เรือดำน้ำอีกที รวมความว่ายังงัยต้องซื้อ เพราะมันดีไปเสียหมดทุกอย่าง

เรือดำน้ำอีกที รวมความว่ายังงัยต้องซื้อ เพราะมันดีไปเสียหมดทุกอย่าง

“ผู้บัญชาการทหารเรือมั่นใจว่า การจัดซื้อเรือดำน้ำครั้งนี้ถือว่าคุ้มค่ามากที่สุด โดยจะใช้วิธีการจัดซื้อแบบจีทูจี และผูกพันงบประมาณ ๗- ๑๐ ปี”

เห็นไหมล่ะ ข้อแรกไม่ต้องจ่ายงวดเดียว งวดหลังๆ ต่อไป ให้ลูกหลานจ่าย

แต่มีคนเขาคิดใกล้ คิดลึก คิดเลขน่ะ อันนี้ไม่ต้องผ่อนส่ง จ่ายก่อน up front ก็ได้ ข้อนี้สำคัญกว่า มั้ง

“๑๐% ของ ๓ หมื่น ๖ พันล้าน ก็แค่ ๓ พัน ๖ ร้อยล้านเอง ถ้า ๒๐% ก็แค่ ๗ พัน ๒ ร้อยล้านเอง..จิ๊บๆ โปร่งใสห้ามตรวจสอบ”

แต่เดี๋ยวก่อน ต้องฟังความให้สุดกระบวน เรื่องตัวเลขยังไม่รู้ ดูเรื่องยุทธศาสตร์กันหน่อยปะไร

ทั่น ผบ.ทร. บอกด้วยว่า ““เราออกไปได้ทุกที่ เมื่อดำไปแล้วก็ไม่รู้ว่าไปไหน เหมือนบอกว่ามีงูในสนาม คนก็ไม่กล้าเดินลัดสนาม หรือบอกว่าบ้านนี้มีสุนัขดุเฝ้าบ้าน ขโมยก็ไม่ค่อยกล้าเข้ามา เรือดำน้ำจึงเป็นอาวุธเชิงป้องปราม เป็นอาวุธสมัยใหม่”

(http://bit.ly/1COTFsh)

อุต๊ะตรรกะตะหานเรือ เฉียบคมเหลือหลาย มีงูไว้เฝ้าสนาม ตานี้มาดูเรื่องสเป็คซิว่าเป็นแค่งูหรือพญานาค

งานนี้ต้อง Paisal Puechmongkol พธม. เหลืองหลิ่ม กปปส. บลูสกาย sympathizer ตัวเจ๋งจัดให้ ที่เอาความเห็น พล.ท.มหิศร เกษมสันต์ อดีตฝ่ายเสนาธิการของพล.อ. พัฒน์ อัคนิบุตร อดีตรอง ผบ.สูงสุด มาแพลมไว้

“รู้สึกว่าเรือที่จีนเขาจะขายให้เรานั้นเป็นรุ่นทันสมัยที่สุดของเขา เรียกว่า State of the Art ทีเดียว...เรียกว่าจีนเขาแสดงความจริงใจชนิดเทหมดหน้าตัก ไม่รู้ว่ามีเจตนาที่จะวัดใจเราด้วยหรือเปล่า เพราะอย่างที่จีนเสนอให้นี้ผมไม่เคยเห็นฝรั่งหน้าไหนให้ใคร”

อูย ว้าว ขนลุก วาบหวามใจ “เพราะกองทัพเรือสหรัฐฯเพิ่งเปิดเผยว่าขณะนี้ภัยคุกคามกองเรือรบที่สหรัฐฯกังวลมากที่สุดคือเรือดำน้ำดีเซลไฟฟ้าของจีนและรัสเซีย เพราะเงียบมาก”

ไม่แต่เท่านั้น ทั่นอดีต เสธ. ของอดีตรอง ผบ.สส. เสริมเรื่องยุทธศาสตร์เพิ่มอีกประเด็น

“ผมว่าในยุคปัจจุบันที่มหาอำนาจตะวันตกกำลังหวนกลับมาบีบเราเหมือนยุค ร.ศ.๑๑๒ การซื้อยุทโธปกรณ์จากสหรัฐฯและอียูเสี่ยงต่อการเสียเงินแล้วไม่ได้ของ 'เพราะเขาไม่พอใจเรื่องภายในประเทศของเรา' รัสเซียเพิ่งโดนมา จ่ายเงินครบเพื่อซื้อเรือจากฝรั่งเศสสองลำ เกิดวิกฤตยูเครน สหรัฐฯสั่งฝรั่งเศสไม่ให้ส่งมอบ ไอ้เศสก็ยังไม่ยอมคืนเงิน ซ้ำร้ายจะเอาเรือที่รัสเซียจ่ายเงินแล้วไปขายให้ชาติอื่นอีก”

แหม่ ไอ้เศสเนี่ยให้ไอ้กันสั่งได้ง่ายๆ เลยเนอะ

เอาละ ไปดูสเป็คทีเด็ด state-of-the-art ให้มันชัดแจ่มเสียเลยดีกว่า

“พลเรือเอกไกรสร จันทร์สุวานิชย์ ผู้บัญชาการทหารเรือระบุวานนี้ (๒ ก.ค. ๒๕๕๘)...มีแผนจัดซื้อ ๓ ลำ และมีรายงานว่าเป็น รุ่น Yuan Class S26T ที่มีขนาดระวางขับน้ำ ๒,๖๐๐ ตัน จะต้องใช้งบประมาณ ๓.๖ หมื่นล้านบาท” (confirmed)

