อึ้ง!ขบวนการแอบอ้างเบื้องสูง หลอกให้ส่งหมู-กุนเชียง ช่วยงาน-เข้าวัง 7 ปี 100ตัน สูญเงินฟรีกว่า10 ล้าน พอร้องทุกข์กองปราบ เจอ "ผกก." ข่มขู่ขอให้ถอนเรื่อง!!
30 ม.ค. 2567
ผู้จัดการออนไลน์
ข่าวปนคน คนปนข่าว
**อึ้ง!ขบวนการแอบอ้างเบื้องสูง หลอกให้ส่งหมู-กุนเชียง ช่วยงาน-เข้าวัง 7 ปี 100ตัน สูญเงินฟรีกว่า10 ล้าน พอร้องทุกข์กองปราบ เจอ "ผกก." ข่มขู่ขอให้ถอนเรื่อง!!
งานนี้ต้องฝากถึง "บิ๊กก้อง" พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการสอบสวนกลางลงมาตรวจสอบให้ความเป็นธรรมคลี่คลายความจริงให้ปรากฏที
เรื่องมีอยู่ว่า “สมพล ถ้ำน้อย” ในฐานะกรรมการบริษัท โชคนิพล หมูป่า จำกัด ชาวนครปฐม ซึ่งประกอบกิจการค้าเนื้อสุกรชำแหละ และเนื้อสัตว์ทุกประเภท ประกอบกิจการโรงฆ่าสัตว์และแปรรูปเนื้อสัตว์ ถูกขบวนการแอบอ้างเบื้องสูงหลอกลวงต้มตุ๋น
เริ่มจาก ปี 2559 ช่วงเวลาแห่งความโศกเศร้าของพสกนิกรชาวไทยทั้งประเทศ ต่อการเสด็จสวรรคตของ ในหลวง ร.9 ซึ่ง “สมพล ถ้ำน้อย” และครอบครัวเป็นผู้ที่มีความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ จึงต้องการจะนำอาหารมาร่วมโรงครัวพระราชทาน ที่ท้องสนามหลวง โดยได้พบกับ "นาง ฐ." ซึ่งมีตำแหน่งเป็นนายกสมาคมแห่งหนึ่ง ได้พาให้มารู้จักกับ "พล.อ.ต. สุพิชัย สุนทรบุระ" รองเลขาธิการสำนักพระราชวัง ซึ่งเป็นผู้ดูแลเต็นท์โรงครัวพระราชทาน
หลังจากงานนั้นที่ สมพลได้รู้จักกันกับ นางฐ. และพล.อ.ต.แล้ว ต่อมา นางฐ. ก็ติดต่อมาอ้าง พล.อ.ต.สุพิชัย และ พล.ท.หญิง คุณหญิงวิมล ทองพายัพ ได้มอบหมายให้ตัวเอง ประสานกับสมพล ถ้ำน้อย ให้ดำเนินการจัดส่งหมูสด และกุนเชียงเข้าวัง ผ่านประตู 2 และประตู 4 โดยในการสั่งหมูสด และกุนเชียงแต่ละครั้ง ได้ใช้ข้อความสนทนาผ่านทางไลน์ ตั้งแต่ปี 2559 เป็นต้นมา
เวลาล่วงเลยมาเรื่อยๆ “สมพล ถ้ำน้อย” ได้นำเนื้อหมูสด และกุนเชียงส่งตามการสั่งดังกล่าว โดยไม่มีการจ่ายเงินใดๆเป็นค่าตอบแทนทั้งสิ้น เป็นเวลา 7 ปี จนถึงปลายเดือนตุลาคม 2566 รวมทั้งสิ้น 525 ครั้ง คิดเป็นจำนวนหมูสด และกุนเชียงรวมกันมากกว่า 88 ตัน คิดเป็นเงินต้นทุนประมาณ 10 ล้านบาท
กระทั่ง “สมพล ถ้ำน้อย” รู้สึกว่า "มีปัญหา" เพราะ พบข้อพิรุธ ว่าการส่งหมูสดและกุนเชียงแต่ละครั้ง “ไม่มีการลงชื่อรับเนื้อหมูสด หรือกุนเชียง” แต่ประการใด
ที่น่าสนใจคือ มีการส่งหมูจำนวนมากไปที่วัดสามพระยา อ้างว่าจะไปถวายให้พระ และผู้สอบธรรมต่างๆ แต่ปรากฏว่า มีบริษัททำข้าวกล่องบริษัทหนึ่ง มารับหมูไป
ขณะเดียวกัน เป็นที่น่าสงสัยว่า บริษัทนี้มีความเกี่ยวพันเป็นน้องสาวของ"นางฐ." หรือไม่ และบริษัททำข้าวกล่องนี้ นำหมู ถวายให้พระทั้งหมดหรือไม่ เพราะดูตัวเลขแล้วมีการส่งหมูมากผิดปกติไปอย่างมาก
