วันจันทร์, มีนาคม 06, 2566

‘ฮุนเซน’ เสนอขึ้นทะเบียนยูเนสโก มวยไทยกับกุนขแมร์ ร่วมกัน

ว่าที่จริง ข้อเสนอของ ฮุนเซน ควรรับได้ ไม่ว่าเรื่องมวย คิกบ๊อกซิ่งหรือวัน สงกรานต์ ขึ้นปีใหม่ทางจันทรคติ รวมทั้งประเพณีทางวัฒนธรรมอีกหลายอย่าง ว่าไทย กัมพูชา พม่า ลาว เป็นเจ้าของร่วมกัน แม้กระทั่งโขน ละคร

สะเด็ดฮุนเซน นายกฯ เขมร “กล่าวในงานฉลองครบรอบ ๒๕ ปี วันวัฒนธรรมแห่งชาติ ที่จัดขึ้นในกรุงพนมเปญ” ถึงข้อบาดหมางจากการที่กัมพูชาเรียกชื่อการแข่งขันชกมวยแบบใช้อาวุธครบเครื่อง ทั้งเตะ ศอก เข่า ในกีฬาซีเกมส์ว่า กุนขแมร์

ก่อความไม่พอใจอย่างยิ่งในหมู่แฟนมวยชาวไทย เนื่องจากกีฬามวยแบบเป็นที่รู้จักอยู่แล้วทั่วโลกว่า มวยไทย ทว่ากัมพูชาอ้างว่าต้นกำเนิดดั้งเดิมของศิลปป้องกันตัวชนิดนี้มาจากวัฒนธรรมเขมร แต่ทางไทยไม่ยอมรับข้ออ้างนั้น จึงเกิดการประท้วงขึ้น

รายงานข่าวจาก นสพ.ขแมร์ไทมส์ระบุคำพูดของฮุนเซน “เห็นว่าสองประเทศเพื่อนบ้านไม่ควรต้องมาเกลียดชังกัน จากประเด็นของชื่อการแข่งขันกีฬาคิกบ็อกซิ่ง ควรมีความสมานฉันท์กัน” นายกฯ เขมรให้ข้อเสนอแนะด้วยว่า

“ถ้าซีเกมส์จัดที่กัมพูชาให้เรียกว่า กุน ขแมร์และถ้าจัดในไทยก็เรียกว่า มวยไทยถ้าจัดที่ลาวเรียก มวยลาวและถ้าจัดที่พม่าให้เรียก ลัทเว่ย’” ฮุนเซนเพิ่มประเด็นเลยไปถึง วันสงกรานต์ว่าประเพณีเหล่านี้น่าจะเป็นมรดกร่วมกันทั้งไทยและกัมพูชา

เขาเสนอว่า “ในอนาคตทั้งสองประเทศควรเสนอให้ยูเนสโกบรรจุกีฬาคิกบ็อกซิ่งนี้ เป็นทรัพย์สินทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ร่วมกัน เช่นเดียวกันกับวันสงกรานต์ (งานฉลองปีใหม่)” ซึ่งไทย ลาว กัมพูชา เมียนมาร์ต่างมีประเพณีอย่างเดียวกัน

เนื่องเพราะการศึกษาประวัติศาสตร์ชาติไทยและประเทศเพื่อนบ้านในอุษาคเนย์ยุคใหม่ โดย สุจิตต์ วงศ์เทศ และชาญวิทย์ เกษตรศิริ พบว่าทั้งภูมิภาคมีวัฒนธรรมเหมือนกัน และสืบสายมาจากต้นตอเดียวกัน แม้จะมีหลายเส้นทาง

การร่วมกันยื่นจดทะเบียนยูเนสโก เป็นโอกาสที่จะปรับจูนให้สอดคล้องกัน ดีกว่าแก่งแย่งแข่งขันเสียจนขาดเอกภาพด้วยกันทั้งคู่

(https://ch3plus.com/news/international/ch3onlinenews/3373919MVk)