วันอังคาร, มิถุนายน 11, 2567

เพราะสิ้นปีนี้จีดีพีจะโตได้แค่ ๒.๕% ไม่ถึงฝัน จึงต้องออกมาตรการ ‘ทักษิโณมิค’ มาดัน ดึงเงินออกสินออกมาใช้แสนล้าน ให้แบ๊งค์พาณิชย์ปล่อยกู้เอสเอ็มอี

รัฐบาลเศรษฐายอมรับสิ้นปีนี้ (๖๗) จีดีพีจะโตได้แค่ ๒.๔ ถึง ๒.๕% เท่านั้น แต่เนื่องจากอยากเห็นโตถึง ๓% และระยะยาวไปถึงฝัน ๕% ให้จงได้ 
สามกุมารเศรษฐกิจของรัฐบาลก็เลยร่วมกันแถลงมาตรการขับเคลื่อนใหม่ ๓ อย่าง

พิชัย ชุณหวชิร รองนายกฯ และ  รมว.คลัง จุลพันธุ์ อมรวิวัฒน์ และ เผ่าภูมิ โรจนสกุล สองรัฐมนตรีช่วยคลัง เอาสูตร ทักษิโณมิค มาใช้ นอกจากผลักดันการท่องเที่ยวหนักขึ้น และเร่งรัดการเบิกจ่ายเงินงบประมาณให้ว่องไวทันใช้แล้ว

“มาตรการที่สาม คือ เร่งรัดการลงทุนของภาคเอกชน โดยให้ธนาคารออมสินออกมาตรการสินเชื่ออัตราดอกเบี้ยต่ำ หรือ ‘soft loan’ วงเงิน ๑๐๐,๐๐๐ ล้านบาท ปล่อยให้กับธนาคารพาณิชย์ในอัตรา ๐.%” เพื่อปล่อยต่อแก่กิจการ SMEs รายใหม่

นโยบายดึงเงินจากธนาคารออมสินมาใช้นี้ สมัย ทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกฯ ชมกันว่าเป็นอัจฉริยะยิ่งนัก นัยว่าแต่ก่อนไม่มีใครกล้าแตะเงินออมสิน ด้วยเสียงซุบซิบว่ามีที่ไปแน่นอน แต่ทักษิณกล้าทำ ไม่รู้คราวนี้ได้บารมีจากทักษิณหรือเปล่า

แต่ช่างเถอะเรื่องเม้าท์ไม่เข้าท่า ที่แน่ๆ หัวหน้าคลังคนปัจจุบันบอก “ออมสินปล่อย ๐.% ต้นทุน ๑.% บวกค่าจัดการนิดหน่อยเป็น ๒% ต้นๆ ก็มีผลต่อกำไรขาดทุนประมาณ ๑,๐๐๐ ล้าน (เท่านั้น) ตามวิสัยออมสิน

และการปล่อยต่อเป็นสินเชื่อให้กิจการเอสเอ็มอีรายใหม่ๆ ตอนนี้ยังไม่ได้กำหนดอัตราดอกเบี้ยแน่ชัด แต่คาดว่าจะอยู่ที่ ๓.๕% ใน ๑-๓ ปีแรก หลังจากนั้นปีที่ ๔-๕ อาจจะอยู่ที่ ๕-๖%” ยังถือว่าเบา

(https://thaipublica.org/.../economic-cabinet-orders-gsb.../)