นอกจากนี้ ในปี 2561-2562 ในช่วงมีการจัดงานอุ่นไอรัก "นางฐ." ได้ขอสนับสนุนของรางวัลจาก “สมพล” ทางสมพล ก็สนับสนุนรางวัลเป็นสร้อยคอทองคำหนัก 1 บาท จำนวน 20 เส้น โดย สมพลได้สอบถามถึงจดหมาย หรือหนังสือขอรับการสนับสนุนหรือไม่? “นางฐ.ตอบว่า ไม่มีจดหมายหรือหนังสือการขอสนับสนุน แต่อ้างว่าจะมีหนังสือตอบรับทรงขอบใจจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 10 พระราชทานให้
ต่อจากนั้น “สมพล” ยังได้ออกซุ้มจำหน่ายอาหารและข้าวเหนียวมะม่วงและหมูหันในงานอุ่นไอรัก โดยได้นำเงินมอบให้ “พล.อ.ต.สุพิชัย สุนทรบุระ” เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลโดยไม่หักค่าใช้จ่าย รวมเป็นเงินประมาณอีก 200,000 บาท
หลังจากงานอุ่นไอรักครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2562 นายกสมาคมฯ “นางฐ.”ได้แจ้งกับสมพล อ้างว่า “พล.อ.ต.สุพิชัย สุนทรบุระ” กำลังถูกตรวจสอบเรื่องการจำหน่ายชุดไทย จึงได้ขอยืมเงินจากสมพลจำนวน 900,000 บาทโดยให้โอนเข้าบัญชีตัวเอง
ระหว่างเดือนมิถุนายน-กรกฎาคม 2561 ได้เกิดเหตุการณ์ทีมฟุตบอลหมู่ป่าอะคาเดมี่ ติดอยู่ในถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน “สมพล”ได้รับการติดต่อจาก “นางฐ.” ว่าได้รับมอบหมายจาก “พล.อ.ต.สุพิชัย สุนทรบุระ” ว่าจะมีโรงครัวพระราชทานที่บริเวณดังกล่าวจึงขอสนับสนุนหมูสดและกุนเชียง ซึ่ง สมพลสนับสนุนหมูและกุนเชียงส่งไปพื้นที่ดังกล่าวอีก 4 ตัน
แต่ในที่สุดเมื่อส่งหมูและกุนเชียงแล้ว ก็ไม่ได้มีการลงชื่อรับเหมือนเดิม และไม่ได้รับการตอบหนังสือตอบรับจากทั้ง พล.อ.ต.สุพิชัย สุนทรบุระ และนายกสมาคมฯ แต่ประการใด
พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช
ช่วงตุลาคม 2566 ได้เกิดน้ำท่วมใหญ่ที่จังหวัดอุบลราชธานี “สมพล” ได้รับการติดต่อจาก “นางฐ.” อีกครั้ง โดยแจ้งว่าได้รับมอบหมายจาก “พล.อ.ต.สุพิชัย สุนทรบุระ” เพื่อขอรับการสนับสนุน สมพลจึงได้สนับสนุนหมูสดและกุนเชียงไปอีก 5 ตัน
และสิ่งที่ยังคงมีพฤติการณ์เหมือนเดิมคือ ไม่มีการลงชื่อรับ และไม่ได้รับหนังสือตอบรับ แต่ประการใด
วันที่ 18 พฤศจิกายน 2563 มีพิธีวางศิลาฤกษ์ และเปิดอาคารที่ทำการศาลอุทธรณ์ ภาค 7 และศาลจังหวัดนครปฐม เปิดโรงครัวพระราชทาน “สมพล” ได้ตอบรับและจัดการส่งหมูและกุนเชียงให้ตลอดงาน
ต่อมา วันที่ 10มกราคม 2564 ซึ่งอยู่ในช่วงโควิด-19 “สมพล”ได้รับการติดต่อจาก “นางฐ.” คราวนี้เอ่ยอ้าง “เจ้าคุณพระสินีนาฏ พิลาสกัลยาณี” ได้ทำอาหารแจกจ่ายข้าราชบริพารในวังและประชาชนทั่วไป เนื่องในวันคล้ายวันเกิดของเจ้าคุณพระสินีนาฏ จึงขอรับการสนับสนุนจากสมพล
