๗ สิงหาคม วันยุบพรรคก้าวไกล (หรือไม่) ถ้าถาม วิโรจน์ ลักขณาอดิสร ในฐานะ ส.ส.ก้าวไกล เขาก็บอกแบบเดียวกับที่ ชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพูดมาตลอด ว่าพรรคเตรียมการไว้หมดแล้ว และเดินต่อไปไม่ว่าจะเป็นกรณีไหน
แม้วันนี้ก็ยังมุ่งหน้าทำงานที่ทำกันมาและทำอยู่ ไม่ต้องหวั่นไหวกับอะไร ทุกๆ ข้อกล่าวหา คนในพรรคออกมาตอบกันไว้หมดแล้ว รวมไปถึงการทำผิดกฎหมายของ กกต.ผู้ร้อง และการมั่วเหมารวมคดีก่อนหน้ามาเป็นคดีนี้ของผู้รับคำร้อง ซึ่งผิด
รายการ Off the Record ก็เลยไปถามคนที่อยู่ในกลุ่มสารตั้งต้นของพรรค พรรณิการ์ วานิช แห่งคณะก้าวหน้า พิธีกรยิงคำถาม “ได้เตรียมการรองรับอย่างไรบ้าง จะมีงูเห่าอีกหรือเปล่า ถ้าไป (ต่อ) จะไปได้ทั้งหมดหรือเปล่า คะคุณช่อ”
พรรณิการ์บอกว่าขอตอบอย่างคนที่เคยถูกยุบพรรคมาก่อนแล้วกัน “เท่าที่พูดได้ก็คือ ช่วงเวลาที่ยากลำบากที่สุดก็ตอนก่อนยุบพรรคนี่ละ ส.ส.ย่อมมีความหวั่นไหวตามประสามนุษย์” แต่เมื่อถึง ๗ สิงหา “ถ้าไม่ยุบก็ไม่มีปัญหา เดินทางกันไปต่อ
ถ้ายุบก็ไม่มีปัญหาอีกเช่นกัน เชื่อว่า ส.ส.จะจับมือกันแล้วเดินไปสู่พรรคการเมืองใหม่ ไม่สามารถการันตีได้ว่าจะไปกันร้อยเปอร์เซ็นต์ ทั้ง ๑๕๐ คนหรือไม่” แต่ “พูดในแง่เราก็ช่วยพวกเขาหาเสียงมา แล้วสนิทสนมคลุกคลีคุ้นเคยกับ ส.ส.จำนวนมากของพรรค”
เชื่อว่า ส.ส.จำนวนมาก...ในวันที่เขาเดินมาสมัครพรรคก้าวไกล พวกเขารู้อยู่แล้ว...เตรียมใจไว้อยู่แล้วว่ามีสิทธิที่พรรคจะโดนยุบอีกครั้ง...มันไม่เหมือนตอน ‘อนาคตใหม่’ ที่คนมาสมัครตอนนั้น คงไม่ได้คิดเรื่องจะถูกยุบพรรคหรือไม่
ตอนอนาคตใหม่มันเป็นการสร้างพรรคที่ใหม่จริงๆ ใช้เวลาน้อยมากในการคัดกรองคนที่เดินเข้ามาร่วมทางกัน ณ วันนั้นก็ยังไม่มีความชัดเจน จุดยืน อุดมการณ์ อะไรต่างๆ เหมือนกับก้าวไกลซึ่งผ่านเวลามาหลายปี พิสูจน์ตัวเองมามากแล้ว
แม้จะเป็น ส.ส.ใหม่ก้าวไกลขณะนี้ แต่เขาก็ได้ทำงานพิสูจน์ตัวเองมาตลอด เป็นแคนดิเดตและชนะเลือกตั้ง รู้จุดยืนรู้ความเสี่ยง จริงๆ แล้วผู้ที่เดินเข้าก้าวไกลสมัยนี้ เดินเข้ามาทั้งๆ ที่รู้ว่าพรรคถูกกล่าวหาล้มเจ้าด้วยซ้ำไป” ซึ่งแรกๆ อนาคตใหม่ไม่มีข้อหานี้