วันอังคาร, ธันวาคม 20, 2559

เห็นแล้วยัง เมื่อใดที่พวก คสช. และลิ่วล้อตะหาน ทำปากพะงาบๆ ว่า กฎหมาย กฎหมาย...ทีไรละก็ ความหมายแท้จริงคือ ‘กดขี่’





“๑๔.๐๐ น. คือเวลานัดหมาย แสดงพลังของ ๑ ใน ๓๖๐,๐๐๐ คน”

เป็นประกาศยุทธการ ‘blitzkrieg’ บุกทะลวงจู่โจมเว็บไซ้ท์ราชการไทยต่อไป ในสงครามไซเบอร์ของ พลเมืองต่อต้าน Single Gateway : Thailand Internet Firewall #opsinglegateway สำหรับวันนี้ (๒๐ ธ.ค.)

โดยไม่ระบุพิกัดไหน (จะแสดงเมื่อถึงเวลา) เพราะเป็น “งานหนัก งานใหญ่ ก็ปล่อย Boss และปล่อยให้รุ่นใหญ่จัดการ”

ส่วน ‘พลเมืองไซเบอร์เสรี’ ทั้งหลาย เขาบอกว่าการเตรียมตัวเรียนรู้การทำสงครามไซเบอร์อาจ ‘จำเป็น’ หากเวลาทอดยาวไปไกล “จากการที่พรรคพวกลุงตูบ ด้านและหนาตราช้าง”





แต่อย่างไรก็ตาม “นี่คือสงครามที่ไม่ได้เข้าพื้นที่ใช้กระสุนจริง ไม่ได้เสี่ยงถูกถ่ายรูป ถูกติดตาม ถูกคุกคามที่บ้าน”

ดังนั้น “โปรดเตรียมตัวติดอาวุธ ใส่เสื้อเกราะ (รับอาวุธและเสื้อเกราะได้ตามลิงค์ด้านล่าง) พวกเราต้องออกปกป้องเสรีภาพของตัวเราเช่นกัน นี่คือการแสดงออกถึงการต่อต้านการรัฐประหารออนไลน์...

รับเสื้อเกราะที่นี่
https://github.com/ThailandF5CyberA…/…/blob/master/README.md

รับอาวุธที่นี่
https://www.facebook.com/AnonThaiNewsV2/?fref=ts

ทั้งที่พลพรรคลุงตูบใช้ mindsets ครอบปัญญาด้วยวิธีคิดเดียวกัน “ผบ.ทบ. ชี้โซเชียลฯ อันตราย ปลุกต้านพรบ.คอมฯ ถ้าเชื่อกลายเป็นแนวร่วม ‘ทำลายชาติ’”





พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ยังยืนยันด้วยว่า “ในส่วนของกองทัพบก มีระบบควบคุมป้องกันดูแลการโจมตีเว็บไซต์ของกองทัพบกอยู่แล้ว”

(http://www.innnews.co.th/shownews/show?newscode=751441)





เช่นเดียวกับ รมช.กลาโหม พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร “ไม่มีปัญหาอะไร และขณะนี้เว็บของกระทรวงยังสามารถใช้การได้”

(http://www.matichon.co.th/news/400158)

ส่วน รมว. มหาดไทย พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ไปไกลกว่าใครหน่อยหนึ่ง “รัฐบาลควรมีมาตรการที่รัดกุม และมีกฎหมายที่รุนแรงกว่านี้”

(http://www.springnews.co.th/th/2016/12/10051/)





ส่วนหัวหน้าใหญ่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่ห่วงอะไรเหมือนกัน แถมบอกว่าไม่ต้องรับมือเสียด้วย เพราะมีกฎหมายไว้เล่นงานอยู่แล้ว

อย่างนี้ก็ต้องเป็นไปตามที่ #opsinglegateway เขาเปรยไว้แล้วกัน “ลองดู ถ้าลุงตู่ทนได้ ทนไป”

ใช่แล้ว คงต้อง ‘ลองดู’ ในเมื่อพลเมืองต่อต้านซิงเกิ้ลเกตเวย์จัดว่ามีลำหักลำโค่นพอฟัดกับนักรัฐประหาร คสช. เพราะอย่างน้อยๆ ก็มี Anonymous สากลเป็น Firewall

แต่ที่อาจจะทนไม่ได้ ทัดทานไม่ไหว ถ้าลุงตู่อยู่นานเป็นยี่สิบปี ก็คือสื่อไทย ทั้งสายเดี่ยวและสายหลัก เนื่องจาก

“ได้มีความพยายามเสนอขอแก้ไขเพิ่มเติมร่างเดิมของคณะกรรมาธิการ ให้มีเนื้อหาอันเป็นการสนับสนุนให้ภาคการเมืองและภาครัฐเข้ามาแทรกแซงการทำหน้าที่กำกับดูแลกันเองขององค์กรวิชาชีพสื่อมวลชนมากขึ้น

อาทิ การกำหนดให้คณะกรรมการสภาวิชาชีพสื่อมวลชนแห่งชาติ ประกอบด้วยผู้แทนระดับปลัดกระทรวงจากหน่วยงานของรัฐ และการเพิ่มอำนาจให้คณะกรรมการดังกล่าว”

(http://www.matichon.co.th/news/399936)

นั่นเป็นคำร้องครวญของ ๖ องค์กรวิชาชีพสื่อมวลชน ต่อกรรมาธิการของสภาปฏิรูป สปท. ในเนื้อหาของกฎหมายว่าด้วยการปฏิรูปสื่อ ที่ Atukkit Sawangsuk แซวเสียแสบว่า

“สมมั้ยล่ะ แส่ไปปฏิรูปกะทหาร ร่างวิมาน องค์กรสื่อคุมกันเอง มีที่ไหน

ทหาร-รัฐราชการ มีรึจะไม่อยากคุมสื่อ สุดท้ายก็โดนดัดหลังจนได้ ตั้งกรรมการออกใบอนุญาตประกอบวิชาชีพสื่อ ให้พวกปลัดกระทรวงมานั่ง เหมือน ๙ อรหันต์ กบว.เปี๊ยบ”

เห็นแล้วยัง เมื่อใดที่พวก คสช. และลิ่วล้อตะหาน ทำปากพะงาบๆ ว่า กฎหมาย กฎหมาย...ทีไรละก็ ความหมายแท้จริงตามลายลักษณ์มักเป็น ‘กดขี่’ บังคับตามอำเภอใจ คสช. สถานเดียวเสียละมากกว่า