แต่ที่คุณ Pipob Udomittipong แกไปเจอมาจากสื่อไต้หวันได้ความว่า

“เรือดำน้ำที่กองทัพเรือเสนอซื้อ ๓๖,๐๐๐ ล้านจะเป็นรุ่น Type 039B submarine ซึ่งจีนไม่เคยขายให้ใครมาก่อน ปรกติจีนจะขายรุ่น S20 หรือ 039A ดังนั้นไทยจะเป็นประเทศแรกในโลกที่ได้ทดลองเรือดำน้ำรุ่นใหม่ที่สร้างในจีนทั้งลำ โดยใช้เทคโนโลยีของฝรั่งเศสและเยอรมันรวมกัน

รายงานข่าวยังระบุด้วยว่า กองทัพเรือไทยเคยเสนอซื้อเรือดำน้ำจากเยอรมันมาแล้ว สมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ช่วงปลายปี ๕๔ (ตอนนั้นเสนอซื้อแค่ ๗,๗๐๐ ล้านบาท) แต่แห้ว รัฐบาลไม่อนุมัติ “พอทหารทำรัฐประหารกำจัดรัฐบาลชินวัตรได้เมื่อปีที่แล้ว โครงการจัดซื้อเรือดำน้ำจึงฟื้นคืนชีพขึ้นมาอีก” สำนักข่าวไต้หวันรายงานว่าอย่างนั้น”

(นี่ลิ้งค์ที่คุณพิภพแกให้ไว้ตรวจสอบข้อมูลกันhttp://www.wantchinatimes.com/news-subclass-cnt.aspx… รายละเอียดของเรือดำน้ำ PLA Type 039B submarine
http://www.wantchinatimes.com/news-subclass-cnt.aspx…)

อ้าว state-of-the-art จะเป็น deal of a decade ด้วยไหมเนี่ย

มีคนเขาท้วงแล้วนะ เสียงจิ้งจก ตุ๊กแก น่ะ โบราณว่าน่าจะเงี่ยฟัง

อย่างคุณ Phranay Kittikronwanit ตั้งข้อสังเกตุไว้น่าคิด เปรียบกับเรือรบหลวงจักรีนฤเบศวร์ ว่า

“นี้คือตัวอย่างของการที่ซื้อเรือมาแพงๆ แล้วซื้อมาทำไมก็ไม่รู้ ผมไม่เคยได้ยินชื่อเรือลำนี้ออกทำภารกิจใดๆเหรยตั้งแต่ซื้อมา แม้นแต่ไปไล่ล่าโจรสลัดก็ยังให้กองเรือฟรีเกตุไปทำเหรย เรือลำนี้ผมเห็นมีแต่คนขึ้นไปดูถ่ายรูปและขายของที่ระลึก อีกไม่กี่ปีก็จะถูกปลดระหว่างแล้ว”

และนี่จากสื่อสายหลัก ‘ลม เปลี่ยนทิศ’ คอลัมนิสต์ชื่อกระฉ่อนค่ายสิ่งพิมพ์แถววิภาวดี ต๊ะไว้หลายเดือนแระ ตั้งแต่เริ่มมีข่าวรื้อฟื้นซื้อเรือดำน้ำกันใหม่ๆ

“คำถามก็คือ กองทัพเรือจะซื้อเรือดำน้ำไปรบกับใคร

ถ้าบอกว่าซื้อมาปกป้องทรัพยากรธรรมชาติในอ่าวไทย ก็คงจะแปลกอีก เพราะน้ำทะเลในอ่าวไทยมีความลึกเพียง ๘๐ กว่าเมตรเท่านั้น ถือว่าตื้นมาก เหมาะสำหรับ ‘เรือดำน้ำท่องเที่ยว’ แต่ไม่เหมาะกับเรือดำน้ำที่เป็นเรือรบ ระดับน้ำแค่นี้ ต่อให้เรือดำน้ำดำลงไปจอดที่ก้นทะเลอ่าวไทย เครื่องบินข้าศึกก็มองเห็นหมด ทิ้งระเบิดใส่ได้สบาย”

อีกรายจากสำนักเดิม ที่ติงประเด็น ‘ตื้นลึก’ คล้ายคลึงกัน ‘แม่ลูกจันทร์’ แห่งสำนักข่าวหัวเขียว เอ่ยถึงคำทั่นรองฯ ฝ่ายกลาโหม ที่ว่าเรือดำน้ำ “จำเป็นต้องมี”

แล้วหวนไปคิดถึงเมื่อคราว ๔ ธันวาคม ๒๕๕๐ ซึ่งพระเจ้าอยู่หัวทรงรับสั่งว่า

“สภาพทะเลอ่าวไทยเป็นทะเลตื้น เรือดำน้ำถ้าดำลงไปก็ปักเลนเลย ส่วนทะเลลึกที่ใช้เรือดำน้ำได้ ก็อยู่นอกเขตประเทศไทย”