Jua Rattanapan
1d
เมื่อกลุ่มอนุรักษ์นิยมขวา จัดแถวรับการเลือกตั้ง
ภูมิใจไทย ก็ต้องแถวตรง เดินหน้าเข้าคอก
....................................................................
8 ปี ของคณะรัฐประหาร คสช.และรัฐบาลสืบทอดอำนาจของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชาการบริหารบ้านเมืองที่ล้มเหลวทุกด้านและนำประเทศตกต่ำกลายเป็นความเหลวของ”นิติรัฐ”
กลุ่มอนุรักษ์นิยมขวา ทหารและชนชั้นสูงรับรู้โดยทั่วกันว่าคะแนนนิยมในหมู่ประชาชนลอลงเหลือก้นบึง มวลชนไม่ให้ความเชื่อถือ บรรดานักการเมืองและพรรคการเมืองที่ร่วมกินกล้วยกันมาจึงกระโดดแยกตัวหนี เอาตัวรอด ตามทฤษฎีเห็บหมา
“พรรคภูมิใจไทย” เป็นพรรคเดียวในคณะรัฐบาลเดิมที่เพิ่มขีดความสามารถในการต่อสู้เพื่อการเลือกตั้งในครั้งที่จะถึงนี้ การคุมกระทรวงสำคัญทำให้เป็น”พรรคมีกล้วยมากที่สุด” มีบารมีในหมู่ข้าราชการและมีอิทธิพล ขณะที่พรรคพลังประชารัฐที่เดิมกวาดเอาเสือ สิงห์กระทิง เหี้ย เข้ามารวมกันจนแย่งอาหารไม่ลงตัวเกิดความแตกแยกเละละเอียด พรรคภูมิใจไทยจึงคิดการใหญ่ วางแผนเป็นพรรคการเมืองหลักในการจัดตั้งรัฐบาลฝ่ายขวาในครั้งที่จะถึงนี้ และชู นายอนุทิน ชาญวีรกุล เป็นนายกรัฐมนตรี คนเดียว แข่งกับ พลเอกประยุทธ์และพลเอกประวิตร ภายใต้การบ่งการของครูใหญ่เนวิน เจ้าพ่อเขากระโดง
“มือที่มองไม่เห็น” ที่สังกัดอนุรักษ์นิยมผู้อยู่เบื้องหลังอำนาจรัฐไทยตลอดมามีความคิดเห็นว่า พวกตนเป็นผู้ชุบเลี้ยงให้ข้าวน้ำพรรคภูมิใจไทยให้โอกาสเข้าไปนั่งในกระทรวงขุมทรัพย์ แต่มาถึงวันนี้กระด้างกระเดื่องจะจัดงานนอกสั่งคิดออกจากกรอบไปหากินเอง จึงวางแผนบดขยี้บทบาทพรรคภูมิใจไทยเพื่อบีบบังคับนายอนุทินและพรรคภูมิใจไทย พร้อมทั้งบอกเป็นนัยถึงครูใหญ่เนวินว่า “อย่าหลงตัวเอง”มึงจะอยู่ได้ต้องร่วมรัฐบาลต่อไปและนายอนุทินต้องยอมที่จะทิ้งตำแหน่งนายกรัฐมนตรียอมให้บุคคลที่ฝ่ายขวาอนุรักษ์เลือกมาเอง ซึงคงจะเป็น พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ(ตามที่ชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ กล่าวไว้) มีการเจรจาต่อรองหลายครั้งที่เสนอให้ภูมิใจไทยเข้าแถวตามหลังให้เป็นพรรคการเมืองในบังคับบัญชาแทนพรรคประชาธิปัตย์เดิมที่บัดนี้หมดน้ำยาไปแล้ว ปรากฏว่าครูใหญ่ไม่ยินยอม ยังคงยืนยันต้องการอำนาจสิทธิขาดและต้องการให้โลกยกย่องว่า “กูนี้แหละใหญ่”
แผนที่ 1 เริ่มทันทีด้วยมือที่มองเห็นของชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ บดขยี้เบาะๆ เบาๆ แค่การยกคดีรุกล้ำครอบครองที่ดินการรถไฟ เขากระโดง ก่อนการเลือกตั้งที่จะประกาศไม่กี่วันที่จะถึง ถ้าแผน 1 ไม่สำเร็จ ก็ให้เริ่มแผน 2 ถูกแผนแรก ภูมิใจไทยและคณะทรุดนอนกับที่เสมือนโดนบ้องแรกชุดพิเศษ”หางกระรอกพันธุ์เนวิน”
แผนที่ 2 ถ้า แผนแรกไม่เป็นผล ครูใหญ่เนวินและพรรคภูทิใจไทยไม่ยอม ให้รอจังหวะเลือกตั้ง ก่อนวันลงคะแนน จะระดมใช้กองกำลังอาวุธของรัฐเข้ายึดบ้านเนวิน บ้านศักดิ์สยามและสมุนบริวารรวมทั้งสนามฟุตบอลช้าง โดยนำคำพิพากษาของศาล ที่ตัดสินว่าที่ดินบริเวณเขากระโดงนี้ 5083 ไร่ เป็นของ การรถไฟแห่งประเทศไทย พร้อมขับไล่ นายครูใหญ่เนวิน เสนาบดีศักดิ์สยามและสมุนบริวารออกจากพื้นที่
แต่การณ์หาเป็นไปจนสุดคาราเบลไม่ วันนี้ ครูใหญ่เนวินและบุคลสำคัญของพรรค จึงได้จัดขบวนเข้าไปพบพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ (ผู้ประกาศตนมนจดหมายถึงประชาชนว่าตนเป็นลูกพี่ใหญ่ของกลุ่มอนุรักษ์นิยมขวา) เพื่อกราบแทบเท้ายอมสารภาพผิดที่คิดจะเทียบบารมีด้วยเหตุที่ดำกฤษฎาแห่งผลประโยชน์ในกระทรวงใหญ่บังตาจึงคิดการใหญ่ เทียบชั้นเพื่อแย่งชิงตำแหน่งหัวหน้าเสนาบดี
ท่านพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ เห็นว่าเด็กเข้าสยบใต้อุ้งตีน ก้มหัวเป็นวัวงานต่อไปแล้ว ยอมเดินตามแอกที่ครอบไว้ จึงให้สัมภาษณ์ นักข่าวด้วยความพึงใจว่า
“ไม่มีอะไร ผมกินข้าวกันไม่ได้หรือ มันผิดอะไร”
เรียบร้อยโรงเรียนพลเอกประวิตร พรรคภูมิใจไทยและครูใหญ่เนวิน ที่ลืมตัวไปชั่วขณะได้สติกลับมา รู้ว่าประเทศนี้ใครใหญ่ ?
กิรดั่งได้สดับมา
ขุนจัน พันนา
.....
