✿ ขอชี้แจง เรื่องที่เจ้าหน้าที่ออกมาแถลงข่าวว่า จับ "แฮคเกอร์" ได้ 9 รายนั้น..
------------
(แถมมีการเอา "ปืน" มาโชว์ด้วย มันออกจะโอเวอร์ไปนิด เพราะ "แฮ็คเกอร์" ที่แท้จริงเขาไม่จำเป็นต้องใช้ปืน แต่เอามาโชว์นี่เหมือนว่าต้องการให้ดูว่าพวกนี้เลวร้าย ก็เหมือนคราวที่จับพวกเสื้อแดงว่าวางระเบิด โดยให้ใส่ชุดแดงมาโชว์เพื่อให้รู้ว่า นี่ "พวกเสื้อแดง" จริงๆ นะ อิ อิ สุดท้ายเรื่องก็เงียบไป
ที่จับได้เป็นพวกมือสมัครเล่น ขาเกรียน หรือวัยรุ่นทั่วไปที่เมามัน ที่ไปกด F5 หน้าเว็บของรัฐบาลจนล่มเท่านั้น ไม่ใช่การ "แฮ็ค"
.
แล้วก็มาบอกว่า พวกนี้คือ "แอนโนนีมัส" คือ "แฮ็คเกอร์" ที่เจาะเว็บรัฐบาล แถมเอาหนังสือวิธีการแฮ็คมาโชว์ให้ขำซะอีก
.
อย่าลืมว่า ผู้ที่สามารถถูกเรียกว่า "แฮกเกอร์" นั้น เขาไม่จำเป็นต้องมีหนังสือคู่มือพวกนี้ พวกเขาเก่งกว่าในหนังสือมากนัก เพราะอย่าลืมว่าเมื่อโดนแฮ็คบ่อยๆ หน่วยงานต่างๆ ก็ต้องสร้างกำแพงป้องกันใหม่ที่แข็งแกร่งขึ้นมาเรื่อยๆ ต้องอัพเดทตลอด ไม่ใช่แค่ในเพียงตำราเล่มเดียว พวกเขาก็เช่นกัน ต้องพยายามหาวิธีทำลายกำแพงเข้าไปให้ได้อยู่ตลอด
.
และคำว่า "แอนโนนีมัส" มันไม่ได้หมายความถึงแต่ "แฮ็คเกอร์" ในเมืองไทย แต่หมายถึงทั่วโลก พวกเขาติดต่อกันตลอด ให้ความร่วมมือช่วยเหลือกันเสมอ เพราะมีอุดมการณ์เดียวกัน คือต่อต้านรัฐบาลที่กดขี่ขมเหงประชาชน หากประเทศใดกดดันหรือบีบบังคับประชาชน หรือเข้ามาแทรกแซงในการสื่อสารข้อมูล พวกเขาก็จะร่วมกันต่อต้านรัฐนั้นๆ ไม่ว่าจะเป็นประเทศใด
.
กลุ่ม "แอนโนนีมัส" ในเมืองไทย หากจะแฮ็คหน่วยงานไหนพวกเขาก็มีเกราะป้องกันตัวหมด ไม่ว่าจะด้วยโปรแกรม ฮาร์ดแวร์ หรือแม้แต่พร็อกซี่ ไม่ใช่ดุ่ยๆ ตรงเข้าไปดื้อให้ตามจับตัวได้
.
ต่อให้สืบสาวไปเพื่อหาต้นตอ อาจพบว่าอยู่ในฟิลิปปินส์หรือประเทศใดประเทศหนึ่งก็ได้ ทั้งๆ ที่เขาอยู่ในประเทศไทยนี่เอง
.
ที่ออกมาแถลงกันก็เพื่อให้ประชาชนเกิดความเชื่อมั่นว่า แม้จะถูกแฮ็ค แต่เราก็ลากตัวมาได้นะ แต่พวกที่เอาตัวมานี่ไม่ใช่"ตัวจริง" หรอกครับ :)
.
การเอาหนังสือ "Network Security" ซึ่งคิดว่าเป็นหนังสือสอนการแฮ็คมาโชว์นั่นก็เพื่อเป็นการยืนยันว่า เจ้าพวกนี้คือ "แฮ็คเกอร์" จริงๆ นะ ไม่ได้โม้ อิ อิ
.
ถามจริง ไม่รู้หรือครับว่า หนังสือ "Network Security" เป็นหนังสือสอนเรื่องการป้องกันระบบเครือข่ายขั้นพื้นฐานเท่านั้น 555
.
