วันก่อน ’ยกฯเล็ก (Lord Mayor) บอกให้ช่วยกันภาวนาขอฝน
วันวาน ’ยกฯใหญ่ (Lord of the ลุง) ยืนยันแล้วว่าได้ผล ‘สวดมนต์ขอพระพิรุณ’
เมื่อคืนฝนตกลงมาห่าย่อย ไม่มากไม่น้อย ช่วยชุบความหวัง (อุตุฯ บอกบางกอกตก ๔๐ เปอร์เซ็นต์)
คงจะยังไม่ถึงกับต้อง (ควักมาตรา ๔๔ ออกมาใช้เพื่อ) เอาปลาเที่ยวแจกชาวบ้าน กันหร้อก
เดี๋ยวนี้อะไรๆ ก็ใช้ ม.๔๔ เป็นสูตรสำเร็จ ตั้งแต่ขี้หมูราขี้หมาแห้งไปจนถึงขี้ไก่ไม่ฝ่อ
อย่างเรื่องการศึกษาไม่ดี ทั่นหัวหน้ามนตรีช่วยชาติคิดจะงัด ม.๔๔ มาใช้
(http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1436527994)
ส่วนเรื่อง ๒๒ นักปฏิรูป (ก่อนเลือกตั้ง) ดี๊ด๊าสรรหาล้ำหน้า รอเสียบ คปก. (คณะกรรมการปฏิรูปกฎหมาย) ก่อนถึงเวลารัฐธรรมนูญใหม่
ทั่นผู้ณรรมก็ใช้ ม.๔๔ นี่แหละฟันฉับ เลยต้องพากันหน้าหงาย
(http://prachatai.org/journal/2015/07/60377)
แต่ว่าเรื่องที่ สปช. อดีตแม่ทัพภาคสองปูดเรื่อยเปื่อย มโนล้วนๆ ว่ามีสองพรรคการเมืองใหญ่รวมหัวกันลงขันจัดป่วนใต้
"ข้อมูลจากหน่วยข่าวกรองระบุว่าอาจมีการก่อเหตุระเบิดในพื้นที่ ๓ จังหวัดชายแดนภาคใต้ในวันที่ ๑๕-๑๗ กรกฎาคมนี้ ซึ่งตนทราบดีว่ามีกลุ่มที่จะก่อความไม่สงบอยู่กลุ่มใหญ่ๆ ประกอบด้วยกลุ่มค้ายาเสพติด กลุ่มค้าน้ำมันเถื่อน กลุ่มก่อการร้ายและกลุ่มการเมือง ซึ่งสาเหตุหลักของสถานการณ์รุนแรงในขณะนี้มาจากกลุ่มการเมืองที่ต้องการเคลื่อนไหว เพราะหากมีความรุนแรง งบประมาณที่ลงไปในพื้นที่ก็มากขึ้น โดยมีพรรคการเมือง ๒ พรรคเป็นผู้สนับสนุนทุนทรัพย์ลงขันกัน และเตรียมจัดตั้งแกนนำรวบรวมคนในอัตรา ๑ ต่อ ๑๐๐ คน ซึ่งจะรวบรวมให้ได้อย่างน้อย ๑ ล้านคน โดยมีประชาชนจากภาคใต้เป็นกองหน้าและกองหลัง ส่วนประชาชนจากภาคอีสานเป็นกองกลาง เพื่อเข้ามาชุมนุมโค่นล้มรัฐบาลในกรุงเทพฯ”
(http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1436848592)
กลายเป็นแค่ ‘ข่าวกลอง’ ตีประโคม หลังจากทั้ง ผบ. สูงสุด และหัวหน้า คสช. ต้องออกมาปฏิเสธพัลวัน
อย่างนี้น่าใช้ ม.๔๔ ยับยั้งพวก สปช. ที่เตรียมการขยับเข้าไปอยู่ในสภาขับเคลื่อนฯ บ้างนะ แว่วว่าพวก สปช. พ่อลูก-เมียผัว วิ่งเต้นฝุ่นตลบกันมาหลายเดือน
นี่ไม่ได้หนุนให้ใช้ ม.๔๔ เป็นสรณะในการบริหารราชการเลยสักนิด ไม่ว่าจะใช้อย่างสร้างสรร หรือตะบันใช้แบบที่ ‘มักง่าย’ ทำกันอยู่
เห็นทั่น ‘ลอร์ด ออฟ เดอะ ลุง’ ชอบทวงบุณคุณหนักหนาว่าเข้ามาปราบยุคเข็ญ มองไม่เห็นใครทำได้ ประเด็นแท้จริงอยู่ที่เวลาล่วงเลยมาปีกว่า ไม่เห็นทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันมากกว่า
เอาแต่ตีหัวหมอ (ความ) ด่าแม่เด็ก (ดาวดิน) จนน้ำเต้าน้อย (ไตแลนเดีย) ถอยลงคลองเกือบถึงก้นแล้ว
ถ้าทำแบบ ‘มัก’ ง่ายๆ อย่างนี้ โดยเฉพาะที่เอะอะก็มาตรา ๔๔ นี่น่ะ ไม่ทำจะดีกว่าเยอะเลย
แม้นว่า อ้างนักอ้างหนากับโร้ดแม็พ จะไปให้สุดเส้นทาง (สืบอำนาจ) โดยที่ขณะนี้จัดการแก้รัฐธรรมนูญชั่วคราว ’๕๗ ให้จัดทำประชามติรับร่าง รธน. ฉบับ ‘ลองของ’ เตะตัดขาประชาธิปไตยไว้เรียบร้อย
ทั้งนี้มีรายละเอียดควรใส่ใจประเด็นที่เขาเตรียมไว้รองรับการเปลี่ยนผ่าน จากรัฐบาลเผด็จการเพื่อประชาธิปไตย ไปสู่รัฐบาลประชาธิปไตยเพื่อเผด็จการ สองสามข้อดังนี้
“แก้วาระดำรงตำแหน่งของสมาชิกสภาปฏิรูป (สปช.) ทั้ง ๒๕๐ คน ว่าเมื่อลงมติเห็นชอบหรือไม่เห็นชอบร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่แล้ว ให้มี ‘กรรมการขับเคลื่อนการปฏิรูป’ จำนวน ๒๐๐ คน ขึ้นมาทำหน้าที่แทน...
แก้กรณี กมธ.ยกร่างฯ ทั้ง ๓๖ คน สิ้นสุดลง ไม่ว่า สปช.จะไม่เห็นชอบร่างรัฐธรมนูญ หรือประชามติไม่เห็นชอบร่างรัฐธรรมนูญ ก็จะมี ‘กรรมการร่างรัฐธรรมนูญ’ จำนวน ๒๑ คน ขึ้นมาทำหน้าที่ร่างรัฐธรรมนูญภายใน ๖ เดือน...และ
แก้เรื่องการถวายสัตย์ปฏิญญาณจากเดิมที่กำหนดว่าจะต้องกระทำต่อหน้าพระพักตร์ เป็นกระทำต่อพระมหากษัตริย์หรือผู้ที่ทรงโปรดเกล้าฯ ให้เป็นผู้แทนพระองค์ หรือรัชทายาทที่ทรงบรรลุนิติภาวะแล้ว”
อ๊ะ ทีอย่างนี้ไม่ยักมักง่าย
(ขอบคุณคำอธิบายของ บก.ฟ้าเดียวกัน Thanapol Eawsakul จากเนื้อหาข่าวการแก้ไข รธน. ชั่วคราวของ http://thaipublica.org/2015/06/ncpo-watch-20/)