วันเสาร์, มิถุนายน 01, 2567

มีคนเถียง Thanapol Eawsakul ว่า ‘ชินวัตร’ ปิด ‘Voice’ และ ‘echo’ ไม่ใช่เพราะวางมือการเมือง

รายนี้ไม่รู้ นายแบก หรือเปล่า เขาไปแย้งโพสต์ของ Thanapol Eawsakul ว่าเครือข่าย ชินวัตร ไม่ได้วางมือการเมืองอย่างที่คาดหมาย “หรอกครับ” Pairoj Buapuean ว่า “แค่ทำ online ได้ผลเท่ากัน แต่ใช้เงินน้อยกว่าหลายร้อยเท่า”

ธนาพลเก็บเอาข่าวการยุติกิจการ ‘echo’ บริษัทในเครือว้อยซ์ทีวีที่รับงานผลิตคอนเท้นต์เคียงข้างมากับว้อยซ์ฯ ตั้งแต่ต้น บอกลา “งานเลี้ยงต้องมีเลิกรา” เช่นเดียวกับการปิดกิจการของว้อยซ์ฯ ในวันที่ ๓๑ พฤษภา เมื่อวานนี้

ธนาพลท้าวความว่าที่ว้อยซ์ฯ ปิดกิจการไม่ใช่เพราะขาดทุน เพราะถ้าเหตุนี้คงปิดไปนานแล้ว เนื่องจากว้อยซ์ฯ ขาดทุนมาตลอด ๑๕ ปี เฉลี่ยปีละ ๑๙๓ ล้านบาท (หรือวันละ ๕๒๙,๖๘๐ บาท เป็นเวลา ๕,๔๗๕ วัน)

เขาว่านี่เองเป็น “สัญญานวางมือทางการเมืองของทักษิณ ชินวัตร และครอบครัว” เนื่องมาแต่จุดมุ่งหมายของการทำกิจการว้อยซ์และเอคโก เพื่อเป็นฐานหนุนทางการเมือง สืบเนื่องจาก SC Matchbox สมัย ไทยรักไทย

หลังจากชินวัตรขายหุ้นเอสซีแม๊ทช์บ๊อกซ์ให้กับเทมาเซ็คในปี ๒๕๔๙ ไม่นานก็เกิดรัฐประหาร ๑๙ กันยา ๔๙ จึงมีการเปิดว้อยซ์และเอคโก เป็นโปรดัคชั่นเฮ้าส์แทนเอสซีแม๊ทช์บ๊อกซ์ สำหรับการเลือกตั้ง ๕๔, ๕๗ , ๖๒ และ ๖๖

แต่สำหรับการเลือกตั้ง ๗๐ ที่กำลังมา ธนาพลว่า “คะแนนความนิยมของ อุ๊งอิ๊ง เเพทองธาร ชินวัตร ต่ำเตี้ยเรี่ยดินมาก ให้ใครมาทำก็ไม่สามารถชนะเลือกตั้งได้” จึงจะไม่มีชินวัตรคนไหนเสนอตัวในครั้งนี้ เขาว่าดูจากแบบแผนของทักษิณเอง

“เลือกตั้ง ๒๕๓๙ ที่ทักษิณถอนตัวไม่ลงสมัครรับเลือกตั้ง พรรคพลังธรรม ใน กทม. เมื่อรู้ว่าแพ้แน่ ๆ และแพ้จริง ๆ เมื่อมี สส.เพียง ๑ คนคือ สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์”

(https://www.facebook.com/thanapol.eawsakul/posts/jCL1zv1i1fLkA)