แต่นั่นอาจจะทำให้หนังสือเล่มนั้นขายดีเป็นเทน้ำเทท่าก็เป็นได้ เพราะคนที่ไม่รู้คงตามหาซื้อกันจ้าละหวั่นไปหมด 555
.
อ้อ..แล้วพวกนี้เขาคงไม่โง่เก็บข้อมูลไว้ใน "ซีดี" หรือ "ฮาร์ดดิสก์" ให้จับได้หรอกนะครับ เพราะเดี๋ยวนี้เขามีระบบที่เรียกว่า "Cloud" ไว้ให้ฝากข้อมูลบนโลกออนไลน์เยอะแยะ ไม่จำเป็นต้องเก็บไว้กับตัวให้โดนจับได้
.
และที่เขาพูดกันว่า "ปาหินใส่บ้าน" ก็หมายถึงการไปรุมกด F5 รัวๆ เพื่อให้เว็บล่ม
.
ส่วน "การสะเดาะกุญแจบ้าน" ก็หมายถึง การเข้าไป "แฮ็คข้อมูล" ออกมาโชว์นี่แหละจ้ะ :) )
.
ลืมบอกไป ทีเด็ดสุดของงานนี้ก็ตามฟอร์ม คอมพิวเตอร์จะต้อง "สีแดง" เท่านั้น เคสคอมพ์ตัวนี้จึงต้องสีแดงด้วย ไม่งั้นคนจะไม่เห็นว่าพวกนี้เป็นพวก "เสื้อแดง" จริง 555
.
ซีดีที่เอามาโชว์นั่นก็เล่นเอา งง เพราะคอมพ์เครื่องนี้ไม่มีเครื่องเล่นซีดี ไม่มีแม้กระทั่งเครื่องเล่นซีดีที่ต่อจากภายนอก แล้วมันจะเอาซีดีไว้ทำไม อิ อิ
.
"จูกัดหลง ขงเบ้ง"
ที่มา FB
Yuthana Lorsamran จุดประกาย VR.2
ooo
ออกมาเถียงเลยพี่....
ที่มา FB
พลเมืองต่อต้าน Single Gateway : Thailand Internet Firewall #opsinglegateway
ผู้สื่อข่าวถามถึงกระแสข่าวว่า บุคคลที่ถูกจับกุมอาจเป็นการจับไม่ถูกตัว พล.อ.ประวิตร กล่าวย้อนว่า
......“ไม่ถูกได้อย่างไร เพราะมีปืน และเครื่องมือครบ ใครจะพูดอย่างไรก็พูดไป พูดแต่เรื่องไม่จริงพูดได้หมด”....กร๊ากกกกกก
ถามจริง พี่รู้เรื่องหรือเปล่า ว่า พวกกูกำลังพูดเรื่องอะไรกันอยู่
>>>>>>>>>>>>>>>>>>>
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กล่าวภายหลังประชุมครม.ถึงการเผยแพร่เอกสารว่า กองทัพเตรียมซื้อเครื่องถอดรหัสเอสเอสแอล ว่า ไม่ได้ซื้อ จะไปซื้ออะไร ยืนยันว่าไม่มีซื้อ
ส่วนการดำเนินการกับเพจที่มีการเผยแพร่ข้อมูลเอกสารดังกล่าว ก็ต้องทำตามกฎหมาย จับได้ก็จับ และตอนนี้ก็จับ แต่ไม่ได้บอกสื่อมวลชนเท่านั้นว่าจับใครไปบ้าง โดยหลังจากที่จับแฮ็กเกอร์ที่ก่อกวนระบบของหน่วยงานราชการและตำรวจนำตัวมาแถลงข่าวไปแล้ว 1 คนนั้น ยังมีบุคคลที่อยู่ในข่ายอีก ซึ่งต้องใช้เวลาในการสอบสวนก่อน ขณะนี้ควรปล่อยให้เจ้าหน้าที่ทำงานก่อนอย่าเพิ่งไปกดดัน
ผู้สื่อข่าวถามถึงกระแสข่าวว่า บุคคลที่ถูกจับกุมอาจเป็นการจับไม่ถูกตัว พล.อ.ประวิตร กล่าวย้อนว่า “ไม่ถูกได้อย่างไร เพราะมีปืน และเครื่องมือครบ ใครจะพูดอย่างไรก็พูดไป พูดแต่เรื่องไม่จริงพูดได้หมด”
https://www.khaosod.co.th/breaking-news/news_161715
ooo