพบว่า เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2559 ที่ผ่านมา สตง. ได้ทำหนังสือถึง นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เพื่อแจ้งให้รับทราบการตรวจสอบโครงการก่อสร้างสนามกีฬาจังหวัดของ กกท. ที่ได้รับงบประมาณจัดสรรจำนวน 22,407 ล้านบาท รวมระยะเวลาดำเนินการ 6 ปี (2554-2559) พบว่า กกท. ไม่ดำเนินการจัดจ้างให้เป็นไปตามขั้นตอนเพื่อให้ได้ผู้รับจ้างและจัดทำสัญญาว่าจ้างให้เป็นไปด้วยชอบด้วยกฎหมายหรือระเบียบที่เกี่ยวข้อง แต่ไปทำบันทึกข้อตกลง (MOU) กับ กรมทางหลวง ให้เป็นผู้ดำเนินการก่อสร้างสนามกีฬาในจังหวัดต่างๆ ทั้งที่ กรมทางหลวง มีภารกิจหลักคือ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านทางหลวงหรือการก่อสร้างและบำรุงรักษาทางหลวง

ขณะที่จากการตรวจสอบข้อมูลพบว่า กรมทางหลวงได้มอบหมายให้หน่วยงานในสังกัดดำเนินการก่อสร้างในจังหวัดต่างๆ เช่น ศูนย์ทางหลวงลำปาง รับผิดชอบการก่อสร้างสนามกีฬาที่ ลำปาง สกลนคร สระแก้ว สมุทรปราการ นราธิวาส แต่กรมทางหลวงมีบุคลากรไม่เพียงพอ ทำให้งานก่อสร้างทุกแห่งล่าช้าไม่แล้วเสร็จตามเวลาที่กำหนด ซึ่งในบันทึกข้อตกลงไม่มีการเรียกค่าปรับจากการดำเนินการที่มีความล่าช้าไว้ด้วย

เบื้องต้น สตง.เห็นว่าการดำเนินการในลักษณะดังกล่าว ทั้งที่ มูลค่างานจ้างแต่ละแห่งเกิน 100 ล้านบาท อาจเป็นการหลีกเลี่ยงการตรวจสอบของ สตง. และอาจทำให้ราชการได้รับความเสียหาย และประชาชนเสียโอกาสเสียประโยชน์ จึงขอให้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กำชับหรือสั่งการตลอดจนกำกับดูแลให้ กกท.ดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบข้อบังคับ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องโดยเคร่งครัด และแจ้งผลการดำเนินการพร้อมทั้งสำเนาเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้องและรับรองสำเนาถูกต้องให้ สตง. รับทราบภายใน 30 วัน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้พยายามติดต่อ นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เพื่อให้ชี้แจงข้อเท็จจริงเรื่องนี้แล้ว แต่ไม่สามารถติดต่อได้