ที่มา เฟสบุ๊คบีบีซีไทย
ถาม ทำไมถึงคัดค้านเรื่องนิรโทษกรรม ไม่มองหรือว่าจะเป็นเรื่องดีที่จะนำไปสู่การปรองดอง
ตอบ การนิรโทษกรรม จะทำให้เกิดการกระทำความผิดที่ซ้ำซาก และส่วนตัวไม่ต้องการให้เกิดการรัฐประหารซ้ำซาก แล้วถ้าประเทศไทยมีประชาธิปไตยแข็งแรงเหมือนหลายๆประเทศในอเมริกาใต้ เมื่อมีรัฐบาลประชาธิปไตยแล้ว เขาก็แก้กฎหมายนิรโทษกรรมและลงโทษคนที่ทำรัฐประหารละเมิดสิทธิมนุษยชน แต่เราไม่แน่ใจว่า ท้ายที่สุดประเทศไทยเมื่อมีรัฐบาลที่เป็นประชาธิปไตย แล้วมันจะเกิดอะไรขึ้น รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งจะทำแบบนั้นหรือเปล่า เพราะส่วนใหญ่สังคมไทยเป็นเรื่องของการประสานผลประโยชน์ เราก็ไม่แน่ใจว่าเขาจะทำแบบในอเมริกาใต้ไหม
ส่วนคำว่าปรองดอง ต้องปรองดองแบบรู้ด้วยว่าอะไรคือสิ่งที่ถูกอะไรคือสิ่งที่ผิด ถ้าเราปรองดองโดยที่ยกโทษให้คนทำผิด เช่น สมมุติเราคิดว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีทำผิด แล้วเราบอกว่าให้ปรองดอง ให้นิรโทษกรรมให้ทักษิณ คนก็จะรู้สึกไม่มีความสุข กรณี คสช. ก็เช่นเดียวกัน จะปรองดอง หรือให้อภัยก็ทำได้ แต่ถ้าจะบอกว่าสิ่งที่ผิดนั้นมันไม่ผิด โดยการทำนิรโทษกรรม เราก็ไม่เห็นด้วย
ถาม หมายความว่า จะเห็นด้วยกับการนิรโทษกรรม ก็ต่อเมื่อต้องพิสูจน์ว่าใครมีความผิดอะไรก่อน
ตอบ ข้อแรกคือ ต้องยอมรับก่อนว่ามีการนิรโทษกรรมตัวเองตามรัฐธรรมนูญชั่วคราวมาตรา 48 คือคุณก็ต้องยอมรับว่าสิ่งที่คุณทำ มันไม่ใช่สิ่งที่ปกติ ไม่ใช่สิ่งที่ทำแล้วอยากจะทำอีก หรือควรจะทำอีก หรือเป็นสิ่งที่ดีงาม นี่คือการพูดถึงการรัฐประหารที่ผ่านไปแล้ว และเราเกรงว่าต่อไปในอนาคต ถ้ามันมีปัญหาอะไรอีก แล้วคุณก็มีการนิรโทษกรรมรอเอาไว้ ให้บรรดาการกระทำใดๆ ของ คสช. ได้รับการนิรโทษกรรมไปด้วย ไม่ใช่แค่การรัฐประหาร อันนี้ก็จะทำให้เกิดปัญหาอื่นๆ ตามมา เช่น สมมุติว่าชาวบ้านถูกไล่รื้อ จากป่าสงวนแล้วถูกทำร้าย แล้วคุณบอกว่าทำตามคำสั่ง คสช. มีนิรโทษกรรมในรัฐธรรมนูญแล้ว แบบนี้สังคมก็ไม่มีความสุข หรืออาจจะมีใครฉวยโอกาสใช้อำนาจ อย่างที่มีข่าวว่า มีคนในเครื่องแบบไปเรียกรับผลประโยชน์เป็นต้น
คือเราต้องเข้าใจว่า เจตนารมณ์อาจจะไม่ได้ออกกฎหมายนิรโทษกรรมเพื่อให้คนไปทำอะไรตามอำเภอใจ แต่เราแน่ใจหรือว่า เราควบคุมทุกคนให้ทำตามคำสั่ง คสช. ได้ แล้วมันก็เคยมีกรณีที่ ช่วงนี้คนในเครื่องแบบมีอำนาจ เขาก็ไปใช้อำนาจในทางที่ผิด หรือบางคนแอบอ้าง บางคนก็จะเข้าใจว่ามีการนิรโทษกรรมแล้ว ถึงไปทำอะไรแบบนี้ก็ไม่ต้องรับผิดรับโทษ ก็เกิดความคึกคะนอง
ถาม คิดว่า หลังจากออกมาชูป้ายวันนี้แล้วจะเกิด อะไรขึ้นกับตัวเองหรือไม่
ตอบ อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด เพราะว่าโดยส่วนตัวเราไม่คิดว่าการกระทำแบบนี้เป็นการกระทำที่ผิด แต่ถ้า คสช. บอกว่าผิด แล้วเขาจะทำอย่างไรต่อไป จะให้ติดคุก หรือขึ้นศาลทหาร คนก็โดนเยอะแล้ว เราจะไม่ใช่คนแรกและคนสุดท้ายที่โดน อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด คือโดยส่วนตัว ถามว่ายอมรับไหมกับการใช้อำนาจแบบนั้น ก็ไม่ยอมรับ แต่ปืนมันจ่อหัวอยู่ จะให้ทำอย่างไรได้
ถาม เตรียมตัวอย่างไร หากเกิดอะไรขึ้นกับตัวเอง
ตอบ ก็คุยกับครอบครัวไว้ว่า ถ้าเกิดอะไรขึ้น ก็ไม่ต้องสนใจ ได้เตรียมคุยกับทนายความไว้ด้วย คือเลือกทนายความไว้แล้ว อย่างเช่นคืนนี้ ถ้าไม่ติดต่อกลับไปที่เพื่อนสนิท เพื่อนก็จะติดต่อทนายความให้ นอกจากนั้น ยังมีกระบวนการจับตาสถานการณ์สิทธิมนุษยชนทั้งในและต่างประเทศ
เรารู้สึกว่าออกมาประท้วงบ้างก็เป็นสิ่งที่ดีนะ คือถ้าประท้วงไม่ได้เลยหรือประท้วงแล้วแอบถูกจับลับหลัง คุณอย่าคิดว่าไม่มีใครรู้ เพราะเดี๋ยวนี้มันมีการสื่อสารหลายอย่าง
การประท้วงบ้างนิดๆ หน่อยๆ 4-5 คน ถ้าเขายอมได้ ก็เป็นเครื่องแสดงว่ายังไม่เผด็จการเต็มรูปแบบ ยังดีกว่ายืนประท้วงคนเดียว ถือกระดาษA4 ไม่มีอะไรเลยแล้วถูกจับ มันเป็นบรรยากาศที่แย่