วันพุธ, กรกฎาคม 17, 2567

ดูทรงแล้วไทยมีแนวโน้มจะบ้างานต่อไป มีคนเอาข้อมูลมาให้ดู ก่อนอื่นต้องเข้าใจให้ตรงกันก่อน ว่า hard work ไม่ได้ทำให้ productivity มากขึ้น ทำงานไปสักพักสมองก็ล้าแล้ว จะเอาอะไรมา productive เหมือนเดิม แล้วยังจะบ้างาน ?

https://www.facebook.com/supa.love.1/posts/8265170766826878?ref=embed_post
Suphalak Bumroongkit
7 hours ago
·
เอาข้อมูลมาให้ดูบ้าง แต่ก่อนอื่นผมว่าเราต้องเข้าใจให้ตรงกันก่อน ว่า hard work ไม่ได้ทำให้ productivity มากขึ้น ทำงานไปสักพักสมองก็ล้าแล้ว จะเอาอะไรมาproductiveเหมือนเดิม (law of diminishing return) แรงงานหรือเจ้าของกิจการก็เจอเหมือนกันตราบใดที่คุณยังเป็นมนุษย์ อย่าไปฟัง Elon Musk เยอะ ดู Jeff Bezos เป็นตัวอย่างก็ได้ เขาบอกว่าหลัง 5 โมง สมองบวมตัดสินใจอะไรไม่ได้แล้ว เลิกงานพักผ่อนพรุ่งนี้10โมงเอาใหม่ (บางทีทำงานน้อยลง แต่outputมากขึ้นด้วยซ้ำ เช่นผลการศึกษาในไอซ์แลนด์กับอังกฤษ เขาถึงผลักดันทำงาน 4 วันต่อสัปดาห์กันไง)
รูปแรก จะเห็นว่า ประเทศที่รวยแล้ว แต่ยังทำงานหนัก เช่น ชาวเอเชียตะวันออก ผลิตภาพต่อชั่วโมงต่ำกว่าประเทศที่ทำงานชิลเยอะเลย เกาหลี ฮ่องกง ไต้หวัน สิงโป มีผลิตภาพต่อชั่วโมงต่อกว่าเยอรมัน ฝรั่งเศส อยู่ประมาณ 30-40% แม้ว่ารายได้ต่อหัวจะพอๆกันก็ตาม สิงโปที่มีผลิตภาพเยอะที่สุดในเอเชียแล้ว ก็ยังพอๆกับอังกฤษที่ชั่วโมงการทำงานต่ำกว่าถึง 30%
ทีนี้มาดู Timeline กัน จาก รูป 2 เริ่มตั้งแต่ 1950 ถึง 2019 เมื่อรวยขึ้นแล้ว เขาทำงานหนักกันต่อไหม
บางประเทศทำงานหนักก่อนจริง แล้วลดลงมาจนต่ำมากๆ อดเปรี้ยวไว้กินหวาน เช่น เยอรมนี
บางประเทศทำงานชิลมาแต่แรก แล้วก็ชิลกว่าเดิมไปอีก เช่น นอร์ดิก เนเธอร์แลนด์
บางประเทศตอนแรกทำงานชิล แต่ลดลงนิดเดียวจนคนอื่นแซงไปไกลแล้ว เช่น เมกา อังกฤษ
บางประเทศหนักกว่าคนอื่นอยู่แล้ว ยิ่งหนักเข้าไปอีก นั่นคือ อินเดีย
บางประเทศทำงานหนักแต่แรก รวยแล้วก็ยังบ้างานต่อไป ทำแล้วทำอยู่ทำต่อ เช่น ชาวเอเชียตะวันออก สิงโป เกาหลี ฮ่องกง ไต้หวัน
ประเด็นมันอยู่ที่กลุ่มสุดท้ายนี่แหละ ดูทรงแล้วไทยมีแนวโน้มจะบ้างานต่อไปแบบเกาหลี สิงโป บางคนบอกว่า ทำงานหนักตอนนี้ ค่อยไปผ่อนวันหน้า แต่แล้ว "วันหน้า" มันจะมาถึงเมื่อไร หรือเราจะต้องทำงานหนักไปเรื่อยๆแบบสิงโป? ทำงานหนักวันนี้ สุขภาพแย่วันหน้า เราจะทำงานหนักได้ไปถึงเมื่อไร? ปัญหาสังคมที่เกิดขึ้นจากการทำงานหนัก จะแก้ปัญหาอย่างไรจน "วันหน้า" มาถึง? เราจะรีสกิลได้ยังไงถ้าเราไม่มีเวลามานั่งรีสกิล? จะเมื่อไรๆก็วิกฤตหมด
แต่ถ้าเรารู้แล้วว่าการทำงานหนักไม่ใช่ปัจจัยเดียวในการอยู่รอดหรือประสบความสำเร็จ (หรืออาจจะไม่ใช่ปัจจัยเลยด้วยซ้ำ) เราสามารถหยุดส่งต่อค่านิยมtoxicแบบนี้ได้ตั้งแต่ตอนนี้
ที่สำคัญอีกอย่าง ไม่ใช่ทุกคนจะชอบการทำงานหนัก หรือมีความสามารถในการทำงานหนักได้ แต่ละคนก็มีภาระไม่เหมือนกัน บางคนเดินทางไปกลับที่ทำงาน 4 ชม. บางคนมีครอบครัวหมาแมวต้องดูแล ดังนั้นการพร่ำบอกให้ทุกคนทำงานหนักหมด เลยไม่ใช่วิธ๊การแก้ปัญหาที่ดีเลย เพราะมันละเลยคนจำนวนมากที่มีเงื่อนไขต่างๆให้ไม่สามารถทำได้นั่นเอง
.....

อ่านต่อ
Do workers in richer countries work longer hours?
Workers in richer countries tend to work fewer hours than those in poorer countries.
อันนี้เป็นอีกอันที่อธิบายได้ดีมากๆ