วันเสาร์, มิถุนายน 07, 2557

ฐานะ การเมือง หลังรัฐประหาร 2557 พรรคการเมือง


ที่มา มติชนออนไลน์

มีข่าวว่า "คณะทำงาน" คสช.กำลังเร่งศึกษา "ข้อกฎหมาย" เพื่อนำไปสู่การยุบเลิกพรรคการเมืองที่มีอยู่มากกว่า 50 พรรค

เหตุผลเพราะว่า "รัฐธรรมนูญ" ถูก"ยกเลิก" ไปแล้ว

เมื่อรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2550 ถูกยกเลิกเว้นแต่หมวด 2 ว่าด้วยพระมหากษัตริย์ กลไกต่างๆ อันมาตามรัฐธรรมนูญก็ต้องถูกยกเลิกตามไปด้วย

เหมือนกับที่เคยทำกันมาแต่กาลอดีต

ความจริง ถึง คสช.ไม่ยุบเลิกพรรคการเมือง บทบาทของพรรคการเมืองเหล่านั้นก็แทบไม่มีความหมายอะไรเหลืออยู่ในทางเป็นจริง

จะ "ประชุม" กันก็เป็นไปได้ยาก

จะประชุมได้อย่างไรในเมื่อบ้านเมืองอยู่ภายใต้กฎอัยการศึกและมีคำสั่งห้ามการชุมนุมกันเกิน 5 คน

พรรคการเมืองต่างๆ จึงได้นั่งทำตาปริบๆ

การยึดอำนาจโดย คสช.เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม จึงส่งผลสะเทือนอย่างลึกซึ้งไม่เพียงแต่ต่อนักการเมือง หากยังตกกระทบไปยังพรรคการเมืองด้วย

นักการเมืองหน้าเก่า พรรคการเมืองพรรคเก่า

หลายนักการเมืองไม่ว่าจะอยู่ในพรรคเพื่อไทย ไม่ว่าจะอยู่ในพรรคชาติไทยพัฒนา ไม่ว่าจะอยู่ในพรรคชาติพัฒนา ดำเนินหลักการตามสำนวนไทยที่ว่า

"อดเปรี้ยวไว้กินหวาน"

เพราะเมื่อควันจากการรัฐประหารผ่านพ้นไป เส้นทางที่จะเดินคือเส้นทางสู่ประชาธิปไตย ซึ่งจะต้องมีการเลือกตั้ง

นักการเมืองในแต่ละพรรคก็จะต้องหวนคืนมา

เป็นการหวนคืนมาตามเสียงปี่เสียงกลอง ไม่ว่าจะเมื่อหลังรัฐประหาร 2520 ไม่ว่าจะเมื่อหลังรัฐประหาร 2534 ไม่ว่าจะเมื่อหลังรัฐประหาร 2549

หลังรัฐประหาร 2557 ก็จักต้องเป็นเช่นนี้

พรรคการเมืองอย่างพรรคเพื่อไทย พรรคชาติไทยพัฒนา พรรคชาติพัฒนา พรรคพลังชล อาจจะหวัง "ลึก-ลึก"

ไม่กล้าแสดงออกเหมือนปลากระดี่ได้น้ำ

ขณะที่พรรคการเมืองอย่างพรรคประชาธิปัตย์อาจจะไม่ปิดบังอำพราง เพราะคิดและประเมินว่าการตัดสินใจทำรัฐประหารของ คสช.พวกของตนมีส่วนด้วยอย่างเต็มพิกัด ไม่ว่าจะทำผ่าน กปปส. ไม่ว่าจะแสดงออกโดยพรรคประชาธิปัตย์ ย่อมได้เสพเสวยความสำเร็จนี้ไปด้วย

จะเป็นอย่างนั้นจริงละหรือ

พรรคอย่างพรรคเพื่อไทย หากย้อนหวนทวนไปยังพรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชน ก็ยับเยินมาตั้งแต่รัฐประหาร 2549 แล้ว

พรรคชาติไทยพัฒนา พรรคชาติพัฒนา ก็ร่อแร่ตั้งแต่รัฐธรรมนูญ 2540 มาแล้ว

ที่เหลืออยู่ก็เสมอเป็นเพียงพรรคระดับจังหวัด ไม่สามารถเป็นพรรคระดับ "ภูมิภาค"ด้วยซ้ำไป

แล้วพรรคประชาธิปัตย์เล่า อนาคตจะเป็นอย่างไร

ความจริงตั้งแต่รัฐธรรมนูญ 2540 พรรคประชาธิปัตย์ก็มีสถานะเสมอเป็นเพียงพรรคระดับ "ภูมิภาค" เท่านั้น

เมื่อ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ สถาปนา กปปส.ขึ้นก็ทำนายไม่ยาก

ถามว่าอนาคตของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยเป็นอย่างไร อนาคตของ กปปส.ก็จะดำเนินไปอย่างนั้น

ตรงนี้ย่อมสะเทือนไปถึงพรรคประชาธิปัตย์ด้วย

ยากเป็นอย่างยิ่งที่พรรคประชาธิปัตย์จะอธิบายเหตุผลในการบอยคอตการเลือกตั้ง ยากเป็นอย่างยิ่งที่ กปปส.จะอธิบายเหตุผลในการสกัดขัดขวางการเลือกตั้ง และรวมถึงสถานการณ์วุ่นวายตลอด 6 เดือนจากพฤศจิกายน 2556 ถึงพฤษภาคม 2557

ถึงไม่ "ยกเลิก" พรรคการเมืองเหล่านี้ก็ "เดี้ยง" ไปตามๆ กันอยู่แล้ว

ความเป็นจริงทางการเมืองที่มิอาจปัดปฏิเสธได้อย่างเด็ดขาด คือ ลักษณะอันเป็นความต่อเนื่อง

1 ความต่อเนื่องของรัฐประหาร 2549 กับ รัฐประหาร 2557 ขณะเดียวกัน 1 ความต่อเนื่องของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยกับ กปปส.

นี่คือสถานการณ์ "ระเบิดเปรี้ยง" ในทาง "การเมือง"