ไทกร พลสุวรรณ Thaikorn polsuwan
March 15
ประวิตร +ภูมิใจไทย สมการอำนาจใหม่ เพื่อไทยชะตาขาด
ภาพที่พลเอกประวิตรนั่งทานข้าวกับอนุทิน ศักดิ์สยามและชาดา เข้ากับคำอุปมาอุปไมยที่ว่า ‘ภาพหนึ่งภาพแทนคำพูดล้านคำ’ ใครถ่ายภาพนี้และใครจงใจปล่อยภาพนี้ออกมา ไม่ต้องไปคิดหาคำตอบ ให้เอาสภาพข้อเท็จจริงในปัจจุบันมาตอบคำถามนี้
สภาพปัจจุบันของพรรคภูมิใจไทย พระศุกร์เข้าพระเสาร์แทรก เลขาธิการพรรคศักดิ์สยามโดนเต็มๆ
1. ศาลรัฐธรรมนูญสั่งให้หยุดปฎิบัติหน้าที่
2. ปปช.ชี้มูลความผิดถ่วงเวลาออกใบอนุญาตสายการบิน
3. ที่ดินเขากระโดงกำลังจะถูกยึด
4. เฮียชูวิทย์ถล่มรายวัน
ทำให้พรรคภูมิใจไทยหาเสียงไม่ได้ หาคะแนนเพิ่มไม่ได้ ต้องรักษาของเก่าไว้เท่านั้น
สภาพพลเอกประวิตร
1. ลูกพรรคตีตัวออกห่าง ย้ายหนีไปอยู่พรรคอื่น
2. ในพรรคขาดความสามัคคี
3. พรรคพลังประชารัฐไม่มีกระแส
4. ถึงแม้พลเอกประวิตรจะมีอำนาจแฝงเต็มกำมือเหมือนเดิม แต่กลับถูกฝ่ายอดีตนายกฯทักษิณหักหลัง จากคำพูด ”หลอกใช้ป้อมไปก่อน” สู่การปฏิบัติจริง หลอกใช้จริง
สภาพพลเอกประยุทธ์
1. กระแสพลเอกประยุทธ์ดีกว่ากระแสพลเอกประวิตร
2. กระแสรวมไทยสร้างชาติดีกว่ากระแสพลังประชารัฐ
3. รวมไทยสร้างชาติมีโอกาสได้ ส.ส. มากกว่าพลังประชารัฐ
สภาพพรรคเพื่อไทย
1. ติดกับดักยุบพรรคเข้าอย่างจัง กรณียินยอมให้บุคคลที่ไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคเข้าควบคุม ครอบงำ หรือชี้นำกิจกรรมของพรรค โดยทางตรงหรือโดยทางอ้อม
2. กระแสความนิยมติดเพดาน ไม่กระเตื้องขึ้น ยังปั่นให้ทะลุเพดานไม่ได้
พลเอกประวิตรจะทำอย่างไร? เมื่อภูมิใจไทยสยบยอม
-ขึ้นขี่ภูมิใจไทยกระทืบเพื่อไทย ทุบให้แตก แล้วช้อนงูเห่า
-ปล่อยโอกาสให้หลุดลอยไป ทำตัวเป็นพี่ใหญ่ใจดี รออดีตนายกฯทักษิณอุ้มขึ้นเป็นนายกฯ
ทางเลือกของพลเอกประวิตรขึ้นอยู่กับว่า ยุบพรรคเพื่อไทยใครได้ประโยชน์?
1. พลเอกประยุทธ์ได้ประโยชน์ เพราะไม่มีอดีตนายกฯทักษิณและอุ๋งอิ๋งเป็นคู่แข่ง
2. พลเอกประวิตรได้ประโยชน์ เพราะสามารถช้อนงูเห่าได้
คำถามคือ หากพรรคเพื่อไทยถูกยุบ ส.ส. เพื่อไทยจะย้ายเข้าสังกัดพรรคไหน?
1. ไปสังกัดพรรคการเมืองที่อดีตนายกฯทักษิณสั่ง
2. ไม่เข้าสังกัดพรรคพลเอกประยุทธ์และพรรคประชาธิปัตย์แน่นอน
3. ไม่เข้าสังกัดพรรคก้าวไกลและพรรคไทยสร้างไทย เพราะสองพรรคการเมืองนี้จะเป็นพรรคฝ่ายค้าน เนื่องจากสองพรรคการเมืองนี้ประกาศอย่างชัดเจนว่าจะไม่ร่วมรัฐบาลกับพลเอกประยุทธ์และพลเอกประวิตร
4. ก็เหลือเพียงพรรคภูมิใจไทยและพรรคพลังประชารัฐ หากพลเอกประวิตรและอนุทินช้อนงูเห่าได้มาก ก็จะมีอำนาจต่อรองเหนือพลเอกประยุทธ์ ต่อรองในการจัดตั้งรัฐบาล ต่อรองตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
เกมนี้จะชี้ชะตาพลเอกประวิตรและชี้ชะตาพรรคเพื่อไทย ใครจะชะตาเกิด ใครจะชะตาดับ
ไทกร พลสุวรรณ
16 มีนาคม 2566
Cr.ภาพ สปริงนิวส์