ยุทธการแฉกันใน สตช. ใครกินส่วยมากกว่าใคร ระหว่าง ผบ.ตร.กับรอง ผบ.ตร. ยกระดับความเข้มข้นขึ้นไปอีกขั้น เมื่อศาลอาญาออกหมายจับ ‘บิ๊กโจ๊ก’ ฐานโดนข้อหาเป็นสุดทางเงินฟอกของกลุ่มพนันออนไลน์ ขณะที่ ‘บิ๊กต่อ’ ก็โดนฟ้องมีเงินบัญชีม้าวิ่งเข้าพก
‘ทนายตั้ม’ ษิทรา เบี้ยบังเกิด (สังกัดทีมทนายประชาชนฯ) เป็นผู้แจ้งความดำเนินคดี พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล และภรรยา ไว้ที่ สน.เตาปูน พร้อมด้วยเอกสารหลักฐานเส้นทางการเงินไปถึง ผบ.ตร. และบัญชีจ่ายเงินตำรวจไซเบอร์เดือนละล้าน
กับ น.ส.พิมพ์วิไล ตัวกลางรับเงินจากเว็บพนัน BNK Master แล้วส่งเข้าบัญชีม้าสองแห่งของนายคชาชาญและนายณัฐพงศ์ โดยเฉพาะรายแรก “เกี่ยวข้องกับ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์และภรรยา” เธอให้การว่า “ยืนยันข้อมูลทั้งหมดเป็นข้อมูลจริง”
เชื่อว่า “บันทึกรายการเคลื่อนไหวของบัญชีธนาคารจะตอบทั้งหมด” เธอเองเพียงรับจ้างทำบัญชี ค่าตอบแทนเดือนละ ๒ หมื่นบาท “แต่ไม่รู้ว่าเกี่ยวข้องกับเว็บพนันผิดกฎหมาย” ด้านทนายตั้มเปิดตัวพยานที่เป็นสายลับของตน
สายลับคนนี้เป็นหนึ่งในทีมเก็บเงินในหน่วยคอมมานโด หรือกองบังคับการหน่วยปฏิบัติการพิเศษ (นัยว่าเป็นฝักฝ่ายตำรวจ ‘สายวัง’ เช่นเดียวกับกองปราบฯ และ ผบ.ตร.) และยังเป็นทีม ‘ทีมแม่บ้านของตำรวจ’ “รู้ว่าจ่ายส่วยให้กับผู้ใดบ้าง”
ทางด้านกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงที่ ผบ.ตร.ตั้งไว้ ก่อนถูกนายกฯ เศรษฐา สั่งย้ายมาเก็บตัวไว้ที่สำนักนายกฯ เช่นเดียวกับ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล แถลงผลการตรวจสอบครั้งแรก “เชื่อว่า พล.ต.อ.สุรเชษฐ์มีส่วนร่วมกระทำผิดจริง”
นอกจากนั้นยังมีการที่ลุกแถวในแต่ละฝ่ายร้องกันไปร้องกันมาอีกสองสามรายการ รวมความว่าขณะนี้อยู่ในโหมดผลัดกันแลกหมัด แม้นว่าฝ่ายรอง ผบ.ตร.จะปล่อยหมัดแย้ปเป็นส่วนใหญ่ แต่ฝ่าย ผบ.ตร.โยนทั้งลูกอัปเปอร์คัทและฮุก
ทว่าสิ่งหนึ่งที่อาจเป็นผลสะท้อน (หรือกระทบ) จากศึกสีกากีนี้ เห็นจะเป็นราชกิจจานุเบกษา ที่เพิ่งประกาศเมื่อ ๕ เมษา ๖๗ “กฏ ก.ตร.ว่าด้วยการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ” ที่ระบุถึงการจัดลำดับอาวุโสสำหรับ ผบ.ตร. รองฯ และ จเรตำรวจ
ให้เป็นไปตามกฏข้อ ๙ ในการเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้น “ให้ผู้ที่ดำรงตำแหน่งระดับนั้นใน สตช.นานกว่า เป็นผู้มีระดับอาวุโสสูงกว่า” ถ้าดำรงตำแหน่งมานานเท่ากันให้ไปดูที่ตำแหน่งถัดลงไป ใครนานกว่าใครให้ถืออาวุโสสูงกว่า
แต่ถ้าดูย้อนลงไปแล้วยังอยู่ในตำแหน่งนานเท่ากันอีก ให้ “ผู้มีอายุมากกว่า เป็นผู้มีลำดับอาวุโสสูงกว่า” ฉะนี้กรณี ‘ข้ามห้วย’ ก็จะต้องเคลียร์กับระเบียบนี้ด้วย แต่ท้ายที่สุดก็อยู่ที่มติ ก.ตร.หรือคณะกรรมการตำรวจตอนนั้นว่าเคร่งระเบียบขนาดไหน
(https://medias.thansettakij.com/media/pdf/2024/nWOKBw0gmHVrFxegLBGq.pdf และ https://www.thairath.co.th/news/crime/2776426)