รวมไปถึงในวันที่ 28 กรกฎาคม 2565 ขอให้ “สมพล”ทูลเกล้าถวายกุนเชียง 2 ตัน และ วันที่ 26 มกราคม 2566 ขอให้สมพลได้ทูลเกล้าถวายเนื้อหมูอีก 1 ตัน
ต่อมาได้มีการมอบหนังสือจากสำนักพระราชวัง ให้นายสมพล โดยระบุว่ามาจาก พล.อ.อ.สถิตพงษ์ สุขวิมล ราชเลขานุการในพระองค์ 3 ฉบับ โดยมีการอ้างว่ามาจาก เจ้าคุณพระสินีนาฏ พิลาสกัลยาณี 1 ฉบับ
โดยเฉพาะฉบับของ “เจ้าคุณพระสินีนาฏ พิลาสกัลยาณี” นั้น มีความผิดปกติหลายประการ เช่น การลงพระนามไม่ตรงกับเอกสารอื่นๆ ที่มีการเผยแพร่ผ่านสื่อ การไม่มีหัวกระดาษ ไม่มีตราสัญลักษณ์ของ เจ้าคุณพระสินีนาฏ พิลาสกัลยาณี อีกทั้งยังไม่มีลงวันที่ด้วย ฯลฯ ทำให้ไม่มั่นใจว่า มีการปลอมลายเซ็นแอบอ้างเจ้าคุณพระฯ หรือไม่
ส่วนหนังสือจากสำนักพระราชวัง 3 ฉบับ ก็ไม่ได้ครอบคลุมการถวายเนื้อหมูสด และกุนเชียงจำนวนมาก ดังที่ “นางฐ.” ขอให้ส่งมาโดยตลอด 7 ปีที่ผ่านมา
แต่นางฐ.อ้างว่า “พล.อ.ต.สุพิชัย สุนทรบุระ” ยืนยันว่า สำนักพระราชวังบันทึกเอาไว้แล้วตามระเบียบ จึงทำให้สมพลยิ่งเกิดความสงสัยในความผิดปกติ
ต่อมาวันที่ 26 ตุลาคม 2566 “สมพล” เห็นความผิดปกติ จึงได้แจ้งขอหยุดการส่งหมู และกุนเชียงทั้งหมด
เมื่อ “สมพล” โทรศัพท์ทวงถามไปยัง “พล.อ.ต.สุพิชัย สุนทรบุระ” ก็ได้รับคำตอบว่าจะจ่ายเงินให้เฉพาะหมูและกุนเชียง ที่ส่งมาในปี 2566 ย้อนหลังได้ประมาณ 5 เดือนเท่านั้น
พ.ต.อ.มนุญ แก้วก่ำ
ทั้งนี้ “สมพล ถ้ำน้อย” ได้รวบรวมพยานหลักฐาน บันทึกการพูดคุยทั้งเสียงและข้อความผ่านไลน์ ภาพถ่าย และหลักฐานอื่นๆ อีกจำนวนมากไว้เรียบร้อยแล้ว
นอกจากนั้นยังมีเรื่องพฤติการณ์ ของ “นางฐ.” ที่อ้าง “พล.อ.ต.สุพิชัย สุนทรบุระ” และ อ้างเบื้องสูง เข้ามาจัดการงานสมโภช 338 ปี ของวัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์อีกด้วย และไปดำเนินการทำโครงการและเบิกค่าใช้จ่าย ที่ทางวัดไม่ได้ตกลงเห็นชอบด้วยตั้งแต่แรก จนสร้างหนี้สินให้กับวัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ จำนวนมากอีกด้วย ซึ่งตอนนี้ทางวัดได้ตั้งกรรมการขึ้นมาตรวจสอบในเรื่องนี้
เพราะมีแต่สร้างบุญแล้วมีเงินเข้าวัด แต่กรณีนี้แปลกมาก อ้างว่ามาจัดงานแต่สร้างหนี้สินให้วัด
เมื่อมาสุดทาง “สมพล ถ้ำน้อย” ตัดสินใจเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับทางตำรวจกองปราบ แต่ปรากฏว่า มีการข่มขู่ จากตำรวจ โดย "พ.ต.อ.มนุญ แก้วก่ำ" ผกก. 1 กองปราบ ระบุว่า ถ้าดำเนินคดีความต่อไป ระวังสถานการณ์จะควบคุมไม่ได้ รู้จักบ้าน “สมพล” เป็นอย่างดี และขอให้ถอนแจ้งความไปเสีย ทั้งๆ ที่ไม่มีคำชี้แจงว่า ผลการสืบสวนมีรายละเอียดอย่างไร และมีการโต้เถียงทำให้ได้รู้ว่า ยังไม่ได้มีการสอบข้อเท็จจริงด้วย!
การข่มขู่ครั้งนี้ทำให้ “สมพล และภรรยา” หวั่นเกรงความปลอดภัย จึงถึงเวลาต้องเปิดเผยความจริงว่า การสืบสวนสอบสวนจะให้ความเป็นธรรมได้จริงหรือไม่? และสมพลจะได้รับอันตรายหรือไม่ หากเกิดอะไรขึ้น หรือการกลั่นแกล้ง ก็ให้รู้กันไป ว่ามีใครอยู่ในขบวนการกลั่นแกล้งบ้าง
เพราะฉะนั้น ต้องย้ำมา ฝาก "บิ๊กก้อง” พลตำรวจโท จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการสอบสวนกลาง ให้ความเป็นธรรมกับผู้เสียหาย ในกรณีนี้ด้วย
ประการสำคัญสืบทราบมาว่า “นางฐ.” ที่มีตำแหน่งเป็นนายกสมาคมแห่งหนึ่งนี้ เคยตกเป็นผู้ต้องหาคดีเช็คเด้งมาแล้วด้วย
เรื่องนี้ทำความจริงให้ปรากฏ โดยเฉพาะสาระประเด็นแห่งคดี คือ
1.มีการปลอมลายพระหัตถ์ พระเจ้าคุณพระสินีนาฏ พิลาสกัลยาณี เป็นของจริงหรือไม่ เพราะเป็นหนังสือที่ผิดปกติวิสัย และลักษณะลายพระหัตถ์ต่างจากทุกฉบับ ตั้งแต่ตัวอักษร ส. ไม่มีหัวกระดาษ ไม่มีวันที่ ไม่มียศทหารนำหน้าฯลฯ ซึ่งเป็นเรื่องที่มีความสำคัญที่สุด โดยเฉพาะในเวลาดังกล่าว พระเจ้าคุณพระสินีนาฏ พิลาสกัลยาณี อยู่ต่างประเทศหรือไม่ ?
2.หนังสือที่ขอบคุณสมพลทั้งหมด เป็นเพียงเรื่องหมูและกุนเชียง เพียงเล็กน้อยเท่านั้น ไม่ได้ครอบคลุมหมู และกุนเชียง กว่า 100ตัน เพราะอะไร ?
3. มีการนำหมูไปให้บริษัททำกล่องข้าวเพื่อเป็นภัตตาหารถวายพระทั้งหมดหรือไม่ โดยเฉพาะที่วัดสามพระยา มีการนำไปใช้ประโยชน์ให้กับบริษัทข้าวกล่อง หรือไม่ อย่างไร ?
4. มีการสอบชุดไทยในงานอุ่นไอรัก 2 จำนวน 900,000 บาท โดยยืมเงินจากสมพลนั้น มีการสอบเรื่องอะไร และเหตุใดถึงมีการยืมเงินคนภายนอกที่ไม่เกี่ยวข้อง เพราะอะไร และต้องใช้เวลาหลายปีในการทวงคืนเพราะอะไร ถ้าไม่มีความผิดใด เหตุใดต้องมีการปกปิดชื่อ และมีบัญชีม้าในการรับเงินแทน นั้นคืออะไร
5.มีการเข้าไปแอบอ้างเจ้าคุณพระฯ เพื่อไปเป็นประธานจัดงานสมโภช 338 ปีวัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ หรือไม่? และมีการสร้างค่าใช้จ่ายหรือหนี้สินที่วัดไม่ได้ตกลงจำนวนมากหรือไม่?
ที่มา (https://mgronline.com/politics/detail/9670000008658)
